กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด92)หน้า124 #ลำดับที่2461
    :oops::oops::oops::oops::oops::);):);););)

    (Bodhisattva) Post ฝากไว้

    เรื่อง อดีตชาติเราเคยทำกรรมใดไว้
    หรือเคยล่วงเกินทำร้ายจิตใจใครไว้

    (ตอนที่1)
    เนื่องจากเราไม่รู้ว่าในอดีตชาติเราเคยทำกรรมใดไว้กับใครบ้าง เคยล่วงเกินหรือทำร้ายจิตใจใครไว้ ให้สวดคาถาต่อไปนี้เพื่อขอขมาต่อพระรัตนตรัย และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา ไม่เว้นแม้กระทั้งพระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ และถอดถอนคำอธิษฐานของเราเองที่อาจเคยขอให้คู่กับใครไว้ เเต่เขายังไม่มาเกิดได้อีกด้วย
    ตั้งสมาธิเเละพนมมือขึ้นอธิษฐาน ทำต่อหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนเข้านอนก็ได้


    (ตั้ง นะโม 3 จบ)
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

    หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา หรือใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวรด้วยเถิด

    ต่อมาให้ระลึกถึง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    5f5b1c66b-jpg.jpg

    (ตั้งนะโม 3 จบ)
    "ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา"
    หรือ วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ
    ( ท่อง 9 จบ )

    (ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)
    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::):):):)

    (Bodhisattva, 28 พฤศจิกายน 2018)

    (9ขออนุญาตแทรกหมายเหตุเพิ่มเติม)

    "ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา"
    คาถานี้ เป็นบทสวดย่อคาถาชินบัญชร

    (เย็นนี้มาต่อ ตอนที่2)
    "ทำไมบังเอิญจัง"
    (กระทู้นี้น่าจะมีสิ่งเร้นลับแฝงอยู่)
    :cool::cool::cool::(:(:("บ่อยครั้งๆๆๆๆ"
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด93) หน้า124 ลำดับที่ #2472
    :oops::oops::oops::cool::cool::cool::cool::(:(o_Oo_O

    เรื่อง ไม่รู้ว่าในอดีตชาติเราเคยทำกรรมใดไว้กับใคร
    เคยล่วงเกินหรือทำร้ายจิตใจใครไว้


    (ตอนที่ 2)แม้แต่คำสัญญาย่อมไม่จีรัง
    (โพส์ตโดย Higtmax)

    วันนี้ขอมาเล่านิทานโม้หลักลอย
    เรื่องแม้แต่ คำสัญญาย่อมไม่จีรัง

    ณ. กาลครั้งนึง หลายร้อยปี นานมาแล้ว มีชายสองคนเป็นนักรบชั้นดี ในกองทัพของมหาราชพระองค์นึง ทั้งคู่เป็นสหายร่วมรบชนิดรับคมหอกคมดาบแทนกันได้ สนิทเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน หลังสงครามระดับชาติแล้ว ทั้งคู่ก็นับถือคบหาเป็นสหายกันจนสิ้นอายุไข

    ณ ยุคปัจจุบัน ทั้งคู่ก็ยังมาเกิดใกล้กัน คบหาสนิทสนมกันตั้งแต่ยังเด็ก เข้าสู่วัยทำงานก็ทำธุรกิจร่วมกัน แต่คราวนี้มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อธุรกิจของทั้งคู่ มีปัญหาการเงิน ขัดแย้งกันทางหุ้นส่วน มิตรภาพก็สั่นคลอน ต่างฝ่ายก็ต่างกล่าวโจทก์อีกฝ่ายว่าเป็นผู้กระทำผิด ถึงขั้นฟ้องกัน มิตรภาพที่มีก็สั่นคลอนดุจเหมือนแก้วแตก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นศัตรูมองหน้ากันไม่ติด ต่างฝ่ายต่างจ้องทำลายซึ่งกันและกัน จนในที่สุดก็มีผู้มีฝีมือเข้ามาจัดการยุติปัญหาทั้งสองฝ่าย โดยเสนอให้ทั้งคู่แบ่งกิจการแล้วแยกไลน์กันออกไป นั่นก็มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออีกว่า ผู้ที่มายุติศึกครั้งนี้ ชาติที่แล้วเป็นนายทหารฝั่งตรงข้ามที่ถูกฆ่าตาย

    โอ้ล่ะหนอวัฏฏะ ช่างซับซ้อนดีแท้

    ตามคำสอนของพุทธศาสนา
    ที่กล่าวว่า วัฏฏะ เป็นวงจรที่ยาวไกลนานมาก
    จนนับจำนวนภพชาติไม่ได้
    เป็นภัยที่น่ากลัวที่สุดของ
    มนุษย์-เทพ-พรหม-และสัตว์ทั้งหลาย


    (Higtmax, 28 พฤศจิกายน 2018)

    **********************************

    (ปักหมุด94) หน้า124 ลำดับที่ #2476
    (
    ตอนที่3...จบ)

    กาแฟโบราณ2สอ said:

    จากศรัณยู เอ่ย ศัตรู ฝ่ายตรงข้าม
    มาภพชาตินี้ กลายเป็นผู้ที่ยุติ สงครามภายในของสองคน
    อ่านแล้วก็มานึกในใจ ถ้าเรามีศัตรูที่เกลียด
    เราก็คงต้องยุติ ความเกลียดในใจเราเองดีกว่า
    อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหาตามมา เนาะพี่


    Higtmax (โพสต์ตอบ)
    ช่ายครับ แต่เราก็ต้องระวังเขาในฐานะเป็นศัตรูครับ จนกว่าจะหมดพันธะต่อกัน มีตัวอย่างในชาดกครับ ว่า แม้แต่สหชาติของพระโพธิสัตว์ ก็ยัง เกิดมา ในบางชาติก็เกื้อกูลกัน ในบางชาติก็ขัดแย้งกัน
    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::(:(:(:cool::cool::cool::cool::cool::cool:


    (Higtmax, 28 พฤศจิกายน 2018)

    (ขอปิดท้ายหมายเหตุจาก 9@)
    ในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญ???...จริงหรือครับ
    "แต่กระทู้นี้เจอความบังเอิญลักษณะเช่นนี้บ่อยๆๆๆ"
    (ทั้งที่"ปักหมุด"ตามคิวตามเนื้อหาสาระที่ดี)
    :(:(:(:(:(:(:(:(
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด95) หน้า125 ลำดับที่#2493
    :(:(:(:(:oops::oops::oops::cool::cool::cool:
    เล่นตลกหรือป่าว เจอกันอีกแล้ว"ความบังเอิญ"
    (โพส์ตเมื่อปี 2018)

    เรื่อง Trade War สงครามการค้า
    "ทรัมป์เอ๋ยลุงทรัมป์ ฟัง9สักนิดก้อดี"

    เช้าวันนี้จะมาโม้เองเรื่องเศรษฐกิจ(เล็กน้อย)
    "สงครามการค้า Trade War"
    ที่ปะทุร้อนระอุในหลายเดือนที่ผ่านมา
    โดยเฉพาะ USทรัมป์ VS พญานาคมังกรจีน

    ...สร้างความระส่ำระสายไปทั่วโลก
    จนทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจกระทบไปทั่ว
    โดยเฉพาะตลาดหุ้นถูกเทกระจาดอย่างหนัก
    555 ผมไม่ได้แทงหุ้นนะครับ...หวยอาจมีบ้าง
    คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น
    ไม่จริงครับ...ยุคนี้หวยหุ้นคนจนเล่นมากกว่า
    ...ไม่ทราบว่าจะมีคอหุ้น
    หลงเข้ามาอ่านเรื่องพญานาคหรือป่าว

    อาจช่วยคลายวิตกเรื่อง Trade War บ้าง
    ...ถ้าอ่านแล้ว...ฝืนใจเชื่อสักนิดๆ เศษเสี้ยว%ก็ดี
    ในมุมมองของคนเชื่อพญานาคนะครับ
    เป็นมุมมองฉบับเฮฮา...หาอ่านที่ไหนไม่ได้

    ผมว่า...ทรัมป์กำลังตกที่นั่งลำบาก
    จากการที่เป็นนักธุระกิจมือฉมังเก่า
    อารมณ์ร้อน ค่อนไปทางวู่วาม
    ตัดสินใจอะไรฉับพลัน อารมณ์ไม่นิ่ง

    นาทีนี้...นับจากวันนี้...
    คงต้องเพลามือลงแล้วหล่ะลุงทรัมป์
    เพราะเมื่อหันไปมองรอบทิศ 360 องศา
    ไหง...น้องยุ่นซามูไร จู่ๆไปจับมือกับมังกรจีน
    ทั้งๆที่เป็นคู่รักคู่แค้น บาดหมางใจมาตลอด(ชาติ)
    ทั้งคู่กำลังรุกคืบหน้าร่วมมือกัน..คุยกัน เพื่อตกลงกัน
    โดยเฉพาะงานสัมปทานคมนาคมในแถบอาเซียน

    ส่วนอาหมีโซเวียตนับวันยิ่งเมินทรัมป์
    รวมทั้งยุโรปบางประเทศก็ค่อยๆถอยห่างไปทีละคืบๆๆ
    อินเดียฉบับนาคีก็คงต้องเฝ้าระวังทรัมป์


    โดดเดี่ยวไหมลุงทรัมป์...เหงาไหม?

    นี่แหละครับ...ทรัมป์คงรู้แก่ใจ
    ผมจึงคิดว่าการเจรจาการค้ารอบต่อๆไป
    ...คงต้องอ่อนข้อลง...
    อะไรที่ยอมกันได้ ตกลงกันได้ อย่าฝืนครับ
    เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกยิ่งทดถอย
    มะกันยิ่งถดถอยมากกว่า

    มิตรภาพที่เคยมีค่อยๆหายไปด้วย
    แล้วจะโดดเดี่ยวเดียวดาย..หาเพื่อนซี้ไม่เจอ

    สุดท้ายทรัมป์จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

    สรุปครับ
    คาดว่าสงครามการค้าจะค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดี
    (ตามเหตุผลข้างบนครับ)

    ปล.ฉก.แค่เขียนสนุกๆเพื่อคุยคั่นรายการ

    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::)

    (9@Phonlee 29 พฤศจิกายน 2018)


    [​IMG] ถูกใจ x 2
    • [​IMG] ฮ่าๆ x 2
    • [​IMG] รักเลย x 1
    • [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025
  4. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +1,223
    อยากรู้อนาคตบ้างจัง คนทั่วไปท่านดูให้หรือเปล่าครับ
     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    ปักหมุด96) หน้า128
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::oops::oops::oops::oops:

    เรื่อง อัศจรรย์แห่งโทรจิต


    พร้อมเรื่องราวจริงที่เคยเกิดขึ้นกับ 9 เอง
    จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ...ก็ไม่น่าจะใช่

    เพราะเฮียหนุ่มบอก"ความบังเอิญไม่มีในโลก"

    (บทความจาก...คุณchedtha)
    (ตอนที่1)
    โทรจิต คืออะไร
    หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้
    แต่จะมีสักกี่คนนะ ที่เข้าใจ ว่า โทรจิต คืออะไร
    โทรจิต (Telepathy) คือ การถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดจากใจของผู้ส่ง
    ไปถึงผู้รับโดยไม่ผ่านวิธีการสื่อสารอื่นใด นอกจากใช้ใจเป็นสื่อเท่านั้น
    เป็นความสามารถในการสื่อสารอีกระดับหนึ่ง ที่ใช้แทนการพูดและการเขียน
    โดยใช้ใจเป็นสื่อในการรับและส่งข่าวสาร
    เป็นการถ่ายทอดพลังทางกาย พลังทางอารมณ์ และพลังทางความคิด
    จากผู้ส่งไปยังผู้รับโดยไม่ต้องมีการสัมผัสกันทางกาย
    โทรจิต เป็นสัญชาตญาณที่มนุษย์ในสมัยโบราณและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
    เคยใช้เป็นกลไกเพื่อความอยู่รอด ด้วยการติดต่อสื่อสารกันทางจิต
    โทรจิต เป็นการสื่อสารที่ไม่ผ่านประสาทสัมผัสทางกายทั้ง 5
    ตา หู จมูก ลิ้น กาย

    โทรจิต มีกี่ประเภท
    1. โทรจิต ถ่ายทอดเรื่องทางกายภาพ
    เช่น ส่งกระแสจิตไปถึงผู้รับว่าเราเห็นอะไร เราได้ยินอะไร ฯลฯ

    2. โทรจิต ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึก
    เช่น กระแสจิตที่ส่งไปถึงผู้รับ ให้รับรู้ถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเศร้า ความกลัว ฯลฯ

    3. โทรจิต ถ่ายทอดความคิดจิตใจ
    เป็นการส่งกระแสจิตออกไปถึงผู้รับ ให้รับรู้ความคิดของเรา

    คนเราทุกคนมีศักยภาพที่จะสามารถใช้โทรจิตได้ทั้งนั้น
    ด้วยการเรียนรู้และฝึกการใช้โทรจิต
    ต้องรู้จักทำใจให้ว่าง และมีสมาธิในขณะที่จะส่งหรือรับโทรจิต

    คนที่เป็นฝาแฝดกัน มักจะมีคลื่นความถี่ในระดับเดียวกัน และมักใช้โทรจิตในการสื่อสารกันโดยสัญชาตญาณ

    คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกัน เช่น คนในครอบครัวเดียวกัน คู่รักกัน มักจะสื่อสารกันด้วยใจได้
    หรือใช้โทรจิตรับส่งถึงกันได้


    ยิ่งถ้ามีการฝึกฝนการใช้โทรจิตด้วยแล้ว จะได้ผลเร็วมาก
    และใช้การโทรจิตถึงกันได้ตลอดชีวิต
    อย่างเช่น ลูกที่เรียนอยู่ต่างประเทศ อยู่ๆก็คิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่
    จึงโทรศัพท์ทางไกลไปหา ก็ทราบว่าแม่กำลังป่วยหนัก
    เพราะกระแสจิตของแม่ที่กำลังป่วยอยู่นั้น ได้ถูกส่งไปหาลูก
    ทำให้ลูกรับรู้ได้ว่าแม่กำลังป่วยอยู่

    หรือคนที่เป็นคู่รักกัน
    หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดถึงและโหยหา
    อีกฝ่ายหนึ่งจะรับรู้ได้ด้วยใจ


    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::rolleyes::rolleyes::rolleyes:


    (9@Phonlee, 30 พฤศจิกายน 2018)


    ****************************************

    เรื่อง อัศจรรย์แห่งโทรจิต
    (ตอนที่2)
    บทความจากคุณ Chedtha)

    จิตของคนที่ฝึกมาดี จิตที่ปราศจากอคติ ปราศจากโทสะ
    ปราศจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่หลงงมงาย
    ไม่อยากได้อยากมี ไม่อิจฉาริษยา
    ไม่โกรธแค้นอาฆาตพยาบาท มีใจสงบนิ่ง
    เป็นจิตที่ละเอียดอ่อน และมีพลัง จะสามารถหยั่งรู้ใจคน
    และอ่านความคิดคนอื่นได้

    กระแสจิตของคนเรา เป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีความถี่สูง
    และละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
    กำลังความคิดของแต่ละคนที่ส่งออกไปนอกตัว
    สามารถไปกระทบจิตของคนที่มีความสามารถในการรับคลื่นกระแสจิตได้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    กระแสจิตที่ส่งมาจากคนที่เรารู้สึกผูกพันใกล้ชิดสนิทสนม
    จะสามารถติดต่อกันทางโทรจิตได้
    บุคคลที่มีความสัมพันธ์กันทางอารมณ์อยู่แล้ว
    จะมีประสาทสัมผัสรับรู้พิเศษถึงกันได้

    "คลื่นกระแสจิต" เป็นพลังงาน ที่มีความละเอียดสูงมาก
    จนยังไม่มีเครื่องมือใดๆในปัจจุบันจะวัดได้
    คนเราทุกคน เป็นได้ทั้งผู้รับคลื่นกระแสจิต และเป็นผู้ส่งคลื่นฯ

    “โทรจิต” (Telepathy) เป็นความสามารถถ่ายทอดความรู้สึก
    หรือสิ่งที่ตนรู้สึกในใจ ไปให้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นได้
    โดยการส่งกระแสจิตออกไปถึงผู้รับ

    ดังนั้น “ความคิด” ที่คนหนึ่งๆเปล่งออกมา
    จึงเป็นสิ่งที่ใครๆก็สามารถรับคลื่นความคิดนี้ได้
    ถ้าคนๆนั้นเปิดเครื่องรับในร่างกายตนรับคลื่นนั้นๆเข้ามา

    เซลล์แต่ละอันในร่างกายมนุษย์
    ก็เป็นสิ่งที่สามารถปล่อยคลื่นความคิดออกมาได้เช่นกัน
    และในทางกลับกันคลื่นความคิดก็ย่อมสั่นสะเทือนเซลล์แต่ละอันในร่างกายตนเองได้ด้วย
    ดังจะเห็นได้ว่าความเครียดที่สั่งสมนานๆ
    เป็นตัวการสำคัญอันหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บแก่มนุษย์
    เพราะคลื่นความคิดเหล่านี้เข้าไปมีผลกระทบต่อร่างกายนั่นเอง


    การมีความคิดที่ดี แจ่มใสร่าเริง มองโลกในแง่ดี
    จึงเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้สำหรับมนุษย์
    บางครั้งเราจึงควรหลีกให้ห่างผู้คนที่ปล่อยคลื่นความคิดร้ายๆ
    ถ้าหากทำได้ จะได้ไม่ไปรับผลสะเทือนที่ไม่ดีของผู้คนเหล่านั้นเข้ามา…

    คลื่นความคิดที่ควรหลีกเลี่ยง:
    สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดก็คือ
    การไม่ให้คลื่นความคิด


    จำพวก ความโลภ ความโกรธ ความหลง
    ความไร้สาระในเรื่องเล็กน้อย ความเกลียดชัง
    ความเกียจคร้าน ความอิจฉาริษยา อคติ
    เหล่านี้ไหลเข้ามาสู่ตัวเรา

    คลื่นความคิดที่ควรรับเข้ามา:
    คลื่นความคิดจำพวก ความรัก ความเมตตา
    ความหวังดี ความห่วงใยความเอื้ออาทร
    การมองโลกในแง่บวก การให้อภัย ความกระตือรือล้น
    ความร่าเริงแจ่มใส เหล่านี้ ให้ไหลเข้ามาสู่ตัวเรา

    ความสัมพันธ์ระหว่างกายกับจิต
    เราควรฝึก “ควบคุมใจ” ทำให้เซลล์ในร่างกายทั้งหมด
    สามารถตอบสนองคำสั่งที่ใจสั่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ด้วยเหตุนี้ร่างกายของเราจึงจะแข็งแรง และมีอายุยืนยาว

    เราทุกคนสามารถทำได้เช่นเดียวกัน
    หากแต่บุคคลผู้นั้นต้องมีจิตใจที่กระจ่างเที่ยงธรรม
    มีชิวิตอยู่อย่างมีปณิธาน ศรัทธา ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า
    และมีความคิดในเชิงบวก
    เซลล์ในร่างกายก็จะตอบสนองต่อจิตใจบุคคลนั้นในทางบวกเช่นกัน
    ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจ ย่อมได้ผลเช่นเดียวกัน
    แต่คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึง จิตสำนึกนี้ กลับมีชิวิตโดยใช้แค่ “ใจ”
    หรือ "สิ่งรับรู้ในอารมณ์ทั้งหลาย"เท่านั้น
    ซึ่งผันผวนง่ายและแปรปรวนอย่างรุนแรงมาเป็นหลักของชิวิต
    เราจึงควรพยายามประสานใจของตนให้สอดคล้องกับจิตสำนึกนี้…

    “คลื่นความคิด” ซึ่งมีลักษณะคล้ายแสง
    ถ้ากระแสความคิดถูกส่งเป็นคลื่นออกไปแล้ว
    มันจะเคลื่อนที่ไปอย่างไม่มีขอบเขต
    แต่ไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นตรงทิศทางเดียว
    เหมือนลูกกระสุนจากปากกระบอกปืน

    หากแต่มีลักษณะเหมือนรังสีที่เปล่งออกมาเป็นเส้นตรงในทุกๆทิศทาง
    และแผ่ขยายตัวโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่จุดหนึ่ง….
    จนกว่าจะถูกดูดซับหรือถูกขวางกั้นโดยสิ่งอื่นหรือวัตถุอื่น…

    นักพลังจิตเชื่อว่า
    ความกดดันทางอารมณ์สูงสุดที่เกิดขึ้นทันทีทันใดของคนเรา
    เป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ทางอำนาจจิตได้

    อารมณ์ของคนเรานั้น
    เป็นสวิตซ์ปิดเปิดการส่งโทรจิตธรรมชาติได้โดยอัตโนมัติ
    อย่างเช่น
    เมื่อเราต้องประสบกับเหตุการณ์รุนแรง
    หรือเกิดอุบัติเหตุกับญาติพี่น้องหรือคนสนิท

    อารมณ์ที่เครียดสูงสุดนี้
    ก็จะเป็นตัวเปิดสวิตซ์การส่งหรือรับโทรจิตโดยฉับพลันทันที

    อย่างในกรณีที่เกิดกับทหารเรือดำน้ำรัสเซียคนหนึ่งซึ่งป่วย
    และต้องนอนพักอยู่ที่ฐานทัพ จึงไม่ได้เดินทางออกไปกับเรือเที่ยวนั้น
    พอตกบ่ายเขาก็ฝันไปว่า
    เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรือในขณะที่เรือกำลังดำลง
    เขาไม่สามารถที่จะเข้าไปในเรือได้
    ตัวเขาค่อยๆ จมลงไปในน้ำพร้อมกับเรือ
    เขาสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก และรู้สึกว่ากำลังจะจมน้ำตาย

    จนบัดนี้เขายังจำฝันร้ายนั้นได้ติดตา

    เพราะหลังจากที่เราเข้าเทียบท่าที่ฐานทัพ
    เขาก็ทราบว่าเพื่อนของเขาจมน้ำตายเนื่องจากติดอยู่บนดาดฟ้าเรือ ในขณะที่เรือกำลังดำลงสู่ใต้ผิวน้ำ

    โทรจิตเป็นประสาทสัมผัสที่ 6 ของคนเรา
    ที่นอกเหนือไปจาก ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
    ซึ่งทุกคนมีความสามารถพิเศษทางโทรจิตนี้แฝงอยู่

    หากแต่ถูกบดบังด้วยจิตใจที่หม่นหมอง

    ความจริงแล้วคนเราทุกคนล้วนแล้วแต่ก็มีความสามารถในการส่ง และรับกระแสจิตด้วยกันทั้งนั้น แต่ความสามารถพิเศษนี้
    จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและแน่นอน
    บางคนอาจมีความสามารถพิเศษนี้มากกว่าคนอื่นๆ
    ผู้ส่งและผู้รับกระแสจิตนั้นมีความสำคัญเท่ากัน
    เพราะถ้าผู้ส่งกระแสจิตส่งมโนภาพที่เลือนลางมาให้เรา
    ก็จะได้แต่ภาพที่เลือนลางนั้นด้วย

    ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับและผู้ส่งข่าวสารทางจิต
    จักต้องฝึกปรือกันมาอย่างดี และต้องสามารถสร้างมิตรสัมพันธ์ทางจิต หรือรับคลื่นกระแสจิตให้เข้ากันได้เป็นอย่างดีด้วย

    จงทำตัวให้สบายผ่อนคลายอารมณ์
    ลดภาวะความตรึงเครียดทางกายและทางใจลง
    และควรจะกำจัดความกังวล
    หรืออารมณ์ที่ขุ่นมัวออกให้หมดสิ้น

    จงทำให้มีความเชื่อมั่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    เมื่อเริ่มส่งข่าวสารทางจิตไปยังผู้รับนั้น
    ปล่อยใจให้ล่องลอยจงแน่วแน่อยู่กับข่าวสารและข้อมูลที่จะส่ง
    พร้อมกับนึกถึงหน้าของผู้รับกระแสข่าวสารทางจิตจากเรา
    ให้กระจ่างอยู่ในดวงจิต
    เมื่อท่านฝึกเช่นนี้บ่อยๆ จนมีความคุ้นเคย
    และสามารถปรับคลื่นกระแสจิตเข้ากันได้แล้ว

    ในไม่ช้าไม่นานท่านก็จะเปรียบเสมือนมีเครื่องรับส่งโทรจิตติดตัว ใช้ได้ทุกเวลาทุกสถานที่และทุกสภาวะดินฟ้าอากาศ

    ทั้งนี้ทั้งนั้น อำนาจจิตธรรมชาตินั้น
    น่าจะเกิดมาจากความสอดคล้องกัน

    ระหว่างคลื่นสมองของผู้ส่งและผู้รับ
    ที่มีอำนาจสัมพันธ์กัน
    ซึ่งเรื่องนี้คนทั่วไปสามารถฝึกปรับระดับจิตของพวกเขาให้เข้ากันได้ภายใน 3 เดือน

    แล้วยังมีข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่า
    การฝึกโทรจิต ถ้าจะให้ได้ผลสูงสุด
    นอกจากจะปฏิบัติตามข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว

    เราควรจะมีการนัดหมายเวลา
    เพื่อให้ปฏิบัติพร้อมเพรียงและสอดคล้องกัน
    (ในที่นี้หมายถึงต้องสอดคล้องกันทั้งทางกาย จิตใจ และเวลาด้วย)

    ก็ขอให้ทุกๆคน มีความรู้สึกนึกคิดที่ดี
    กระแสจิตที่ส่งออกมานอกตัว จะได้เป็นกระแสที่ร่มเย็น
    เป็นความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อกัน

    ส่วนคนที่มีกระแสความคิดเป็นในทางลบ
    เช่น อิจฉา หมั่นไส้ โกรธ เกลียด อคติ
    ก็ควรพยายามควบคุมกำลังความคิดของตนเอง
    ให้เป็นไปในทางบวก

    เป็นไปในทางสร้างสรรค์ มีสันติสุข มีความสงบในใจ

    เพราะผู้รับคลื่่นกระแสจิตจากคุณ
    เขาจะได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ
    และพลอยมีใจสงบร่มเย็นไปด้วย


    Posted by chedtha
    (oknation blog)

    (9@Phonlee, 1 ธันวาคม 2018)

    (ไว้ต่อตอนที่3 จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของ9)

    :(:(:(:(:cool::rolleyes::rolleyes:o_O:confused:
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด 97) หน้า129
    :(:(:cool::cool::cool::oops::oops:o_Oo_Oo_O:oops:

    เรื่อง เรียนรู้วิชาโทรจิตเบื้องต้นฉบับสั้น

    ถ่ายทอดโดย บุรุษไร้เงา(อจ.นพ)

    โทรจิตเค้าฝึกด้วยการนั่งหันหลังให้กัน
    แล้วต่างคนต่างคิด
    เพื่อฝึกเชื่อมคลื่นความคิดและ
    ฝึกให้จิตมันแปลผลมาเป็นคำพูดจร้า
    เป็นทริคทางพระมหาฤาษี
    จำเป็นต้องมีคู่ฝึก แล้วแต่ใครจะชอบ
    เรื่องนี้ แต่ส่วนตัวขี้เกียจเลยไม่ฝึก
    และไม่ค่อยชอบแนวๆนี้ด้วย

    ถ้ากรณีเดียวกัน แต่เปลี่ยนเป็น
    มานึกย้อนว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง

    ถ้าทำได้ถึงสองเดือนจะเป็นการฝึกย้อน
    อดีตชาติ เป็น ๑ ใน ๗ วิธีของการฝึก
    ย้อนอดีตเท่าที่ทราบมา

    เคยเขียนเมื่อ ๓ หรือ ๔ ปีก่อน
    แต่ได้ลบไปเพราะมันทำให้คนยึดติด
    ในเรื่องพิเศษท่านว่ามาให้ลบซะ

    :rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::rolleyes::cool::cool::cool::cool::cool::cool:

    (บุรุษไร้เงา, 1 ธันวาคม 2018)
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด 98) หน้า130
    :oops:o_Oo_Oo_Oo_Oo_Oo_Oo_Oo_O

    เรื่อง คลื่นโทรจิตในอีกมุมหนึ่ง(ฉบับคุณค่า)
    (จนต้องเซฟเก็บไว้(อาจมีคำถาม??)


    โพสต์โดย บุรุษไร้เงา (อจ.นพ)

    ทางวิทยาศาสตร์เรียกคลื่นคือ
    คลื่นประเภทที่ ๒ ที่ส่วนตัวเคยพูดไป
    คือจัดอยู่ในกลุ่มชนิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    ซึ่งมีประจุหรือคลื่นแสงนั่นหละตัวเดียวกัน
    คุ้นๆไหมองค์ประกอบของสะสาร
    ที่มีแบบ แทนที่กันได้ กับ แทนที่ไม่ได้
    ที่เคยโม้ไปหลายดอกก่อนหน้านั้น
    คลื่นพวกนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้
    ถ้ามีต้นกำเนิดของแรง
    ฝรั่งสามารถสร้างได้
    แต่ยังไปไม่ถึงในเรื่องต้นกำเนิด
    ของแรงที่ เรียกว่า จิต

    จริงๆต้นกำเนิดของแรงพวกนี้
    ก็สามารถสร้างมาได้จากจิตนั่นหละ
    นอกจากทางเครื่องมือ
    (เช่นคลื่นวิทยุต่างๆ คลื่นไมโครเวฟ
    คลื่นเฉพาะพวกอินเตอร์คอม ฯลฯ)

    เพียงแต่ถ้าพูดว่าจิต
    มันจะออกไปทางดูพิเศษไปนิด
    เลยเอาง่ายๆว่า เกิดจากความคิด
    เพราะเข้าถึงได้ง่ายกว่า

    และก็พยายามพูดอุบาย
    ในเชิงที่มันออกดีๆไว้ก่อน
    เพราะอะไร ? เด่วโม้ทีหลัง

    ทั้งๆที่คลื่นความคิดนั้นมันก็ขึ้นมาจากตัวจิตก่อน
    แล้วค่อยผ่านมายังสมองของเรา
    เพราะถ้าไม่ผ่านตัวจิตก่อน
    เป็นไปไม่ได้เลย ที่สมองของเรา
    จะสามารถสร้างต้นกำเนิดพลังงาน
    ได้เพราะสมองมันจะเป็น
    เพียงแค่เนื้อก้อนหนึ่งเท่านั้น

    อิอิ งงไหม อย่าพึ่งคิดอะไร
    ....อ่านต่อ

    กำเนิดร่างกาย เริ่มจาก
    ตัวจิตมันจะชอบส่งคลื่นตัวหนึ่งออกไป
    กระทบภายนอก เรารู้จักในนามคำว่า
    วิญญาณหรือวิญญานการรับรู้
    ส่งตัวนี้ไป กระทบอะไรมันก็ไม่รู้หรอก
    และพอไม่รู้ มันก็ดึงมาเก็บเป็นนิสัย
    เราเรียกที่มันเอามาเก็บว่าสัญญา
    บางทฤษฎีเรียกความจำได้ ฯลฯ

    อยู่ๆไปมันก็สร้างช่องทาง หรือจัดระเบียบ
    ให้ตัวคลื่นวิญญาณนี้ กลายมาเป็น
    ตา หูจมูก และอวัยวะ จนเป็นร่างกายเรานี่หละ
    นี่คือแบบหยาบๆ. ดังนั้นถ้าเราสังเกตุ
    จะพบว่า ในอวัยวะต่างๆที่รวมเป็นกาย
    มันจะมีองค์ประกอบด้วยคลื่นวิญญาณตัวนี้
    แทบทั้งสิ้น (เราถึงรู้สึกได้ ถ้ามันถูก
    ทำลาย หรือบกพร่อง).และมันจะรู้สึกห่วง
    มีการระวัง ป้องกัน นึกออกไหม
    เพราะคลื่นวิญญาณที่ออกจากจิต
    มันเป็นตัวสร้างอวัยวะเหล่านี้เอง


    ที่นี้ตัวโทรจิตนี้
    เรารู้ว่าอยู่กลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือคลื่นแสง
    แต่มันจะสามารถแปลงเป็นภาษาให้เราเข้าใจ
    ก็ต่อเมื่อคลื่นตัวนี้มันมีสภาวะเป็นกลางเท่านั้น.
    ห๋าาาาาาา บางคนฉุกคิดได้
    จะ เป็นกลางอย่างไร หรือได้จังได๋
    ก็ในเมื่อมันมีทั้งประจุบวกและลบ ? ^_^

    อิอิ ฟังต่อนะใจเย็นๆ
    เป็นกลางคือคลื่น
    มันต้องไม่มีทั้งประจุบวกและ
    ประจุลบ นั้นเอง แต่คลื่นมันยังมีอยู่
    ถ้าเข้าใจไม่ผิด ฝรั่งค้นพบคลื่นตัวนี้แล้ว
    เรียกมันว่า. “อนุภาคผี”
    เพราะมันสามารถแทรกซึมไปได้ทุกที่

    ทุกประเภทของแรงชนิดต่างๆ
    ไม่ว่าจะร่างกาย
    วัตถุใดๆก็ตาม และแม้รู้ว่ามันมีอยู่จริง
    แต่ก็เหมือนจะยังไม่เข้าใจมัน ณ ตอนนี้

    เป็นกลางทางคนปฎิบัติเรียกว่าใจเป็นกลาง
    (คือไม่ชี้ชัด ตัดสิน แบ่งฝ่าย เลือกข้าง)

    หรือกิริยาที่จิตคลายตัว
    (จิตไม่เป็นวงกลม เพราะไม่มีคลื่นวิญญาณ
    ส่งออกจากสัญญาภายในจิต ไปเชื่อมภายนอก
    หรือภายนอกมาเชื่อมจิตให้มันเกิดเป็นวงกลม)

    สังเกตุได้ เราจะพบว่า อุบายการสอน
    ต่างๆนั้น จะเน้นไปเพื่อปลายทาง
    ให้ใจเป็นกลางนั้นเอง ด้วยการคิดดีๆไว้ก่อน


    เพื่อ??? เอ้าาาา
    ก็มันมีประจุบวกและลบ
    และมีคลื่นวิญญาณ
    เป็นองค์ประกอบอยู่อย่าลืม และมีจิตเป็นต้น
    กำเนิดของแรงหรือคลื่นเหล่านี้

    ถ้าคิดไม่ดี คลื่นมันจะกลายเป็นความร้อน
    เนื่องจากมันเสียดสีกันระหว่างประจุใดประหนึ่งทาง ปฎิบัติ
    เราเรียกว่าธาตุไฟ
    ถ้าคิดเรื่อยเปื่อย มันจะวนๆเข้าหากัน
    และเหวี่ยงไปมาเราเรียกว่า ธาตุลม และอากาศ
    และถ้ามันดันเข้าพวกกัน ตรงกัน
    คลื่นมันจะรวมกัน กลายเป็นตึง หนัก ฟิตไป
    จริงจังไป เราเรียกธาตุดิน.
    และสุดท้ายถ้าคิดดีตามหลักพุทธศาสนา
    มันจะกลายเป็นธาตุน้ำ คือเย็น หรือ
    ธาตุที่มันไม่เข้าพวกกับคลื่นทั้งประจุบวก
    และประจุลบ บางคนเวลาสบายใจ หรือใจเป็นกลาง
    จึงรู้สึกว่า ร่างกายนอกจากจะเบาแล้ว

    ยังรู้สึกถึงความเย็น สบายใจ
    บริเวนหน้าอกร่วมด้วยนั่นหละ

    (เพราะจิตมัน stay
    อยู่บริเวณนั้น)

    พอคลื่นมันไม่เข้าพวกกับคลื่นแสงหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ โอกาสที่มันจะเป็นกลาง
    ก็สูง หรือมีคุณสมบัติคล้าย
    อนุภาคผี นั่นเอง

    สภาวะตรงนี้นี่เอง ที่จะเป็นการแปลเป็น
    ภาษาให้เราเข้าใจ ไม่ว่าจุดกำเนิดของคลื่น
    จะมาจากมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม
    (เพราะสัตว์คล้ายเราตรงมีวิญญาณ
    เป็นองค์ประกอบในการสร้างร่างกาย)

    ดังนั้นบางคนที่อ่านใจคนได้เลย
    จะไม่รู้สึกเย็น แต่จะรู้สึกเบาได้ เป็นกลางเลย
    เพราะไม่ได้เริ่มจากการสร้าง
    คลื่นที่ไม่เข้าพวก หรือคลื่นที่จะมากพอ
    เป็นธาตุน้ำเพื่อโอกาสที่จะเป็นกลางก่อน
    ก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไร

    :):):):(:(:(:(:(:cool::cool:o_O:rolleyes::rolleyes:

    บุรุษไร้เงา (อจ.นพ) 1 ธันวาคม 2018
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,944
    ค่าพลัง:
    +4,805
    (ปักหมุด 99) หน้า130
    :(:mad:;):(:oops::oops::oops::oops:o_O:oops::oops:

    เรื่อง พลังจิตหรือโทรจิตกับเหตุการณ์สึนามิ26/12/47
    **จะย้อนเล่าเรื่องสึนามิให้ฟัง**

    เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ 9 เอง

    เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนที่
    นักพลังจิตเชื่อว่า...
    เมื่อใครกำลังเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรง
    หรือกำลังจะเกิดภัยอันตราย
    อารมณ์ที่เครียดสูงสุดนี้
    จะเปิดสวิตซ์การส่งโทรจิตโดยทันที
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    กับคนที่เรารู้สึกผูกพันใกล้ชิดสนิทสนม
    เช่น บุคคลในครอบครัว พ่อแม่ลูก
    จะสามารถติดต่อกันทางโทรจิตได้อย่างน่าพิศวง


    เช้าวันที่ 26-12-47 เวลาประมาณ 10.30 น.
    ขณะที่ผมกำลังจะเปิดฝาขวดโหล
    เพื่อเอาอาหารเม็ดให้ปลาคร๊าฟกิน
    ...พลาดอีท่าไหนไม่รู้
    ...ขวดโหลหลุดจากมือตกลงไปที่พื้น เสียงดังลั่นบ้าน
    ...วินาทีนั่นผมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
    ...เพราะความที่เป็นคนถือเคล็คถือลางพอสมควร

    หลังจากกวาดทำความสะอาดแล้ว
    ได้ไปเปิดโทรทัศน์...
    มีการรายงานข่าวการเกิดคลื่นยักษ์ที่ทะเลอันดามัน
    คลื่นยักษ์กระหนำชายฝั่งอย่างรุนแรง
    เรืออับปางมากมาย
    ...เปลี่ยนไปดูช่องไหนก็เจอแต่ข่าวร้ายนี้
    วินาทีนั่นทุกคนในครอบครัวแทบช๊อค สติแตก

    "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกด้วย ช่วยลูกฉันด้วย"

    ...เพราะชั่วโมงกว่าๆที่ผ่านมาลูกชายคนโตได้โทรศัพท์บอกว่า
    เรือกำลังออกจากชายฝั่งแถวพังงาเพื่อไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ

    หลังทราบข่าวร้ายเกิดคลื่นยักษ์
    ผมจึงรีบโทรศัพท์ไปหาลูกชายทันที แต่ติดต่อไม่ได้
    จากนั้นข่าวโทรทัศน์ทุกช่องทยอยนำเอาภาพความสูญเสียออกมาแพร่ภาพสดทุกๆนาที
    ผมจึงโทรไปหาเพื่อนที่กระบี่
    เค้าบอกว่าเรือส่วนใหญ่โดนพายุพัดจมหมด

    *เพราะช่วงนั่นคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคลื่นยักษ์จะกวาดกลืนกินเรือทุกลำที่อยู่รอบชายฝั่งและเรือที่ลอยอยู่กลางทะเล*

    เพราะตอนนั่นคนไทยต่างไม่รู้จัก*สึนามิ*

    วินาทีนั่นทุกคนในครอบครัวก็ได้แต่ทำใจกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
    ผมถึงกับน้ำตาซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว
    ประมาณบ่าย โทรศัพท์ดังขึ้นมา
    ผมภาวนา...."ขอให้เป็นลูกชายโทรมาเถิด"

    พอคำแรกได้ยินเสียงลูกชาย
    ทุกคนต่างดีใจโล่งอกสุดๆ

    ลูกชายเล่าให้ฟังว่า
    ช่วงประมาณสิบโมงกว่า
    เรือที่นั่งมาต้องลอยลำอยู่กลางทะเล
    ห่างชายฝั่งพอเห็นเกาะไกลๆ
    เห็นคลื่นยักษ์ซัดถาโถมเข้าใส่เกาะเหมือนจะกลืนกินทั้งเกาะ
    ...ช่วงนาทีวิกฤตรู้สึกใจคอหวาดหวั่น ตื่นกลัวอย่างมาก
    เพราะเรือลอยลำอยู่กลางทะเล...คงรอดยาก
    ...คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ที่สุด

    ช่วงวินาทีนั่น
    *คงเกิดคลื่นกระแสโทร
    จิตส่งไปให้พ่อแม่รับรู้*
    จึงเป็นเหตุให้ขวดโหลหลุดจากมือผมโดยไม่รู้ตัว

    หรืออาจเป็นเพราะความบังเอิญ
    ก็เหลือที่จะคาดเดา???
    :(:cool::cool::cool::cool::cool::cool::rolleyes::rolleyes:o_Oo_O


    (9@Phonlee, 1 ธันวาคม 2018)
     

แชร์หน้านี้

Loading...