เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ทุกข์ ข้อ ค และ ง. เป็นทุกข์จากการยึดมั่น เป็นทุกข์จากอุปาทาน ถ้าไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ใช่ไหมคะ เพียงเรารู้และก็เฉยปล่อยวางมันไม่มีผลทำให้เราทุกข์ได้หรอกค่ะ เปรียบเทียบได้เลย ที่เจอภาวะเหมือนกันแต่วางใจไว้คนแบบ ผลที่ออกมาก็ต่างกัน

ทุกข์ ข้อ ก. เป็นธรรมดา ที่อยู่ในธรรมชาติเป็นทุกข์เพราะเหตุ คือ เราต้องเจอทั้งสุข และทุกข์ ก็ล้วนมาจากเหตุ

ส่วนทุกข์ข้อ ข. นั่นไม่ว่าจะอย่างไรความจริง ที่หนีไม่พ้น เมื่อสิ่งใดตกลงไปในกฎอนิจจัง ย่อมหนีไม่พ้น

ถ้าถามว่าทุกข์อะไร ก็ทุกข์เพราะไม่รู้ ซะมากกว่า สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะไม่ว่าอะไรถ้าเรารู้ หรือมีตัวรู้ หรือรู้ว่า..เป็นเพราะอะไร ความสงบ หรือ การกำหนดรู้ได้ จะช่วยได้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ

และการทำใจยอมรับ ส่วนใหญ่แล้วก็มีมาจากคำว่า "รู้" ตัวเดียว สิ่งที่ต้องเป็นต้องอยู่ ก็เหมือนกับทำให้เราไม่ทุรนทุรายในการวนเวียนในวัฎฏะ เสียจนมากเกินไป นะค่ะ

 

ใครเคยเจอบ้าง ทุกข์จากคนอื่น และเรารับรู้ได้จากการบีบเค้นทางใจของเขา เราไปรับรู้ได้ และส่งผลให้เรารับรู้และร่วมทุกข์ไปด้วย น่าเหนื่อยหน่าย และอึดอัด อยากหลีกหนีไปให้พ้น

 

ขันธ์5 เปนของกลาง

ไม่ใช่ ของคนใด คนหนึ่ง

ไม่ใช่ สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา

สภาพรู้ เปน ธาตุ เกิดตามปัจจัยการ
เหตุคือโลก ผล ก้คือวัฏ หมุนวน
เปนชองโลก

แต่ที่ ทุกข์ เพราะไป ฉวย
"ธาตุรู้" มาเปนตน เพราะ
ขาด การกำหนด"รู้"

ทุกข์ โดยสั้นๆ คือ อุปทาน(ต่อ)ขันธ์

ละ อุปทานได้ ก้ อนุโลมไปตามโลก
อย่าง มี จาคะ และ ความปรกติตามธรรม

 

+++ หา...... จิงง่ะ...... หือ.....
+++ แล้วนี่ อาราย....... หา....
https://palungjit.org/members/jityim.690007/

 

คนที่เห็นธรรมแบบหลวงพ่อ ป. สอน คนที่เป็นศิษย์หลวงพ่อ ป. มักปฏิเสธการเห็นแบบอื่น ยิ่งเรื่องฌาน ยิ่งปฏิเสธ..

คำสอนประเภทอื่น จะปฏิเสธ แต่คำสอนหลวงพ่อ ป. ที่ตรงจริตตน ก็เห็นว่า นี่แหละใช่ที่สุด..

(แค่ขณิกะสมาธิ มันจะสุดอะไร)

ชอบมองว่า ตนรู้แล้ว เห็นแล้ว ไม่ค่อยฟังใคร เชื่อตนเองอย่างแรงกล้า อันนี้ก็ดูจากคนใกล้ตัว ไม่ได้ว่าคนส่วนอื่นๆ..

 

พวกใช้ปัญญาอย่างเดียว แบบสุขวิปัสโก นี่พูดคุยด้วยยาก..

เชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่เชื่อใคร..

ชอบสอนคนอื่น โดยที่ตนเองก็ยังเดินไม่สุดทาง..

 

5555 นั่นนะซิคะท่านธรรมชาติ นี่จิตยิ้มไม่ได้พูดเล่นนะ จิตยิ้มรักชื่อนี้มาก และไม่มีเหตุผลอะไรจริง ๆ เลยนะคะที่มาต้องใช้ขื่อใหม่

เมื่อหลายวันก่อนค่ะ ไม่ใช่แต่จะเข้าชื่อในระบบแต่ของ jityim. เท่านั้น ชื่ออื่นด้วยค่ะ ก็ไม่มีในระบบด้วย
เช่นคะนึง ด้วยก็เป็นเหมือนกันค่ะ ที่หายไปจากเว็บด้วยเหตุนี้ ตอนแรกกะว่าจะไม่สมัครใหม่ เพราะคงไม่มีอะไรแล้วมั้งค่ะ แต่อยู่ดี ๆ ก็สมัครและได้ชื่อนี้มาค่ะ

แต่ก็ต้องขอบคุณท่านธรรม-ชาติ มากค่ะ ที่ทำให้รู้ว่าตัวเองยังใช้ขื่อ jityim ได้อยู่

 

รู้สึกตัว ที่เป็นขณิกะสมาธิ

ประเภท โทสะเกิด เอ๊ะ!! รู้สึก..

ราคะเกิด เอ๊ะ!! รู้สึก..

อารมณ์ใดเกิด ก็ เอ๊ะ!! รู้สึก..

แบบนี้ นี่ อย่า มา คุย เลย ว่า เห็น ธรรม

เห็น แบบ นี้ เขา เรียก ว่า ยัง ประมาท อยู่..

 

@คว้ามี

 

@แกะฟมฟู

 

จินฯจักรยาน

 

@ฟ้าไม่มี เชย

 

เหตุผลว่าทำไมจึงรับรู้ได้ว่าโลกหมุน

https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/70733/-blo-sciphy-sci-

และโลกกำลังหมุนช้าลง

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2742173

 

เรื่องของ สุกิจ ยิ่งหนักกว่า ผู้วิเศษคนอื่นๆ555555

ถึงขนาดดวงจิต เป็น ผู้ทำลายล้างโลก..

จิตยิ้ม(ฟ้ามี) นี่ ก็ คง เป็น ผู้ทำลายล้างโลก อีก คน 555555

 

ตัวละคร เริ่มโผล่มาทีละตัว..

ตัวหมากในกระดาน เริ่มเดิน ที ละ ตัว..

 

อะไรหรือคะ ตัวละครนั้นน่ะ ถ้าพูดถึงตัวหมากในละครนี่คืออะไรคะ

 

ผู้ทำลายล้างโลกคงจะเป็นมนุษย์ผู้อยู่ในโลกนี้เสียมากกว่าที่จะเป็นผู้ทำลายล้างโลกด้วยมือของตนเอง อย่างเช่น การเข่นฆ่า เบียดเบียน และเป็นอุปสรรคต่อกัน และที่สำคัญคือการทำล้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หรืออาวุธเชื้อโรค

และผู้ที่มีจิตสำนึกบกพร่องทั้งหลาย ผู้ที่บกพร่องต่อพันธสัญญา ผู้ที่ละเลยหน้าที่ทางจิตวิญญาณ ด้วยการมัวเมาเพลิดเพลินอยู่กับผลผลิตที่ไร้จิตสำนึก แทนที่คุณธรรม มโนธรรม จะช่วยค้ำจุนโลกให้สมดุลได้ กลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า ปล่อยให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลายเป็นลมหายใจของมนุษย์ทุกคนไป คล้ายกับศาสนาใหม่ที่ผู้คนคลั่งใคล้และยอมรับมันมากกว่าศาสนาแห่งจักรวาลที่แท้จริง โลกกับมนุษย์จึงไม่อาจหนีวิบัติอันน่าพรั่นพรึงได้

จักรวาลมองเห็นอนาคตที่มนุษย์จะต้องเผชิญ อันเกิดจากการกระทำของตนเองจนทำลายความสมดุลของสรรพสิ่งในระบบโลก

และทำลายระดับความสมดุลทางพลังงานในมิติคู่ขนานซึ่งจะนำมหันตภัยร้ายแรงมาสู่ดาวเคราะห์โลก ระบบสุริยะจักรวาลและกาแล๊กซี่ทางข้างเผือกตามลำดับ ที่มนุษย์ไม่มีวิสัยทัศน์้พราะขาดจิตสำนึกที่จะหยั่งรู้ได้

ดวงจิตที่ทำลายล้างโลกดั่งที่ได้กล่าวมานั้น...

เพราะมนุษย์ไม่รู้ว่าเกิดมาบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ทำไม?

ตนเองเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์โลกดวงนี้อย่างไร?

ตนเองเป็นใคร
ตนเองมาจากไหน?

มนุษย์รู้จักดาวเคราะห์โลกของตนน้อยมาก เพราะคิดเสมอว่าตนเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง โลกเป็นเพียงสรรพสิ่งหนึ่งไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีเหมือนตน ให้ความสำคัญว่าโลก เป็นเพียงแค่สถานที่ เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และการตายของร่างกายตนที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะสมยิ่งเท่านั้น

โดยไม่เคยใส่ใจหาความจริงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับดาวเคราะห์โลกให้มากกว่านี้ เป็นผู้เอาแต่ได้ถ่ายเดียว ไม่เคยใส่ใจเบื้องหลังว่าตนเป็นใคร มาจากไหน มีหน้าต้องทำอะไร จนดาวเคราะห์โลกต้องเสียสมดุลไปอย่างน่ากลัวอยู่ในขณะนี้แล้ว

 

เรื่องอื่นอย่ารู้เลย..

แค่รู้เรื่องธรรมารมณ์ ที่เกิดกับใจตนเอง ท่านยังไม่มีปัญญารู้ทันได้เลย..

 

ท่านเล่าปัง ท่านเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน หนังสือเรื่อง "พุทธธรรม" มั๊ย..

ถ้าไม่เคย ก็ ลอง ไป หาฟัง หาอ่านดูนะ แล้วมาอธิบายตามความเห็นท่านหน่อย ว่าถูกต้อง ตรง จริง ขนาดไหน ความแตกฉานในธรรม ขนาดไหน

เราฟังดูแล้ว เราเห็นว่า ความแตกฉานในธรรม ยังน้อยไป อธิบายขยายความในข้ออรรถ ข้อธรรมได้ วก วน เหลือ เกิน..