ถึงลุงแมวค่ะ

มีสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างนึง หากคิดว่าผมเจตนาระบุตำหนิอะไรแต่คงเป็นสิทธิที่จะรับรู้ ผมพูดไปลอยไปในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ไม่เป็นไรถึงบอกว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าถามผมว่ารู้แล้วทุกเรื่องไหมผมก็บอกแล้วว่าไม่รู้ทั้งหมด แต่พอมองเห็นคร่าวๆ สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ใครจะไปคิดว่าคุณคนไทบ้านจะมองออกไปในแง่นั้น

 

ต้องสืบค้นเอาเองบ้าง
เฮพาะในกท.นี้ก็พบความจริงได้

 

ท่านปราถนาพุทธภูมิหรือไม่

 

ลุงแมวก็ไม่ทราบหรอกนะฮับว่าเคย
ปรารถนาไว้ตั้งแต่ภพชาติ
ปางไหนหรือเปล่า
แต่ชาตินี้ก็ยังไม่เคยตั้งปรารถนาพุทธภูมิ
แต่อย่างใดฮับ

 

ผมไม่ได้หวังอะไรจากคุณคนไทบ้านหรอก แต่ทุกสิ่งที่คุณตอบอาจเป็นการที่คุณอาจจะมองเห็นบางสิ่งในตัวตนของคุณเอง ทำไมถึงคิดว่าเป็นอย่างนั้น

 

ปัจจุบันท่านอยู่ในศีล 5 หรือ ศีล 8

 

5

 

ระหว่างสร้างบารมี.
กับไม่อยากเกิด.
น้อมไปทางไหน.

 

จริงๆ ต้องการพ้นทุกข์ปัจจุบันทัน
ด่วนเท่านั้น นั่นคือสิ้นยึดตัวตน
ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยใส่ใจฮับ
โดยเฉพาะการอยากได้ อยากดี อยากมี
อยากเป็นอะไรต่อมิอะไรเพราะเห็น
เป็นความไม่เที่ยง
ในทุกๆ เมนูชีวิต

 

ตอนนี้มีภาระทางโลกไหม.

 

บางทีหนูว่าอารมณ์วัยทองมาผสม แบบผ่านโลกเยอะแล้ว ...ก็ใกล้เคียงอารมณ์อยากพ้นวัฎจักรสงสารนะ ..ว่ามั้ยคะ

 

ขณะนี้มีรายการสอบสัมภาษณ์พุทธะเวิร์ล

ทางพิธีกรมีการจัด 20 คำถาม และ 3 ตัวช่วยหาก ไม่ถ่องแท้สามารถเรียกใช้ฟังค์ชั่น ตัดข้อความ / ตอบสองครั้ง / ถามพิธีกร นะฮับ

 

ใช่ใช่ มีส่วนใช่อยู่บ้าง
แต่อารมย์แบบนั้นคือหลงสังขาร
คิดปรุงแต่งโดยไม่ประกอบด้วยสติ สมาธิปัญญา บางคนก็คิดอยากตาย ให้พ้นๆ ความวุ่นวาย
ทางโลก
อยากตายเพราะเบื่อชีวิต( อยู่มานานลูกหลานไม่มาสนใจ55)คิดแบบชาวโลกที่ผิดหวังบางอย่าง
ยิ่งไปกันใหญ่เลยล่ะนั่น

 

มีภาระชีวิตแบบคนวัยเกษียณฮับ
คือดูแลช่วยเหลือคนรอบข้าง
และไม่ดิ้นรนหาภาระมาเพิ่ม
หลักๆ
คือบริการการสังขารที่ตนเองแบกอยู่
ไม่ให้พบกับสภาวะ
หิวโหย ร้อนจัด หนาวจัด
หรือการถูกบีบคั้นต่างๆ
ฮับ

 

รายการ "คนค้นธรรม" 55

 

พูดไปลอยๆ ทำไมอะครับ มันไม่มีเหตุมันจะพูดไปลอยๆได้หรือ ทบทวนเหตุหน่อยครับมันต้องมี หรือว่าพอดีเข้าทรงตอนนั้นเลยไม่รู้ตัวครับ วันก่อนที่โพสต์ๆอะไรมาลืมหมดแล้ว? อ้อๆ ยังไงก็อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอยู่ดี เนาะ

 

ขันธ์ ๕ ย่นลงมาเหลือ ๒
คือ ร่างกาย.และจิต.
ร่างกายและจิต.เพิ่มอีก.๑.คือ.เรา.
เป็น.๓.หมายถึง.ตัวตนเรา.
ตัว.คือร่างกาย..
ตน.คือจิต.
เรา.คือผู้เข้ามาอยู่อาศัยจิตและร่างกาย.
จิตและร่างกายนี่แหละ.
คือเหตุแห่งทุกทั้งปวง.
ขันธ์.๕.เป็นอนิจจัง.ทุกข์ขัง.
พระพุทธเจ้าตรัสว่า.ขันธ์ทั้ง.๕.
เขาปั้นแต่งใว้ก่อนเรา.
เราเข้ามาอาศัยอยุ่เท่านั้น.
พระพุทธเจ้าสอนให้ทำคาวมดี.
ทำจิตให้สะอาด.น้อมไปในด้านกุศล.
คือศีล.สมาธิ.ปัญญา.
จิตที่สะอาดคือจิตสีขาว.
จิตที่สิ้นอาสวะคือจิตที่ใส.ประภัสสร.
จิตประภัสสรเปรียบเหมือนดอกบัว.
ที่เกิดจากโคลนตม.แต่ดอกบัวที่บานแล้ว.
ไม่ติดโคลนตม.แม้จิตประภัสสรแล้ว.
พระพุทธเจ้าก็ให้ปล่อยวาง.จิตที่ประภัสสรนั้น.
คืนสู่ที่เดิม.คือ.เป็น.อนัตตา.

 

คุณครับอุปนิสัยสัตว์ไม่เหมือนกันหรอกครับ มีแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงมีพระสัพพัญญุตญาณหยั่งรู้อุปนิสัยสัตว์ นอกนั้นต้องระวังให้มาก ดีไม่ดีอาจไปขวางมรรคผลเขาเฉยๆแบบคาดไม่ถึงก็ได้ กลายเป็นบาปเป็นกรรมกับตัวเองไปเปล่าๆ

ส่วนเรื่องไหนที่คุณสงสัยในการปฏิบัติของผม ว่ามันจะเป็นไปได้หรือ ถามครับ จะตอบให้หายข้องใจทุกประเด็น ไม่มีอ้ำอึ้ง ไม่มีหนี จะได้ไม่ค้างคาใจกัน ถ้าไม่เก็ทกันจริงๆ ก็เลิก แยกย้ายกันไปตามหน้าที่ แต่อย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว

 

แก้ไขได้อีกหลายหน
กว่าจะถูกหมด ต้องเหนื่อยหน่อยนะ
ฮับ

 

อ่านแล้วเข้าใจ.
ก็เป็นอันใช้ได้.