โต้เท่าไรก็ไม่พ้นทุกขํ

ตอนมีชีวิตก็จิตดวงนี้.
ตายแล้วก็จิตดวงนี้.
จิตเดิมแท้ก็จิตดวงนี้.
หลงว่ามีจิตหลายดวง.
ก็เจอทางตันเท่านั้นเอง.

 

ปรัชญาอีกแล้วฮับ
ความจริงมันไม่ใช่จิตดวงเดียวฮับ
จิตมันคือมีความไม่เที่ยงฮับ

 

จิตไม่มีดับ.
จิตไม่มีเกิด.
จิตไม่มีการสลาย.
จิตไปนิพพานไม่ได้

 

เกิดดับคือเรา.
เราเกิด.
ก็เรานั่นแหละ.
ดับการเกิด.
เราไม่ดับ.
ใครที่ไหน.
จะมาดับให้เรา.

 

^
เฮีย !

 

"เมื่อเราคือเกิดดับ = นิพพานไม่มีจริง"

และอีกคำพูดคือ

"จิตไปนิพพานไม่ได้"

คุณควรเปลี่ยนศาสนาไปซะ "อย่าเอาพุทธศาสนามาหากิน คนที่ตามคุณเพื่อนและเห็นด้วยกับมันก็ดูเอาเองแล้วกันนะครับ"

นี่คือ โคตรมิจฉาทิษฏิ และ โคตรจะปิดมรรคผล ดังนั้นขอให้โชคดีกับผู้ที่เห็นด้วยนะครับ

 

แถม..

"เป็นผู้พูดเท็จ คือ เขาอยู่ในสภา ในบริษัท ในท่ามกลางญาติ ใน
ท่ามกลางเสนา หรือในท่ามกลางราชสกุล ถูกผู้อื่นนำไปเป็นพยานซักถามว่า มา
เถิดบุรุษผู้เจริญ ท่านรู้สิ่งใดจงพูดสิ่งนั้น ดังนี้ บุคคลผู้นั้นเมื่อไม่รู้ก็กล่าวว่ารู้
หรือเมื่อรู้ก็กล่าวว่าไม่รู้ เมื่อไม่เห็นก็กล่าวว่าเห็น หรือเมื่อเห็นก็กล่าวว่าไม่เห็น
เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้ เพราะเหตุแห่งตนบ้าง เพราะเหตุแห่งผู้อื่นบ้าง เพราะเหตุ
เห็นแก่อามิสเล็กน้อยบ้าง ด้วยประการดังนี้ ๑ เป็นผู้พูดส่อเสียด คือ ฟังข้าง
นี้แล้วไปบอกข้างโน้นเพื่อทำลายคนหมู่นี้ หรือฟังข้างโน้นมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลาย
คนหมู่โน้น ยุยงคนทั้งหลายผู้สามัคคีกันให้แตกกัน หรือส่งเสริมคนผู้แตกกันแล้ว
ชอบความแยกกัน ยินดีความแยกกัน เพลิดเพลินในความแยกกัน กล่าวแต่คำ
ที่ทำให้แยกกัน ๑ เป็นผู้พูดคำหยาบ คือกล่าววาจาหยาบช้า กล้าแข็งเดือดร้อนผู้อื่น
เสียดสีผู้อื่น ใกล้ต่อความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อสมาธิ ๑ เป็นพูดเพ้อเจ้อ คือ
กล่าวไม่ถูกกาล กล่าวไม่จริง กล่าวไม่อิงอรรถ กล่าวไม่อิงธรรม กล่าวไม่อิง
วินัย กล่าววาจาที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้างอิง ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ประกอบด้วย
ประโยชน์ โดยกาลอันไม่ควร"


ธรรม(อกุศลธรรม) ในข้อความข้างบนคุณเพื่อนมี "ทั้งหมด" เลยครับยินดีด้วยได้ลงไปแช่ออนเซ็นอีกนานนะครับ

 

ตามนั้นครับ "เลิกเล่นบอร์ดพุทธศาสนาไปนะครับ"

 

"สรุปให้ฟังง่ายๆ สำหรับคนที่เลือกจะเชื่อพวกเทวทัต 2 เอาเอง"

คือเพื่อนจะบอกว่า "จิตมีดวงเดียว" และ "จิตไม่มีดับ ไม่มีเกิด จิตไปนิพพานไม่ได้" แล้วอยู่จะพลิกลิ้น "เราเกิดเราดับ?" แล้วทำไมบอกจิตไปนิพพานไม่ได้ หืม?

โคตรย้อนแย้งในตนเองมาตั้งแต่ "โพสท์แรกๆแล้วด้วยซ้ำ พวกที่หลงเชื่อไปแม้เพียงนิด ควรสังเวชตนเองได้แล้วว่าได้ไปทำกิจกรรมกับเทวทัต 2 ต่อให้ไม่ยอมสังเวชเดี๋ยววิบากจะพาให้สังเวชเองนั่นแล"

 

โอยยยยย ตาย ห้า เลยนะแบบนี้

 

ไม่ได้บอกไห้เชื่อ.
แต่บอกไห้ใช้.
ปัญญา.

 

เราพาจิตเกิด.
ไม่ไช่.
จิตพาเราเกิด.

 

จิต (วิญาณขันธ์) นี้ไม่เคยเที่ยง มีเกิดมีดับ
จิตเป็นนามธรรม ทำหน้าที่เป็นเครื่องรู้อารมย์
ไม่มีตัวตนจะสลายยังงัยล่ะนั่น
ถ้าจิตมันหยุดเคลื่อนไหวไปตามสิ่งกระทบ
มันได้แต่รับรู้แล้วปล่อยผ่านไป ๆ
ไม่ปรุงแต่งอะไรมันก็สิ้นทุกข์ แต่โดยธรรม
ชาติมันต้องปรุงแต่งตลอดเวลาถ้าร่างกาย
ยังไม่ตาย
จะไปห้ามปรุงแต่งไม่ได้ เราต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น
ในอารมย์เหล่านั้น จึงจะพ้นทุกข์ได้
ทำได้นานสืบเนื่องขนาดไหนก็แค่นั้นแหล่ะ
ถ้าไม่ขาดสายเลยก็ไม่มีทุกข์เลย... จะเรียก
อะไรดีล่ะฮับ

 

จะแถอะไรอีก "คนพุทธ = เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า หลักธรรมเพื่อปฏิบัติให้ถึงคือนิพพาน"

"เอาง่ายๆมึงแถแบบนี้บอกไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่มึงค้านว่า จิตไปนิพพานไม่ได้" มึงเก่งกว่าพุทธองค์อีกดิ(ความจริงมันเห็นยังงี้) มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ?

แถม มึงเอาคำพูดของพระพุทธองค์มาก๊อปวาง "แต่มึงค้านถึง ธรรมสูงสุดในพุทธศาสนา"

"มึงเปลี่ยนศาสนาไปเหอะเพราะถ้ามึงบอกว่าจิตไปนิพพานไม่ได้ แสดงว่า มึงกล่าวตู่ถึง ทั้งพระพุทธองค์และพระอรหันต์"

"ใครลากมึงมาและเห็นด้วยก็ยินดีด้วย ธรรมใดที่ปฏิบัติได้จะถดถอย ธรรมใดที่ยังไม่ได้จะไม่ได้" และ มึงไอ้สัตว์นรก "มึงจะวิปลาศ(รับรู้ไม่ตรงตามจริง)อีกยาวๆ(เพราะเป็นก่อนจะลามไปถึงนิพพานแล้วที่พูดไม่รู้เรื่อง)"

 

เราไม่มี ถ้าเชื่อว่ามีตัวเราเป็นอวิชชา(หลง)
เป็นมิจฉาทิฏฐิ

 

ลุงแมวจะช่วยฉุด "สัตว์นรกที่ทำตัวเก่งกว่าศาสดา" พึงระวังวิบากด้วยนะฮับเตือนด้วยความหวังดี

 

งั้นปล่อยเลยฮับ ไม่คุยแล้ว

 

ต้อง งด คำเหมือนจะปรัชญาก่อนครับ

อาจทำให้สับสน มันจะหาช่องยาก ในการสนทนา

 

ขุดหลุมฝังกระมู้ว์เลยดีกว่ามั้ง55

 

บอกเอาจิตไปนิพพานได้.
มิน่าล่ะ.
ศึกษาเท่าไหร่
ก็ไม่พันทุกข์.
ศึกษาเท่าไหร่
ถึงไม่หลุดพ้น.
เพราะหลงจะพาเอาจิต.
ไปนิพพาน.
นี่เอง..