เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    370c7c36d5c6f3216dbc49ef6b3a8c56-gif.gif

    # จิกยิ้ม อัพ พาลังจับมาวาง
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    AAEWN53.jpg
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918


    #pole shift ทั้งใบ เอาใบตองปิด ก้ มิด
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    วันนี้อยากเล่านอกเรื่องบ้างค่ะ....

    เป็นความรู้ที่ได้มา ในแต่ละวันจิตยิ้มจะได้ความรู้มาค่ะ เป็นความรู้ที่คอยมาบอกตนเองในแต่ละเรื่องที่พบเจอ หรือ เรืองราวของคนอื่นที่เราได้ประสบพบเห็นไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด คนที่เราผ่านพบประสบเจอเหตุการณ์เข้า หรือแม้แต่เรื่องราวทางโซลเชียลต่าง ๆ เมื่อนำมาพิจารณาจะมีคำตอบออกมา ก็ไม่รู้ว่าคำตอบนั้นจะถูกต้องเหมาะสมดีงามหรือไม่ แต่ถ้าเรากำลังทุกข์ใจ หรือว่า กำลังคิดไปในทางที่ผิด แต่กลับทำให้เราได้เปลี่ยนแปลงตนเองได้ ผลออกมาทำให้เราเปลี่ยนแปลงความคิดและนิสัยได้ค่ะ

    วันนี้อยากกล่าวเรื่อง...สำคัญของมนุษย์...คือ

    ความรัก...ความใคร่...และกามารมณ์
    images (30).jpeg
    เพราะอะไร...เราจึงอยากได้ความรัก มีความรัก

    ความรัก คนทุกคนอยากเป็นที่รัก อยากให้คนรัก และปราถนารักคนอื่น...ที่ต้องการนั้นสิ่งเดียวก็คือ...ความสุข....

    สิ่งสำคัญคือ การที่เรารักคนอื่น และอยากให้คนอื่นรักเรา แท้ที่จริงแล้วเราอยากได้ความรู้สึก ความดีงามของคนอื่น ที่เราคิดว่าเขาหรือเธอผู้นั้น ต้องเป็นคนดี มีจิตใจดีงาม อยู่ใกล้แล้วมีความสุข ความดีของเขา หรือ ของเธอ ทำให้เราเกิดความสุข เราจึงรักเขา หรือ เธอผู้นั้น

    แสดงว่าอยากรัก ปรารถนารัก เพราะอยากได้ความดีของคนอื่นมาทำให้เราสุข ...ซะเป็นส่วนใหญ่...

    หรือบางคนที่มีความดีงาม และตนเองมีความสุขล้นในดวงใจของตนเองมากแล้ว อยากจะแบ่งปันความสุขของตนเองให้คนอื่นบ้าง

    ซึ่งก็น้อยค่ะ...อย่างกรณีที่สอง ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีแรกมากว่า (จิตยิ้มคิดถูกไหมคะ)

    ความสุขนั้นเกิดจากผู้อื่น และถ้าผู้อื่นไม่เที่ยงแท้และยั่งยืนล่ะ

    ความสุขที่ดีที่สุด คือ การทำตัวเราให้มีความสุขจากความดีงามในจิตใจของเราก่อน เราจึงได้รับความสุขอย่างแท้จริง ที่เราต่างวิ่งแสวงหา โดยไม่รู้ว่าที่จริงก็คือเกิดจากตัวเราก่อน และก็มอบความสุขให้คนอื่นได้

    ความรักเป็นการแลกเปลี่ยนและถ่ายเทพลังงานด้วย

    คือ ถ้าการแลกเปลี่ยนพลังงานแห่งความดี ความรู้สึกที่ดีงามของแต่ละคนเติมเต็มให้แก่กันได้ ถ้าพลังงานดีดึงดูดพลังงานดี ก็จะเกิดพลังงานดี ก็จะส่งเสริมกันเป็นกำลังให้แก่กันไปในทางที่ดี แต่ถ้าได้รับพลังงานที่ไม่ดี ก็จะบั่นทอน

    ทุกคนจึงปราถนาเจอหรืออยากได้คนดี เพราะพลังงานที่ดีเมื่อมีการแลกเปลี่ยนกัน สามารถยกระดับจิตใจคนใกล้ชิดได้ แม้กระทั่งการถ่ายเทพลังงาน ได้คนดีก็ได้พลังงานที่ดีเข้าไปในตัว ได้คนไม่ดีก็ได้รับพลังงานที่ไม่ดี และพลังงานดีและไม่ดีมีผลต่อร่างกายและจิตวิญญาณของทุกคน

    ดังนั้น ความรัก ความใคร่และกามรมณ์ไม่ใช่ของต่ำและหยาบโลน ที่จริงแล้วต้องละมียดละไม ประณีต และงดงาม เพราะมนุษย์และเผ่าพันธ์มนุษย์ในการสรรสร้างโลกและจักรวาลล้วนเกิดจากสิ่งนี้เป็นต้นกำเนิด

    ทั้งหมดที่กล่าวออกมายืดยาว ก็มีสิ่งเดียวที่เป็นสติเครื่องเตือนใจตนเองค่ะ ว่า...ทำปรับปรุงพัฒนายกระดับจิตใจตนเองให้ดีถึงที่สุด นั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์เราค่ะ

    มีใครจะเสริมเรื่องนี้ให้ไหมคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2019
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    20190720_CNP001_0.jpg
     
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    กรณี Pole shift กระทู้ที่ลิงค์มานี้ เป็นคำตอบที่น่าสนใจมาก ใครยังไม่เคยอ่าน ลองอ่านดูค่ะ

    https://palungjit.org/threads/คาดการณ์-กรณี-pole-shift.497078/

    ส่วนที่จะนำมาลงให้อ่านนี้ต่อไปนี้.... เป็นคำของแก่นแท้ทางพลังงาน ที่ล้วนสัมผัสรู้ดูเห็น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ด้วยการมองผ่านช่องว่างของอณูของตนเองได้อย่างชัดเจนเสมอ

    การทำลายทางกายภาพของโลก เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งระบบ การให้เกิดการเสียสมดุลของระบบขึ้น ด้วยศาสตร์ของจักรวาลแล้ว ทุกสรรพสิ่งสามารถจะพัฒนายกระดับตนเองจากภาวะการเสียสมดุล สู่สิ่งที่เหนือกว่าเพื่อสร้างความสมดุลของระบบใหม่นั้นเสมอ

    การที่โลกถูกกระทำทางเทคนิคด้วยอำนาจแม่เหล็กโลก จึงเป็นกลไกของจักรวาลในการสร้างใหม่ เพื่อความสมดุลของระบบดาวเคราะห์โลก ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลด้านน้ำหนัก ความสมดุลของรูปธรรม ความสมดุลของพลังงาน ล้วนจะถูกยกระดับให้สมดุลในกระบวนการนี้ด้วย พอลลูชั่นใด ๆ จะถูกชะล้างให้หมดไป และแน่นอนจิตสำนึกมนุษย์ที่นับวันจะดิ่งสู่ความเป็นเดรัจฉานเข้าไปทุกทีจะถูกยกระดับในครั้งนี้ด้วย

    หน้าที่ของมนุษย์ในระบบโลกคือ จะต้องสร้างพลังงานใหม่ด้วยกลไกแห่งจิตใจ ผ่านกระบวนการทางอารมณ์ที่สั่นสะเทือนด้านบวก เพื่อปลดปล่อยพลังงานด้านบวกคือความรักออกมาสู่จักรวาลโลกในมิติพลังงาน ซึ่งเป็นพลังงานชนิดเดียวเท่านั้นในจักรวาล

    และพลังงานความรักจากจิตมนุษย์แต่ละคน นอกจากจะช่วยเหนี่ยวรั้งมนุษย์ด้วยกัน รวมทั้งโลกเองให้มีความสมดุลจนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ต่างหากอีกด้วย

    ถ้ามนุษย์ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสดา พากันเดินสวนทางกับสัจธรรม เท่ากับมนุษย์กำลังฝืนกฎทางกายภาพจักรวาล ความหายนะและความวิบัติของโลกทั้งระบบจะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากทุกสิ่งจะเสียสมดุลไป เมื่อนั้นมนุษย์เองจะต้องได้รับเคราะห์กรรมอันหนักหนา

    มนุษย์โลกจงรับรู้ไว้ด้วยว่า ดาวเคราะห์โลกหรือที่ใด ๆ ในสากลจักรวาล ล้วนอยู่ในความดูแลและเฝ้ามองของบรรดารูปธรรมชั้นสูงคือ จิตจักรวาลทั้งหลายและดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ตลอดเวลา รูปธรรมและสิ่งศีกดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีอยู่จริง จะไม่มีวันปล่อยให้โลกหายนะะขึ้นแน่นอนแน่.....

    ถ้ามนุษย์สร้างกระบวนการเพื่อความสมดุล และรักษาความเป็นหนึ่งเดียวของระบบไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จักรวาลจะเข้ามาจัดการชำระระบบสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลของระบบไว้ต่อไป


    ซึ่งในอดีตมันได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ 12,000 ปีเศษที่ผ่านมา ผลลัพธ์ของมันก็คือ แผ่นดินแอตแลนติสล่มสลายพร้อมกับจิตวิญญาณเพื่อสร้างลัทธิใหม่อีกจำนวนนับล้าน ที่ถูกฝังกลบไว้พร้อมกับกองขยะเทคโนโลยีอันชั่วร้าย

    กำหนดการชำระโลกครั้งที่ 4

    กลวิธีที่ชำระ : ชำระความด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่เป็นธรรมชาติ

    : ชำระโลกด้วยการกำหนดให้โลกพลิกคว่ำตีลังกา

    สาเหตุแห่งการชำระ

    โลกเสียสมดุบในมิติพลังงาน เพราะได้รับพลังานใหม่ด้านบวกจากจิตมนุษย์ไม่เพียงพอ เนื่องจากมนุษย์ขาดสติและไร้จิตสำนึกทางวิญญาณ

    ..................

    และสัญญาณโลก ณ วันนี้....

    สำหรับจิตยิ้มแล้ว...โลกก็กวัดแกว่งอยู่เลยค่ะ ภูมิอากาศแปรปรวน กายภาพของโลกเสียสมดุลมาก และ จิตใจของมนุษย์ส่วนใหญ่ชั่วร้ายมากกว่าความดีงาม (ใช่หรือเปล่าคะ หรือว่า สาเหตุนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ...แต่ถ้ายัง...)

    ถ้าเงื่อนไขข้างต้นเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การชำระโลกก็ไม่จำเป็น เพราะแก้สาเหตุได้แล้ว ...แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น

    การชำระโลกเพื่อความสมดุลของระบบก็ยังคงมีต่อไปค่ะ

    การชำระโลกได้เริ่มต้นมาเป็นระยะเวลานับหลายสิบปีแล้วค่ะ สถานการณ์ของโลกจะหนักหรือเบา ขึ้นอยู่กับมนุษย์ที่ช่วยลดทอนให้ผ่อนหนักเป็นเบาได้เสมอค่ะ

    นี้เป็นเหตุผลว่า .....pole shift จะเกิดขึ้นหรือไม่?

    แล้วถ้า pole shift ไม่เกิดขึ้นล่ะ....เพราะอะไร?

    โลกจะสมดุลได้อย่างไร (มนุษย์ทุกคนต้องยกระดับจิตใจตนเองให้สูงขึ้น เพื่อปลดปล่อยพลังงานบวกมอบให้แก่โลก) สิ่งนี้เป็นไปได้ไหม!!

    แล้วอะไรที่จะช่วยยกระดับโลกและจิตใจมนุษย์ (การย้ายแนวแกนแม่เหล็กให้เบี่ยงเบนไป)

    หลายคนที่สนใจการเกิด pole shift หรือไม่ มีคำตอบที่เป็นเหตุผลจากคำสื่อจิตจักรวาลมาให้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2019
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    images?q=tbn%3AANd9GcSdHdRgxyRB0unG4GRTwVX5KW3PZekEJGa7aDGlpHtOjVQIUnU7.jpg

    ก.จับมาวาง : ยัยหนอนจิกยิ้ม
    ให้ไปรับมะนุดมาแล้วนี้อาลาย
    ของยู

    หนอนจิกยิ้ม : พยต. เสนอโดย
    กุเษโมมด พลังจิกเชียวน้า

    ก.จับมาวาง : พยต.อะไร ....สาวๆ
    ที่คัดมาสองแสงก่าคน เจอหน้า
    อายนี้ ไม่กัดลิ้นตายกันหมดรึ...
    ....เอาไปป่อยวัดไปไป๊!!!
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    images?q=tbn%3AANd9GcSr9weCoDrCwgIBhj5QsWAUroRSDQwH5xmjVG_rzpiejqxwBUsH.jpg

    ก.วิสุกทิตันญาณ : .....เอ้อ ...ตอน
    กลับมา หนอนจิยิ้มไม่ต้อง กลับ
    มานะ ที่นั่งเต็มแล้ว......ให้ สาวๆ
    ที่ยัง ทำพันธุ์ได้เขาไปต่อ......เนาะ
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อยากพูดเรื่องสำคัญค่ะ

    จะเห็นได้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะกล่าวคำว่า "จิตสำนึกของมนุษย์" เน้นย้ำเรื่องนี้มาก

    ประโยคที่สำคัญ....ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ (บางส่วน)

    - เนื่องจากเวลาชำระโลกนั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว แต่มนุษย์ทุกคยังสามารถปรับเปลี่ยนจิตสำนึกตนเอง ให้หันมาสู่ทางที่ถูกต้อง คือ การกระทำที่ดีงามต่อกัน มีความรักมอบให้แก่กันและกัน ตามแนวทางของสัจธรรมที่พระศาสดาได้ทรงเมตตามอบให้เสียแต่บัดนี้

    - ความดีงามจากจิตการกระทำด้วยจิตสำนึกที่แท้จริงของตนเท่านั้น จึงจะช่วยให้ตัวมนุษย์เองพ้นจากเคราะห์ภัยอันเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น ให้ก้าวสู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่จะมาถึงได้บนแผ่นดินนี้

    - กระตุ้นจิตสำนึกตนเอง ให้ปลดปล่อยพลังงานความรักอันบริสุทธิ์ต่อเพื่อนมนุษย์และโลก ผ่านช่องตาที่สามเท่านั้น จะเป็นสัญญลักษณ์ที่สามารถสื่อแสดงให้จิตจักรวาลนับแสนล้าน มองเห็นด้วยนัยน์ตาศักดิ์สิทธิ์ได้ว่า มนุษย์เองพร้อมแล้วที่จะเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ ที่ต้องการรอดพ้นจากเคราะห์ภัยที่จะเกิดขึ้น นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป จนกว่ากระบวนการชำระโลกจะสิ้นสุุดลง

    - เหตุการณ์ใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า มันอาจเปลี่ยนแปลงจากหนักเป็นเบาได้เสมอ ทั้งนี้มันขึ้นกับการกระทำทางจิตสำนึกของตัวมนุษย์ทุกคนนั่นเอง

    - ตลอดระยะเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่าน มีมนุษย์จำนวนน้อยนิดเท่านั้น ที่สามารถกระทำหน้าที่ของตนร่วมกับโลกใบนี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ด้วยการยกระดับจิตสำนึกของตนเข้าหาแก่นแท้ คือ จิตวิญญาณของตนได้ โดยผ่านบททดสอบตนเองและฟันฝ่าบทเรียนโลกถ้วนทุกบทได้อย่างสง่างามเข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวคือความรักบริสุทธิ์ ในขณะเดียวกันจิตวิญญาณในรูปธรรมมนุษย์จำนวนมากมาย ถูกจิตหยาบ ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนกลไกกายสังขาร ทอดทิ้งละเลยการเข้าถึงซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวของตน แล้วสร้างพลังงานกรรมอันเป็นขยะพลังงานในมิติคู่ขนานเป็นภาระหนักแก่จิตวิญญาณของตน แล้วย้อนกลับคืนมาสู่การเกิดใหม่หลากหลายภพชาติ เพื่อหาหนทางปลดเปลื้องภาระอันไม่พึงประสงค์ที่จิตหยาบของตนเป็นผู้สร้างให้อยู่อย่างนั้น จนมองหาวันหลุดพ้นไปจากจักรวาลโลกแทบไม่เห็น

    แล้วที่จริง "จิตสำนึก" คือ อะไร? ทำไมยกระดับจิตสำนึกเพื่อเข้าหาแก่นแท้ คือ จิตวิญญาณ แล้วสามารถนำพาตนเองหลุดพ้นได้ เรามาคุยเรื่องนี้กันดีไหม!
     
  10. เพื่อนผู้รอนาน

    เพื่อนผู้รอนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +824
    ชีวิตจะเปลี่ยนไม่ได้เลย.หากไม่เปลี่ยนการกระทำ.การกระทำจะเปลี่ยนไม่ได้เลย.หากไม่เปลี่ยน......คาวมคิด....
     
  11. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ใช่ค่ะ เพียงแค่เปลี่ยนความคิด...ชีวิตก็เปลี่ยน

    ลองมาดูการแสดงออกทางพฤติกรรมของมนุษย์กันนะคะ..

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า...เขามีนิสัยสันดานอย่างไร ดีเลวแค่ไหน มันเป็นคุณสมบัติด้านลักษณะนิสัยส่วนตัวของเขาแต่ดั้งเดิม ที่เขาก็ต้องเป็นของเขาเช่นนั้นอยู่แล้ว

    ส่วนใหญ่มนุษย์ทุกคนจะมีกระบวนการทางพฤติกรรม

    สิ่งเร้า > ความรู้สึก > อารมณ์ > พฤติกรรม

    การรับเอาของจิต หมายถึง การเกิดอาการสั่นสะเทือน เป็นอารมณ์รู้สึกขึ้นนั่นเอง
    มนุษย์จงใจปรุงแต่งมันขึ้นมา เพื่อสนอง กิเลสตัณหาของตนและมนุษย์ด้วยกันเอง

    พฤติกรรมที่เป็นขยะเป็นพฤติกรรมที่ จิตไร้สำนึก คือ การขาดสติทางวิญญาณ

    พฤติกรรมที่เกิดจากจิตสำนึก ก็ให้หมายถึง พฤติกรรมทีจิตรู้สำนึก

    การเปลี่ยนแปลงความคิด ...เป็นเรื่องที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงกันได้ไม่ง่าย...

    ซึ่งจะต้องมีกระบวนการนึกคิดทีถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ก็คือ....

    *** ตัวเราจะต้องเป็นผู้กำหนดจิตให้มันคิด มิใช่ปล่อยจิตของเราเป็นผู้กำหนด ด้วยการนึกเองคิดเอง

    ถ้าตัวเราปล่อยให้จิตเป็นผู้กำหนดนึกเอง คิดเองเมื่อใด จิตก็จะใช้อารมณ์หยาบ ๆ รายวันที่เป็นกิเลสตัณหาเป็นตัวการในการขับเคลื่อนการนึกคิดของมันเองทันที คือ

    ถ้าเป็นอารมณ์ด้านบวก ก็จะคิดบวกหรือคิดในสิ่งดี ๆ เสมอ

    ถ้าเป็นอารมณ์ด้านลบ ก็จะคิดลดหรือคิดไปในทางไม่ดีเสมอ

    เราจึงมักจะเห็นว่าในมนุษย์คนเดียวกันนั่นเองบางเวลาก็ดูดี แต่บางทีก็ดูร้าย บางเวลาก็เป็นคนดี ขณะที่บางทีกลับเป็นคนร้ายไปเสียได้ เหตุเพราะเป็นผู้ยอมตกเป็นทางทางอารมณ์ของตนเอง มากว่าที่จะใช้สติปัญญาเป็นตัวกำหนดบทบาทพฤติกรรมของตน

    และ...

    ต้องไม่ใช้อารมณ์รู้สึกหรือกิเลสตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อนพฤติกรรม แต่ต้องเป็นผู้กำหนดจิตเพื่อการกำหนดคิด สู่การตัดสินใจกระทำด้วยปัญญา โดยไม่ปล่อยให้จิตคิดนึกเอง คิดเอง และทำอย่างสะเปะสะปะ หรือเป็นไปตามอำเภอน้ำใจ มิเช่นนั้น มันจะขับเคลื่อนด้วยกิเลสตัณหาหรืออารมณ์รู้สึกที่เป็นขยะรายวันอยู่เชนนี้เรื่อยไป

    กระบวนการเปลี่ยนความคิด ก็คือ กระบวนการยกระดับจิตสำนึก นั่นเองค่ะ

    ดังนั้น มนุษย์โลกทุกคน จึงมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบตนเองอยู่ 3 ประการ คือ

    1.ยกระดับสติปัญญ คือ มนุษย์จะต้องเปิดมิติการใช้สติปัญญาอีกระบบหนึ่งซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าการคิดรูู้และเรียนรู้ด้วยจิตมนุษย์ เพื่อการใช้งานมันแทนระบบเดิม นั่นคือ การใช้ปัญญาญาณที่ได้จากสมองซีกขวานำซีกซ้ายอันเป็นสติปัญญาของวิญญาณแทนเสียให้ได้

    2.การพัฒนาจิตสำนึก การฝึกตนเองให้เฉลียวฉลาดในการใช้กลไกอวัยวะประสาทสัมผัสทั้ง 5 และให้มีความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์รู้สึก กับการฉลาดนึกคิดด้านบวก ในการนำตนเองไปสู่การใช้สติปัญญา หรือ ปัญญาญาณ เพื่อ การคิดรู้ เรียนรู้ พิจารณา และการตัดสินใจแสดงออกได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ดีงาม เสมอ

    3.ฝึกการมีสติ ทักษะความสามารถของจิตมนุษย์ในการที่จะรู้นึก รู้คิด รู้ต้องการ แต่สิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมดีงาม การรู้เท่าทันอารมณ์รู้สึกนึกคิดของตนเอง และสามารถที่จะระงับยับยั้งอารมณ์รู้สึกการนึกคิดใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องของตนเองได้เสมอเช่นเดียวกัน

    ในมนุษย์แต่ละคน การยกระดับสติปัญญากับการพัฒนาจิตสำนึกแห่งตน สองประการนับว่ายากแล้ว แต่การฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีสติกลับยากยิ่งกว่า เหตุเพราะว่ามนุษย์แต่ละคนมีมารอยู่ในจริตของตนเอง คือ มีศรัตรูและอุปสรรคสติอยู่ตั้งมากมาย

    การเปลี่ยนความคิด หรือ เปลี่ยนวิธีคิด ก็คือ ต้องเป็นผู้กำหนดจิตให้มันคิดนึกแต่สิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

    แต่ทำไมคนเราส่วนใหญ่ถึงทำกันได้ยาก! เพราะอะไร?
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    หรือท่านใดเปลี่ยนแปลงนิสัยตนเองได้ง่าย ๆ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เป็นวิทยาทาน และ ประสบการณ์ค่ะ ตัวจิตยิ้มเองกว่าจะเปลี่ยนแปลงความคิดและนิสัย ต้องลงทุนลงแรงใจที่ต้องรับรู้อารมณ์ จากประสบการณ์จริง จากบททดสอบ จากการเจ็บจริง การสถานการณ์จริง เพื่อมาเปลี่ยนแปลงตนเอง ต้องเข็ดหลาบกันจริง ๆ เห็นโทษภัยจริง ๆ และต้องมีจิตสำนึกจริง ๆ มันจึงคิดมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ

    แต่ก่อนไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นอารมณ์ รู้สึก พฤติกรรม เราจะว่าการกระทำของเราถูกเสมอ
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    อันนี้คือตัวสติ..
     
  14. เพื่อนผู้รอนาน

    เพื่อนผู้รอนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +824
    เพราะไม่มี.คนทำไห้เห็น....เป็นแบบอย่าง.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2019
  15. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    อันนี้เป็นตัวจิตสังขาร...มันมีลักษณะคิดเองของมัน...มันคิดไปไม่นานมันก็หายไปแล้วสร้างเรื่องใหม่ต่อไปไม่หยุด
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อยากจะกล่าวคำว่า "จิตมันคิดนึกเอง" เป็นอย่างไร?

    แต่เอาไว้ก่อนค่ะ...

    เพราะที่ผ่านมาตลอดระยะหลายสิบปี โดนมากเรื่องความคิด... โอนอัดค่ะ ว่าทางพระพุทธศาสนาไม่ให้มีความคิด หรือ ใช้ความคิด จิตยิ้มไม่เถียงค่ะ แต่จิตยิ้มอยากจะนำเรื่องนี้มาลงค่ะ

    ระดับของคลื่นการสั่นสะเทือนของจิต ที่จะสามารถกระตุ้นเซลล์สมองกลุ่มนี้ได้ จะถูกกำหนดไว้เป็น 3 ระดับคือ

    เบต้า คลื่นความถี่ในระดับฝึกหัด

    เดลต้า คลื่นความถี่ระดับปฏิบัติการหยั่งรู้ เพื่อการรู้แจ้ง

    คอสมิค คลื่นความถี่ระดับจักรวาล

    ข้อมูลสำหรับคนที่ปฏิเสธเรื่องความคิดนะคะ....

    มนุษย์ควรรู้ว่า คลื่นการสั่นสะเทือนของเซลล์สมอง มีค่าอย่างไร คลื่นการสั่นสะเทือนหรือพลังจิตก็วัดค่าได้ไม่แตกต่างกันกัน มนุษย์ที่เริ่มฝึกฝนตนเองเข้าสู่การใช้พลังปัญญาได้ใหม่ ๆ จะต้องเริ่มใช้คลื่นสมองระดับเบต้าก่อนเสมอ แล้วค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปตามความบริสุทธิ์ของจิต ที่จะก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่สูงกว่าต่อไป

    การกำหนดค่าไว้เช่นนี้ เพราะเซลล์สมองกลุ่มนี้ มันมีหน้าที่สร้างคลื่นการคิดรู้เพื่อการหยั่งรู้ ด้วยสาธารแห่งปัญญา ที่มนุษย์เรียกว่า ปัญญาญาณ ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานจิตความถี่สูงที่มีคุณสมบัติทางการคิด ก็คือ การหยั่งรู้

    จำนวนเซลล์สมองซึ่งเป็นพลังอำนาจทางปัญญา และความสามารถทางการคิด อันเป็นพลังอำนาจในการใช้สติปัญญามันจะเป็นสิ่งที่แปรตามกันเสมอ

    ถึงแม้จะเสี่ยงโดนถล่มก็ยอม หาความจริงกันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2019
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ท่านสงบเก่งค่ะ ตอบได้ชัดเจนค่ะ

    ท่านเพื่อนผู้รอนานเยี่ยมยอดค่ะ นำคำถามให้ได้ประเด็นที่ต้องการออกมา
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    แต่มีคนหนึ่งทำให้จิตยิ้ม หัวเราะออกมาได้ตลอดเวลา เมื่อเห็นคะแนนและชื่อ username 5555
     
  19. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เมื่อฝึกจิตจนจิตละเอียดมันจะมีเสียงหลายเสียงมากในหูในสมองนี่แหละ...มันมีเสียงที่ดังเป็นช่วงๆและมีเสียงนึงที่ดังไม่ขาดหายเป็นระดับเสียงคงที่ตลอดเวลา..
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    นักปราชญโบราณ ต่างได้สนใจค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องจิตของมนุษย์ ซึ่งต่างก็เข้าใจว่า "จิต" กับ"จิตวิญญาณ" เป็นสิ่งเดียวกัน

    และนักจิตวิทยารุ่นหลัง ๆ จะพบว่า จิตกับจิตวิญญาณนั้นมิใช่เรื่องเดียวกันอย่างที่เข้าใจ

    จากการศึกษาค้นคว้าโดยนักปราชญ์และนักจิตวิทยาแต่ละยุคที่ผ่านมา มนุษย์ได้ประโยชน์มากมายที่เป็นผลจากการค้นคว้าเรื่องจิตนี้

    ปัจจุบัน มนุษย์กลุ่มหนึ่งค้นพบว่า จิต คือ กลุ่มความคิดที่มีพลังงานห่อหุ้มเอาไว้

    โดยกลุ่มพลังงานที่ห่อหุ้ม "จิต" จะเป็นพลังงานรวมทางความคิด การรับรู้ และจินตนาการของมนุษย์ 3 ส่วน คือ

    1.คลื่นความคิด เป็นกลุ่มคลื่นอนุภาค หรือตัวจิตเอง สามารถวัดระดับได้ด้วยโทนเสียงซึ่งประสาทหูของมนุษย์เองไม่อาจได้ยิน
    2.คลื่นแสง เป็นกลุ่มคลื่นอนุภาค ที่มีระดับความถี่แตกต่างกัน สามารถมองเห็นเป็นแถบสีต่าง ๆ
    3.มวลสาร เป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็ก ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นพลังงาน

    พฤติกรรมภายในและพฤติกรรมภายนอกของมนุษย์ ล้วนเป็นผลเกี่ยวเนื่องกับพลังงานทางความคิดของ "จิต" แทบทั้งสิ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...