ถึงลุงแมวค่ะ

อุเบกขา.คือ
เฉยๆ.
ไม่ขึ้น.
ไม่ลง.
เล่าปัง.
จะเข้าป่า.
ไปไหนอีก

 

โปรดฟัง อีกครั้งหนึ่ง

จิกหกหู่ จิกงอกลับ อุปมาขนนก
ถูกไฟรนย่อมงอกลับ หรือ ยาง
เหนียวโดนไฟย่อมขดเปนก้อน
กลม .....คนปุราน ก้ใช้ในความ
หมายเดียวกัง

ในทางเทคนิก ปฏิจสมุปบาทสาย
ดับย่อมทวนมาชน อวิชชา ปัจจัย
ยาสังขารา.... หากภาวนาต่อ ก้
จะเริ่มกำจัดอาหารอวิชชา ...ไป
เรื่อยๆ ..... ซึ่งบทต่อไป จากที่
เอาพระสูตรมาตัดแปะ จะเริ่ม
เข้าวรรค "โวทาน"

 

สายพุดวะจะนะก๊อบปี้ตัดต่อ
คลองฯปทุม เค้าสอนกันแบบนั้น
แหล่ะ ลูกสิดเยอะมาก
อย่าไปแย้งเลยฮับ

 

อาจารย์.บอกคนป่วยตัวเหลือง.
เป็นพระอริยะ.อวดอุตริปราชิกไปแล้ว.
ลูกศิษย์ก็ไม่ต่างกัน.

 

สอนแบบนี้.
เท่ากับทำลาย.
พระพุทธศาสนา.
บิดเบือนคำสอน.

 

งานมันใหญ่เกินตัวชาวบ้านจะแก้ไขได้
เอาแค่ตัวเองให้รอดนรกไปก่อน
อย่างอื่นมีกองกำลังรัฐดูแลอยู่
ดูวัดจานบินปทุมฯ เป็นตัวอย่างฮับ

 

ถ้าตัวใหญ่เกินงาน.
ก็แก้ได้ไช่ไหม.

 

+++ อาการหนักอึ้ง ณ ตรงที่ผมโพสท์ไว้นี้

+++ จะทำให้ "หนัก/เบา" เท่าไรก็ได้ ตรงนี้เป็นการฝึก กายเบาจิตเบา กายหนักจิตหนัก
+++ ทั้งหมดอยู่ที่ "การปรับตน" เป็นการ "ศึกษาตน" ที่ผมสอนในกลุ่ม
+++ รวมถึง "ปรับตน ให้เข้ากับ สถานการณ์ ของ สภาวะธรรม"
+++ คุณ มารโลกันต์ อาจจะพอจำได้ในเรื่อง "ออกอวกาศ " ที่เคยคุยกันมาก่อน
+++ ทั้งหมด เป็นผลที่มาจากการฝึก "การปรับตน" ตรงนี้แหละ
+++ แต่จะ "วาง" รายละเอียดไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวจะมีคนอื่นที่คิดมาก ผมขี้เกียจอธิบาย

+++ ยินดีด้วย "ความรู้สึกตัว ทั้งตัว" เป็นสติสัมโพชฌงค์ ผู้ที่ขึ้นต้นที่นี่ได้ จะไปได้เร็วกว่าผู้อื่น

+++ ถ้าสามารถ "เกลี่ย "เนื้อสภาพ" ของ ความรู้สึก" ให้เท่ากันได้ทั้งตัว
+++ ก็จะพบได้เองว่า "วัตถุเม็ดเล็กๆ" นั้น มีอยู่ "ทั้งตัว" ทุกครั้งที่เข้าสู่สภาวะนี้ได้
+++ อาการนี้ จะตรงกับ "ปิติสัมโภชฌงค์" และจะตรงกับ "สัปปายสัมปชัญญะ"
+++ จากอาการนี้ "จะเร่งกายให้หนักเท่าไรก็ตาม" มันก็ยังเป็น "สัปปายะ (สบาย)" อยู่ดี

+++ ไม่มีเรื่องให้รู้ (ตรงนี้พวกโลก ๆ จะไม่ยอมรับ ต้องปล่อยไปตามอาการทางโลก)
+++ อาการ "รู้ชัด" ตรงนี้ เป็นอาการ "ดำรงค์สติมั่น" ที่เป็น "คำพูดของพระพุทธเจ้า"
+++ เป็นอาการ "เริ่มต้นของ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์" เป็นอาการ "สภาวะรู้ ที่ เป็นสมาธิ"
+++ ตรงนี้ "เป็นหัวใจของ กรรม-ฐาน ในศาสนาพุทธ ในหมวด สัมโพชฌงค์" โดยตรง

+++ ตรงนี้เป็น "รอยต่อ" ระหว่าง ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เข้าสู่ สมาธิสัมโพชฌงค์
+++ เป็น "สภาวะรู้ ที่ แจ่มชัด ใสสะอาด ชัดเจน จนมีสภาพแห่ง รู้"
+++ จะเรียกว่า "ฌาน" ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้ว ควรเรียกว่า "สติ พัฒนาสู่ อัปปนาสมาธิ"

+++ "แปลก แต่ จริง" และที่สำคัญ คือ ในหมวด "สัมโพชฌงค์ นั้น จาก ปิติ เข้าสู่ ปัสสัทธิ โดยตรง"
+++ เป็นการ "ข้ามสุข" ไปแบบดิ้อ ๆ ซะอย่างนั้นแหละ ตรงนี้เป็น "ข้อแยก" ของ "สมาธิพุทธ VS ฌานฤาษี"

+++ ตรงนี้แหละที่เป็นอาการจริงของ "ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์" เป็นการ "เดินจิต/ความเป็นตน เข้า/ออก สภาวะต่าง ๆ"
+++ หากฝึกให้ดี ๆ ให้ฝึกอาการ "อยู่" ในสภาวะต่าง ๆ ไปด้วยกัน ก็จะ "รู้ชัด" ได้เองว่า "กาย" คืออะไรกันแน่
+++ การอยู่ในสภาวะใดก็ตาม สภาวะนั้นแล... คือ "กาย" ตรงนี้จะตรงกับ "สักกายะทิฐิ" จะต้อง "รู้/เข้าใจ ชัด" เสียก่อน
+++ อย่าเพิ่งไปพูดถึง "การละ" ตรงนี้ มิฉะนั้น จะเป็นการ "ปฏิเสธ" และเป็นการ "ตัด" ตนเองออกไปจากสภาวะธรรม

+++ ในระดับของคุณ มารโลกันต์ นั้น คงไม่ต้องมาพูดกันถึง "อะไร ใช่/ไม่ใช่ นิมิต" แล้วนะ
+++ เงาลักษณะคล้ายพระพุทธรูป ที่มาปรากฏนั้น "ไม่ใช่ นิมิต" แน่นอน
+++ เพราะไม่เป็นลักษณะของ "ภาพ" แต่เป็นลักษณะของ "สภาพ" แบบเต็ม ๆ ใช่หรือเปล่า
+++ ส่วนคำศัพท์ว่า "องค์ภาวนา" นั้น จริง ๆ แล้วมันก็คือ "ความเป็นตน" ของตัวคุณเองนั่นแล...

+++ ตรงนี้แล... สัญญาอนิจจา... สัญญาอนัตตา.... ติ
+++ ยามใดที่คุณ ทำ "ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์" ได้คล่องแล้ว
+++ แต่ละ "สัญญาความจำ" ที่ผ่านมานั้น คุณสามารถ "เข้า/ออก" ลงในสภาวะนั้นได้
+++ และตรงนี้แล... เป็นการใช้ "สักกายะทิฐิ" แบบ ตรงไปตรงมา

+++ และ "ไม่ต้องกังวลในเรื่อง สติ/สมาธิ"
+++ เพราะทั้ง สติ/สมาธิ ตั้งมั่นใน สภาวะธรรม เรียบร้อยแล้ว
+++ และพร้อมที่จะ ฝึกในภาค "วิชชา จรณะ สัมปัณโณ" ได้

+++ แบบเดียวกับ "เกิดสลับกับสมาธิในองค์ฌาณ" ที่คุณกล่าวมานั่นแล...
+++ และตรงนี้แล... ที่เรียกว่า "วิชชา 3" ที่ไม่ใช่อาการ "นึกเอง เออเอง" นะครับ

+++ เรื่องของ โพชฌงค์_7 และคำศัพท์บางคำในเรื่อง สัมปชัญญะ อ่านประกอบได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
https://th.wikipedia.org/wiki/โพชฌงค์_7
https://th.wikipedia.org/wiki/สัมปชัญญะ

 

สำนวนดี....
มีแต่เปลือก...

 

+++ คำพูดของ "สัตว์" มันก็อย่างนั้นแหละ "มันหงบไม่ได้" นั่นเองว่ะ สัด

 

แค่ความเห็นส่วนตัวครับ

หลักปฎิจฯ เป็นการไล่ไปหาเหตุ
แห่งการเวียนว่ายตายเกิด

พระพุทธเจ้าทุกองค์ ใช้หลักนี้
(้เห็นเทวทูตทั้งสี่ก่อน)

ในการพิจารณา ก็ตามหาเหตุ
จนไปเจอมหาเหตุ...

ส่วนใครหาเจอได้แค่ไหน?
ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของคนนั้น..

 

ถ้าในหัวไม่มี.
คงไม่.
ปล่อยออกมา.
นักปฏิบัติ.
โดนแค่นี้.
มีอาการ.
น่าเสียดาย.
เวลาที่ผ่านมา.

 

พระพุทธเจ้า.
สอนไห้ระงับกิเลส.
ปฏิบัติแล้วกิเลสไม่ลด.
เท่ากับไม่เดินตามคำสอน.
ของพระพุทธเจ้า.....

 

กระแนะกระแหนไปว่าชาวบ้านอยู่ได้ ด่าตรงๆไปเลยฮับมันลูกผู้ชายดีออก มันไม่ได้แสดงอาการของ "ตุ้ด" ที่พลิกลิ้นแผลบๆไปเรื่อยๆนั่นแล

พูดเหมือนเซียนแต่จะเกรียนหรือเปล่าฮับ

"กิเลศ" จากอาการจริงๆคืออะไรรู้ป่าว?

เพราะสติไม่มี "ทำให้อาการต้องหาคนคุยด้วย(เหงา)" เกิดขึ้นมา
เมื่อเกิดขึ้นมาต้องหาทางระบายโดยไม่รู้จะไปคุยกับใครเพราะเรื่องพวกนี้ที่หาคนคุยยากเพราะอยากให้คนเชื่อว่า "เป็นพระศรีอารย์" โดยคิดเอาเองจากคนเพี้ยนๆแบบเอ็ง

โดยกระทู้ในห้องภัยพิบัตินั้นถกกันมานานมากแล้วเกี่ยวกัน "sacred friend"(เพื่อนผู้ศักสิทธ์) ดันกระแดะใช้ ยูสเซอร์เนมนี้ แต่เอาเถอะเข้าใจว่าชื่อมันบอกอะไรไม่ได้ ดันนั้นมันเป็นแค่สมมุติฐานของอาการ "บ้า" แบบเริ่มต้น

แล้วจากการโพสท์นั้นสิ่งที่ไม่ใช่สมมุติฐานคือ
"เหงาหาคนคุยด้วย" และ "อาการพรรณาไม่ได้บอกวิธีปฏิบัติอะไรเลย" แล้วอาการ "พลิกลิ้น" ที่ประกอบ ดังนั้นสรุปได้ว่า "เชิญรับยาช่องสองนะฮับ" ว่างวันไหนบอกนะครับเดี๋ยวผมจะโทรเรียก รถโรงพยาบาลไปรับคนดีๆจะได้มีที่ยืน "ศาสนาไม่ใช่ที่ของคนบ้า" นะครับ

 

เก็บเอาคาวมหวังดีใว้.
ใช้เองนะ.

 

เปล่าอีกอะอุเบกขาเป็นอารมณ์ มันทั้งขึ้นทั้งลงเป็นปกติเพราะอารมณ์ไม่ได้มีอารมณ์เดียวทั้งวันและเนื้ออารมณ์ "อย่าพาคนอื่นบ้ากับมึงไปด้วยเลยนะ" ไหนอุเบกขาทั้งวันหน่อยดิ อย่าเพี้ยนให้มากครับ ถ้าทำได้ทำไมถึงต้องรักษา "สติมั่น" ไว้ด้วยละ โคตรปัญญาอ่อนเลยฮับ อ้าวไหนเห็นทำตัวเป็นกูรู มาถกกับผมดีกว่า "พอดีผมว่างอะนะ"

 

คำว่ากระแนะกระแหน.
ดูเหมือนจะปักอยู่ที่.
หลังของท่านนะ.

 

แบะแบะแบะ ไม่ได้ตอบคำถามที่โพสท์มาเลยอะฮับ

แต่ผมก็เข้าใจแหละว่า สันดานของพวกเห่าหอนมันเป็นยังไง
1.จะตอบไม่ตรงคำถาม
2.พลิกลิ้นเปลี่ยนเรื่อง(ตรงกับข้างบน)
3.หาทางให้คอมเม้นท์อื่นๆลงมาเรื่อยๆจนคนจำไม่ได้(คิดไปเอง
4.โพสท์รูปแก้เขิน

มันก็ประมาณนี้ละฮับดังนั้นถ้าอยากจะด่าคนอื่นก็เลิกใช้ "สันดานข้างบน" ก่อนนะฮับ ไม่งั้นก็เชิญไปเขียนนิยายแทนจะมีคุณค่ามากกว่า

 

ไม่อะผมด่าตรงๆเลยฮับ ปัญญาอ่อนจนไม่รู้เรื่องหรือคับ?

Edit : อ่อแล้วตอบข้อความข้างบนให้ด้วย ทำไมอุเบกขาถึงไม่ขึ้นไม่ลง ตอบทีครับรออยู่อะนะ

 

ไม่รับมันก็.กลับสู่เจ้าของ.