ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความสุขแท้...แก้ที่ใจ

    [​IMG]
    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ

    พวกเราตั้ง "ปุจฉา" กับชีวิตไว้จนฟุ้ง บ้างถามเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ความสุขอยู่หนใด ...ณ เวลานี้ เราจะได้ "วิสัจนา" กับพระอาจารย์ฝรั่งวัย 74 พรรษา ผู้มีใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยเมตตาพร้อมไขปริศนาธรรม...

    นับตั้งแต่พระฝรั่งท่านนี้ เริ่มเผยแพร่แนวทางธรรมผ่านตัวอักษร เอ บี ซี มาตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษ พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ หนึ่งในศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท ได้รับการกล่าวขานว่ามีลูกศิษย์ลูกหาชาวไทย คอยติดตามไปทุกหนแห่งเพื่อหวังจะได้ฟังข้อคิดหลักธรรมอยู่เนื่องๆ

    บุคลิกของท่าน มักไม่ค่อยชอบเผยตัวสักเท่าไร นานๆ ครั้ง ท่านจะสละความสันโดษ และสงบเงียบที่ถ้ำสองตา สถานที่พำนักประจำในเขตพื้นที่เขาใหญ่ ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือออกมาบรรยายธรรมและพูดคุยวิถีการเจริญสติ เพื่อจะเป็นแนวทางบำบัดฟื้นฟูจิตใจ ให้เกิดความรื่นรมย์ และผ่องแผ้วรับปีกระต่ายเริงร่า

    โอกาสดีๆ ส่งท้ายปีเสือเช่นนี้ บรรดาผู้มีจิตศรัทธาต่างก็พูดว่า อย่าปล่อยให้คำว่า "ธรรมะเป็นเรื่องของพระ" แต่ให้เปิดประตูใจใช้ธรรมนำหนทางไปสู่ความดับทุกข์ปุถุชน เพื่อก้าวสู่ปี 2554 อย่างเปี่ยมสุข

    "การเข้าถึงธรรมไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่พวกเราจะจริงจังตั้งใจกับมันแค่ไหนเท่านั้น อย่างอาตมาเอง หลังจบการศึกษาด้านกฎหมายและออกมาประกอบกิจการส่วนตัวด้านการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ เคยใช้ชีวิตที่สุขสบาย เป็นเศรษฐีชิคาโก มีทุกสิ่ง ได้ทุกอย่าง แต่วันหนึ่ง นั่งเฉยๆ แล้วคิดว่าทำไมไม่มีความสุขเลย จะเรียกว่า อกหักกับชีวิตก็ได้นะ (หัวเราะ) นั่นแหละจุดเริ่มต้นการเดินทางเส้นใหม่ของอาตมา"

    ก่อนที่ท่านจะสละทิ้งวัตถุแห่งกิเลสทั้งหลายในวัยหนุ่ม (35 ปี) แล้วเลือกศึกษาวิถีพุทธในประเทศอังกฤษในช่วงแรกนั้น ท่านเคยเป็นฆราวาสที่โปรดปรานหนังสือเกี่ยวกับภาวะทางจิต สมาธิ และการปรับปรุงตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจมาตลอดได้ว่า "ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขที่แท้จริง?"

    ครั้นพอได้แสวงหาคำตอบจากหลายๆ นิกาย ลองมาใช้ชีวิตผู้ปฏิบัติธรรมเคร่งครัด และถูกบททดสอบอันหนักหน่วงจากครูอุปัชฌาย์อาจารย์

    จากความไม่เชื่อ แต่สนใจใคร่รู้ จนได้ลองรักษาศีลแล้วเห็นว่ามีประโยชน์จริง ที่สุดแล้ว ธรรมะ นั่นเองที่เป็นคำตอบของชีวิต และความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากการปล่อยวาง ท่านจึงทำให้มันเป็น "เข็มทิศนำทาง" แล้วยึดถือไว้กว่า 30 ปีแล้ว

    จากนั้นได้ตกลงปลงใจเดินทางมาบวชที่วัดหนองป่าพง อ. วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อหันเหสู่เส้นทางจิตวิญญาณ หวังจะศึกษาธรรมใต้ร่มกาสาวพัตร์ให้แตกฉานและขั้นสูงขึ้นไปอีก

    ภารกิจระหว่างเดินทางเพื่อไปสู่จุดสูงสุดนั้น พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ บอกว่า จะเดินขึ้นเขา เราต้องรดน้ำต้นไม้ข้างๆ ทางให้งดงามด้วย นั่นแปลว่าต้องเผยแพร่สิ่งที่รู้ ไปสู่สาธารณชนคนที่ใจยังมืดบอดอยู่

    ผลงานหนังสือของท่านมีทั้งที่เขียนขึ้นเอง อย่าง Questions from the city, Answer from the Forest ; Monk in the Mountain ซึ่งได้รับการแปลเป็นไทยในชื่อ ธรรมะจากพระภูเขา หรือ The Brightened Mind มีชื่อไทยว่า จิตที่สว่างไสว กับผลงานแปลจากเทศนาธรรมของพระอาจารย์ธุดงค์ผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง พระอาจารย์ชา พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี และพระอาจารย์พุธ ฐานิโย เป็นต้น

    ล่าสุด กับหนังสือ พบลิงที่ครึ่งทาง ( Meeting The Monkey Halfway) ซึ่งเน้นวิธีการพัฒนาจิตด้วยตนเอง พร้อมจะนำจิตวิญญาณไปสู่อิสรภาพเหนือการพึ่งพาสิ่งอื่นใด ทำ "ใจ" ไม่ให้ "สุดโต่ง"

    คำสอนอันงดงามและมีคุณค่าให้สังคม ย่อมเหมาะกับช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังค้นหาคำตอบให้กับชีวิตในขณะนี้ แต่คำสอนที่ว่านั้น ต้องทะลุเข้าไปในใจ และตอบคำถามได้ตรงจุด ด้วยภาษาที่เรียบง่าย คมคาย แต่ลึกซึ้ง

    พระที่เคร่งในพระวินัยอย่างแรงกล้า เล่าถึงเหตุผลที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาว่า ได้ตระหนักถึงกลไกการทำงานอันร้ายกาจของจิตที่ซนเหมือนลิง มีลักษณะไม่อยู่นิ่ง ไม่เชื่อฟัง ผันแปร และเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เป็นความสับสนวุ่นวายในจิตใจ ที่คอยแต่จะสร้างความสับสนวุ่นวายให้กับชีวิตทุกครั้งที่มีโอกาส มันจะจู่โจมเราโดยไม่รู้ตัว

    ครั้นจะคุมตัวเข้ากรงขังไว้เสีย หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมเช่นนั้น ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ รังแต่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นเราต้องทำให้มันอยู่บนทางสายกลาง หรือครึ่งทาง แล้วนำมาเป็นอุบายอันชาญฉลาดในการบริหารจิต ที่ไม่ตึง แข็งกระด้าง หรือหย่อนยานจนเกินไป ตั้งอยู่บนหลักการของความสมดุลเป็นกลาง

    ทั้งนี้ เราจะเห็นหัวใจของเรา และพบทางที่อยู่ตรงกลางได้ ก็ต่อเมื่อเรามีความอุตสาหะที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำจิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สงบได้ยาก ให้เกิดความตั้งมั่นและเป็นกลาง และด้วยความพยายามมุ่งมั่น ประกอบกับความพากเพียร ซื่อตรงและปัญญา ก็จะทำให้เข้าถึงการเจริญในธรรมที่นำไปสู่หนทางอันถูกต้อง

    หลังจากรู้หลักการและที่มาของปัญหานานาในโลกใบนี้ว่า ทุกปัญหาล้วนเกิดจาก "จิตฟุ้งซ่าน" ของมนุษย์

    ขณะเดียวกันเหล่าสัตว์ประเสริฐทั้งหลายกลับไม่รู้จักการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่เคยพอใจสิ่งใดๆ ไม่เคยเติมเต็มตัวเองสักที แล้วก็หาความสุขจากภายนอก วนเวียนอยู่ในความยึดมั่นสรรพสิ่งทั้งปวง หรือ ขันธ์ 5 (รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์) และการรับรู้และตอบสนอง หรือ อาตยนะ 6 ทั้งภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ และภายนอก ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธัมมารมณ์

    "วงจรชีวิตเดินตามครรลองของมันอยู่แล้ว แต่บางคนพยายามหาความสุขที่มากกว่าทั่วไป บ้างเที่ยว หรือทำงานเพื่อเอาเงินมาซื้อความสุขทางวัตถุอื่นๆ มันเป็นภาพลวงตาของความสุข เพราะเราจะตั้งความหวังใหม่ไปเรื่อยๆ" พระอาจารย์ยกตัวอย่าง และอธิบายในอีกมุมหนึ่งว่า

    หรือบางคนก็รู้หลักหลุดพ้นจากการยึดมั่นและรับรู้ แต่เลือกวิธีปฏิบัติสุดโต่ง ฝืนธรรมชาติของชีวิต เราจึงไม่พ้นทางดับทุกข์ ไม่สามารถควานหาความสุขที่จริงแท้ได้สักที และที่สำคัญที่สุดคือ พวกเราไม่เคยวกกลับตามหาความสุขที่อยู่ในใจเลยสักครั้ง

    ค้นพบแล้ว สละทิ้ง

    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ จึงเผยแนวทางการปฏิบัติเริ่มแรกให้ใช้วิธี "B-ME" ทั้งที่แปลว่า จงเป็นตัวของตัวเอง และเป็นตัวย่อของให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง คือ Begin (มีจุดเริ่มต้น) , Middle (ดำเนินมาได้ครึ่งทาง) และ End (แล้วเดี๋ยวก็จบ) ว่ามันจะหมุนเวียนกันไปอย่างนี้ไม่มีสิ้นสุด

    ท่านยังเพิ่มเติมข้อธรรมหลากหลายอันงดงาม และมีคุณค่าเปี่ยมด้วยพลังแห่งการให้กำเนิดชีวิตใหม่ เพื่อให้เราหันกลับมาดูตัวเอง แก้ไขตัวตนให้สมบูรณ์ และเมื่อเราเป็นสัตว์สังคม เราก็จำเป็นต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นให้ถูกต้อง อย่างการให้อภัย ซึ่งเป็นปัญญาธรรมว่าด้วยความรัก เมตตา ซึ่งพวกเราหลงลืมและละเลยไปแล้วในยุคสมัยนี้

    ส่วนอีกหลักธรรมคำสอนที่ถือว่าเป็นจุดไคลแมกซ์ นั่นคือ วิธีการเจริญภาวนาที่พระอาจารย์เรียกว่า การคลายออก ซึ่งตรงข้ามกับการสั่งสม เป็นการปล่อยวาง อันจะนำไปสู่ความสุขสงบที่มนุษย์เราต่างแสวงหามาตลอดชีวิต

    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ อธิบายต่อว่า เราต้องมีศีลเป็นพื้นฐานเพื่อให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบเสียก่อน แล้วใช้สมาธิเพื่อทำให้เกิดพลัง จากนั้นให้มองความสุขที่แท้จากการมองไปรอบๆ จะเห็นความงามของดอกไม้เป็นสิ่งชั่วคราว ประเดี๋ยวก็จะเห็นความเสื่อม แล้วจะพบว่าที่ใจเราทุกข์เพราะเรายึดติดกับกาย ความจริงแล้วธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้นของมันอยู่แล้ว

    "เราต่างหากที่ประดิษฐ์จิต สมมุติมันขึ้นมา เราต้องมีสติ สนใจปัจจุบัน และรู้ว่าทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วจะผ่านไป เราต้องมองความเป็นจริง ว่าทุกอย่างมักเป็นอย่างนี้ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"

    พระอาจารย์นักเขียน สรุปให้ฟังว่า ฝึกการเจริญภาวนานั้นให้เจริญสติเสมอว่า เดี๋ยวก็ดับไป ระลึกไว้ทุกขณะ อาจเริ่มทำเช้า-เย็นก่อนก็ได้ หรือระหว่างเดินจงกลม ไม่นานเราก็จะไม่ยึดติด

    การนำเสนอทัศนคติตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงมีต่อโลกนี้ เป็นการสอนวิธีเยียวยาจิตในลักษณะเดียวกับการบำบัดรักษาความเจ็บป่วยและทุพพลภาพของร่างกาย มันจึงเป็นหนทางเพื่อการเจริญเติบโตแห่งจิตวิญญาณ และเป็นเครื่องมือฟื้นฟูจิตใจให้เกิดความรื่นรมย์ ผ่องแผ้ว ส่องประกายด้วยความสงบสุข เป็นสภาวะที่จิตใจได้กลับคืนสู่บ้านที่แท้จริง

    ท่านทิ้งท้ายสำหรับผู้มีกิเลสหนา กลัวว่าจะทำไม่สำเร็จไว้ว่า แค่คิดว่าอยากจะพ้นทุกข์ ยิ่งมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งเกิดพลังมากขึ้นเท่านั้น คุณภาพชีวิตคนเราอยู่ที่ปัญญาของเรา ต้องเจริญในทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องฝึกฝน เพราะการสร้างปฏิบัติธรรมก็เหมือนการปลูกต้นไม้ สภาวะเกิดปัญญาได้รวดเร็วต้องมีปัจจัยที่ดี และต้องโน้มน้าวจิตเราไปในทางธรรมเสมอ แล้วแสงสว่างแห่งความสุขก็จะเปล่งประกายออกมา รับชีวิตใหม่ที่พ้นห้วงทุกข์อย่างแท้จริง

    นำเสนอโดย : ชฎาพร นาวัลย์

    บทความจากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20101227/369093/ความสุขแท้...แก้ที่ใจ.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสาน อากาศยังหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุด12องศา กทม.เย็นสุด19องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ อากาศหนาว และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-14 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภูหินร่องกล้าเย็นยะเยือกเกิดแม่คะนิ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันที่ 28 ธ.ค. ที่ จ.พิษณุโลก อากาศหนาวทำให้เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้ง หรือ น้ำค้างแข็ง เป็นครั้งแรกในรอบปี

    ที่บ้านร่องกล้า ม.10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนระดับความสูง 1,400 เมตร
    แม่คะนิ้งลักษณะเป็นเกล็ดและเป็นแท่งน้ำแข็ง เกาะอยู่ตามยอดหญ้า ใบผักกะหล่ำปลี บนหลังคามุงจากบ้านชาวเขา จนขาวโพลนไปหมด อุณหภูมิที่วัดได้ระหว่างเวลา 06.00 น.อยู่ที่ติดลบ 1 องศาเซนเซียส และเกิดแม่คะนิ้งระหว่างเวลา 06.00-07.30 น.จนเมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขาขึ้นมาน้ำค้างแข็งก็ละลายกลายเป็นน้ำ

    นายพุฒิพงศ์ จูสนิท หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า

    อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากของจังหวัดพิษณุโลกบนระดับความสูงตั้งแต่ 1,200-1,700 เมตร มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามทั้งลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง และมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย


    ในช่วงฤดูหนาวทุกปี อุณหภูมิบริเวณบ้านร่องกล้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 10 กิโลเมตรจะต่ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0-4 องศาเซนเซียส

    และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสความหนาวเย็น ปรากฏการณ์แม่คะนิ้งมักจะเกิดทุกปีช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ปีนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 28 ธันวาคม 2553 จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยว ขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นและความงดงามของธรรมชาติได้ทุกวัน อุทยานฯมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งลานกางเต้นท์และห้องน้ำ ห้องสุขาครบครัน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เราจะพัง ก็ด้วยตัวทะยานอยาก ****

    เราจะทำอย่างไร กับตัวทะยานอยาก...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ****

    เราถือสัจจะ...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    29 ธ.ค. 53


    2011 ปีแห่งการเตรียมความพร้อม

    ผมเคยเขียนเตือนไปแล้วเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในปีหน้าแต่คนส่วนใหญ่
    ก็ยังใช้ชีวิตอยู่บนความประมาทคิดว่าจะไม่เกิดหรือจะยังไม่เกิดจะเฝ้าดูจนกว่าจะ
    เห็นจริงแล้วจึงจะเตรียมการ เมื่อเวลานั้นมาถึงท่านจะเตรียมการได้ทันอย่างไร?
    ต่างคนต่างแย่งชิงกันซื้อ แย่งชิงกันหนี มีเงินแต่หาซื้อไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร?

    ตามสัญญาณของผมช่วงระยะสามปีกว่ามานี้ ได้ฟันธงไปเรียบร้อยแล้วว่าจะ
    เกิดแน่นอน เพียงแต่รอเวลาให้ทุกกลุ่มเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย จัดคนที่
    สมควรจะอยู่ไปอยู่ในที่ๆจัดไว้ให้ ให้เรียบร้อยเสียก่อน



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพประกอบข่าว
    ชาวบ้าน พนง.เกาะพีพี ผวา! อพยพขึ้นที่สูง หลังคำทำนาย จะเกิดสึนามิ
    รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านรวมทั้งพนักงานโรงแรมชาวไทย บริเวณเกาะพีพี ต่างอพยพเก็บทรัพย์สินไปอยู่ที่สูงและที่ที่ปลอดภัยบริเวณเชิงเขา รวมทั้งพนักงานโรงแรมต่างขอลาหยุดเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องกลัวเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง หลังมีคำทำนายสึนามิจะเกิดในวันที่ 30 ธันวาคม ทำให้สถานประกอบการต่างๆขาดแคนพนักงาน บางสถานที่เหลือเพียงผู้จัดการเพียงคนเดียว
    แต่อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาเที่ยวกันตามปกติ ยกเว้นชาวเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ได้เลื่อนเวลาเดินทางออกไปหลังปีใหม่แทน
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    [​IMG]
    พนิช วีระ และพวก อีก 7 คน ถูกเขมรจับกุมตัว ขณะลงพื้นที่สำรวจ
    รายงานข่าวแจ้งว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนายวีระ สมความคิด พร้อมกับพวกรวมเป็น 7 คน ถูกเขมรจับบริเวณ ชายแดนฝั่ง จ.สระแก้ว ระหว่างลงพื้นที่ปราสาทพระวิหาร สำรวจพื้นที่ทับซ้อน โดยได้เข้าไปในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา
    โดยขณะนี้ ทางการไทยได้ประสานเจรจาให้ปล่อยตัวแล้ว ทั้งนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ทั้งหมดถูกเขมรจับตัวไปจริง เบื้องต้น ได้รายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เผยจีนผลิตขีปนาวุธ"จมเรือบรรทุกเครื่องบิน"ได้แล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    หนังสือพิมพ์"อาซาฮี ชิมบุน"ของญี่ปุ่น รายงานเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ว่า พลเรือเอกโรเบิร์ต วิลลาร์ด ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐประจำภูมิภาคแปซิฟิกเปิดเผยว่า จีนกำลังพัฒนาขีปนาวุธซึ่งมีศักยภาพสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินได้ และจะเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นมหาอำนาจทางทะเลของสหรัฐ โดยจรวดดังกล่าวมีชื่อว่า ดอง เฟ็ง 21D มีสมรรถภาพการโจมตีได้อย่างแม่นยำ และถูกสหรัฐมองว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในการขัดขวางเครื่องบินสหรัฐและเรือไม่ให้เข้าไปในบริเวณน่านฟ้าแถบจีนด้วย

    รายงานระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของจีนที่ต้องการจะผงาดเป็นมหาอำนาจทางทหาร สามารถปล่อยยิงจากบกไปสู่ท้องทะเลด้วยความแม่นยำอย่างสูง และสามารถรอดระบบป้องกันต่าง ๆ หรือแม้แต่ระบบป้องกันของเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่อยู่ภายในรัศมีมากกว่า 900 ไมล์ โดยจีนมีความต้องการจะขยายอิทธิพลทางทหารของตนในพื้นที่ทะเลเอเชีย รวมทั้งอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการเข้าแทรกแซงสถานการณ์จีนโจมตีไต้หวัน หรือวิกฤตนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี

    นอกจากนี้ ในปีหน้า จีน ยังมีแผนจะบรรลุการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของประเทศในปีหน้า ซึ่งเร็วกว่าที่สหรัฐคาดการณ์ไว้ด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หิมะป่วนสหรัฐลามข้ามพรมแดนถล่มแคนาดา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>พายุหิมะกำลังแรง ถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ จนใช้การไม่ได้เมื่อวันจันทร์ ต้องปิดสนามบินนิวยอร์ก และการขนส่งล่าช้า

    ขณะที่หิมะตกหนักเป็นอุปสรรคต่อแผนการท่องเที่ยวของนักเดินทางหลายคนในเทศกาลวันหยุด และขณะนี้พายุหิมะได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แคนาดาแล้ว พายุหิมะที่มีมาตั้งแต่เมื่อเช้าวันอาทิตย์เริ่มเบาบางลงในบ่ายวันจันทร์ ท้องฟ้าเริ่มสดใสขึ้นบ้างทำให้เห็นหิมะและน้ำแข็งปกคลุมทั่วพื้นที่ จนทางหลวงใช้การไม่ได้ รถยนต์ตกค้างจำนวนมากและบริการระบบขนส่งสาธารณะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เที่ยวบินมากกว่า 5,000 เที่ยวถูกยกเลิก ขณะที่ กระแสลมแรงความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถล่มหลายพื้นที่จากนอร์ท แคโรไลนา ถึงรัฐเมน

    อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติรายงานว่า พายุหิมะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ มุ่งสู่แคนาดา ทำให้เกิดหิมะและลมแรงเช่นเดียวกับทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ แม้พายุจะเคลื่อนตัวออกมาแล้ว แต่ระบบขนส่งในใจกลางนครนิวยอร์กยังคงเป็นอัมพาตในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดของ ทุกปี

    เจ้าหน้าที่ทางตะวันออกของแคนาดากล่าวว่า พายุทำให้หิมะตกหนักมาก ต้องยกเลิกเที่ยวบินระหว่างเฟรเดอริคตันและมองก์ตัน ขณะที่บ้านเรือนราว 40,000 หลัง ประสบปัญหาไฟดับ

    ด้านอัยการรัสเซีย สอบสวนสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทำให้ประชาชนหลายพันคนติดค้างอยู่ที่สนามบินที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งในกรุงมอสโกได้อย่างไร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิของผู้โดยสาร ขณะที่ ผู้โดยสารที่โกรธแค้นจัดการประท้วงความโกลาหลดังกล่าว ทั้งนี้ สภาพอากาศเยือกแข็ง และไฟฟ้าดับทำให้เที่ยวบินกว่า 200 เที่ยวล่าช้าที่สนามบินโดโมเดโดโว และเชเรเมตเยโว เมื่อ 3 วันที่แล้ว ผู้โดยสารประท้วงบริเวณพื้นที่จุดตรวจความปลอดภัย ส่วนผู้โดยสารรถไฟ เดินทางถึงภาคใต้ของฝรั่งเศสแล้ว หลังจากขบวนรถไฟ ดีเลย์ 24 ชั่วโมง.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    เขาหารู้ไม่ว่ากำลังก่อกรรมหนัก สงสารแท้ๆสัตว์ร่วมโลกด้วยกันก็รังแกกัน น่าสงสาร
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน30ธ.ค.-2ม.ค. อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก2-4องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่เสริม ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 30 ธ.ค.- 2 ม.ค. นี้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศา และบริเวณยอดดอยและยอดภูในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

    สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลม ในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้รักษาศีลคือผู้รักษาตน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    คำว่า "ศีล" ในที่นี้ ผู้เขียนหมายรวมไปถึงกรรมบถ ๑๐ ด้วย เพราะในกรรมบถ ๑๐ นั้น มีทั้งศีลและธรรมรวมกัน นี่ว่าเฉพาะที่รู้ๆ แล้ว ไม่ว่าศีล ๕ ศีล ๘ หรืออุโบสถศีล ท่านก็เรียกว่า "ธรรม" เหมือนกันหมด

    เหตุใดผู้รักษาศีลจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้รักตน ?

    ประเด็นนี้ เป็นจุดที่น่าให้ความสนใจมาก เพราะถ้าใครเข้าใจประเด็นนี้ได้อย่างถูกต้องแล้ว เขาจะสนใจศีลและหมั่นรักษาศีลไปตามลำดับขั้น ตั้งแต่ศีล ๕ อุโบสถศีล จนถึงกรรมบท ๑๐ ซึ่งมีครบทั้งกายวาจาและใจเลย เรามาดูกันง่ายๆ ไม่ต้องไปใช้วิชาคำนวณคำเนินอะไรให้มันเมื่อยมือ หรือเมื่อยสมองหรอก เอากันที่ศีล ๕ ก่อน

    การไม่ฆ่าคน เป็นเหตุให้เราไม่มีเวร ไม่ต้องคอยหลบซ่อนตัว กลัวเขาจะมาฆ่าตอบ หรือญาติมิตรของผู้ถูกฆ่าจะมาฆ่าตอบ จะไปไหน ? จะกินจะนอนมันก็สบายไม่ต้องคอยหวาดระแวงภัย

    การไม่ลักขโมยของคนอื่น ก็เป็นเหตุให้ไม่ต้องมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงศาล หรือถูกใส่ความเพราะความเป็นคนหัวขโมย ไม่ต้องถูกจับใส่คุกเพราะเหตุอทินนาทาน

    การไม่เป็นคนเจ้าชู้ประตูดิน ไม่เป็นคนเที่ยวสำส่อนไม่ว่าผัวเขาหรือเมียใครไชไม่เลือก ก็จะไม่ต้องคอยระวังว่าผัวหรือเมียเขาจะมาฆ่าแกง เพราะเหตุว่าไปแย่งหรือล่วงเกินของรักของหวงของเขา อันเป็นเหตุให้ไม่มีเรื่อง "ศึกในมุ้ง" ให้ขายหน้าไปทั่วแผ่นดิน และครอบครัวก็ไม่ปกติสุขถึงต้องฆ่ากันตายด้วย

    การไม่พูดปด ก็จะไม่เป็นเหตุให้ต้องถูกใส่ความหรือถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทำให้คำพูดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ น่าเคารพ เป็นที่ไว้วางใจของคนทั่วไปในเรื่องคำพูด

    การไม่ดื่มน้ำนรก นอกจากจะไม่เป็นต้นเหตุให้ก่อกรรมทำชั่วต่างๆ ได้มากมายแล้ว ยังไม่เป็นเหตุให้บั่นทอนกำลังกาย และกำลังสติปัญญาของตนอีกด้วย แถมยังจะปลอดโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมาจากการเป็นคนขี้เหล้าได้อีกมากมายด้วย

    ท่านยังพอจะมองเห็นหรือยังว่า ศีลแต่ละข้อนั้นนอกจากจะไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน อันเป็นทางไหลมาของเวรกรรมต่างๆ แล้ว ตัวเราเองก็จะมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข ปิดภัยและเวรต่างๆ เสียได้อย่างสิ้นเชิง ที่จะแสดงออกมาทางกายและวาจา ด้วยเหตุดังกล่าวมา ผู้ที่รักษาศีลจึงได้ชื่อว่ารักตน

    นี่เป็นอานิสงส์ของศีล ๕ เรามาดูอานิสงส์ของศีล ๘ หรืออุโบสถศีลกันสักหน่อยเป็นไร ?

    ความจริงศีล ๘ นี้ สำหรับชาวบ้านก็ไม่มีความจำเป็นอะไรมากนักที่จะต้องรักษา โดยเฉพาะคนที่ยังอยู่ใน "วัยงาน" คือ ยังต้องประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัวอยู่ โดยเฉพาะก็คนที่ยังไม่หมดในเรื่องของเพศหรือกามคุณ ถ้าผัวหรือเมียยังหนุ่มหรือสาวอยู่ ใครขืนรักษาศีล ๘ เป็นประจำ ถ้าเมียหรือผัวไม่มีชู้ และยังอยู่ด้วยกันได้ ก็ต้องจัดว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ยกเว้นแต่ท่านผู้นั้นจะสำเร็จธรรมขั้นสูง คือ เป็นพระอนาคามีบุคคลไปแล้วเท่านั้น

    แต่สำหรับคน "วัยงอม" คือ วัยที่ปลดระวางแล้ว ก็สมควรที่จะรักษาศีล ๘ ได้แล้ว เพราะจะเป็นเหตุให้อายุยืนยาว ถ้างดเว้นเรื่องการกินให้น้อยลง หรือกินให้ถูกต้องตามวัย และงดเว้นกามกิจเสียได้ แต่ว่าศีลอุโบสถนี้ มีความสำคัญและจำเป็นแก่ทุกคนในแง่ของการพัฒนาชีวิต ถ้ามีโอกาสจะรักษาได้แม้นานๆ ครั้งก็ยังดี เพราะอุโบสถศีลเป็น "วัตร" ชนิดหนึ่งที่ช่วยฝึกหัดขัดเกลานิสัยส่วนเกินได้อย่างดี เมื่อเราได้รักษาศีล ๕ แล้ว ลองรักษาอุโบสถศีลแล้ว ก็น่าจะชิมลองรักษา "กรรมบถ ๑๐" ดูบ้าง ว่ามันจะมี รสชาติเป็นอย่างไร ? มันจะยากง่ายแค่ไหน ?

    ที่ผู้เขียนให้ความสนใจแก่กรรมบถ ก็เพราะในกรรมบถนั้นมีกระบวนการ "พัฒนาชีวิตครบวงจร" กล่าวคือ มีการพัฒนากาย วาจาและใจไปพร้อมกัน ไม่ต้องไปแยกทำทีละหนคนละคราว

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ผู้อ่านบางท่านคงเห็นแล้วว่าการล่วงละเมิดศีลนั้น มิได้จะทำให้คนอื่นหรือสัตว์อื่นเดือดร้อนเท่านั้น แต่ตัวเองนั่นแหละเดือดร้อนก่อน เมื่อตัวเองสร้างเหตุด้วยการนำเวรภัยมาสู่ตนเอง หรือหาสิ่งมึนเมามาประทุษร้ายสติสัมปชัญญะของตนเองให้เกิดความเดือดร้อนเช่นนี้แล้ว คนที่ล่วงศีลจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รักตนเองได้อย่างไรกัน ? เพราะโดยปกติคนทั่วไป มักทำอะไรๆ ก็เพื่อจะให้ตัวเราสบายและสนุก ไม่เคยคิดถึงหัวอกของคนอื่นว่าเขาจะระทมขมขื่น หรือปวดร้าวหัวใจสักเพียงไหน ? ถ้าไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็รู้ได้ยาก

    นี่ว่าเฉพาะเหตุผลในปัจจุบัน ยังไม่ได้ว่าถึงผลแห่งกรรมที่ข้ามภพชาติ ที่เราจะต้องไปเสวยอีกนับไม่ถ้วนและยาวนาน ซึ่งมีอยู่แน่ๆ แต่เราไม่รู้ เพราะเราไม่มีญาณพิเศษอย่างพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุดังกล่าวมา การรักษาศีลนอกจากจะไม่เป็นการประทุษร้ายตนเองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแล้ว ยังจะได้ชื่อว่าเป็นผู้รักตนเองและรักผู้อื่น (คือไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพราะตน) อีกด้วย

    ดังนั้น ผู้รักตนจึงควรรักษาศีล ๕ อุโบสถศีล กรรมบถ ๑๐ ตลอดจนการเจริญธรรมต่างๆ มีสติ สมาธิ และวิปัสสนา เป็นต้น อยู่เป็นประจำเถิด แล้วท่านจะพบกับความประเสริฐทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย



    ที่มา
    http://www.dhammajak.net/
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความขัดแย้งของสองมหาอำนาจ"จีนกับสหรัฐ"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สหรัฐอเมริกาเผยจีนสร้างขีปนาวุธทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>10 ข่าวใหญ่แห่งปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>1.ปราบม็อบเสื้อแดง

    ข่าวแห่งปี 2553 ไม่มีข่าวใดใหญ่ไปกว่าข่าวการชุมนุมของคนเสื้อแดง แล้วถูกเจ้าหน้าที่เข้าสลายจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีก 2 พันกว่าคน

    ขนาดไทม์ นิตยสารยักษ์ใหญ่ระดับโลก ยังยกเป็น 1 ใน 10 ข่าวแห่งปี

    การชุมนุมของคนเสื้อแดง ในนามกลุ่มนปช. เริ่มขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค. มวลชนจากทั่วประเทศมาชุมนุมใหญ่ที่สะพานผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนิน ด้วยเงื่อนไขขับไล่อำมาตย์ และให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ กลายเป็นม็อบใหญ่กดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างทรงพลัง

    คนเสื้อแดงเพิ่มมาตรการกดดันด้วยการแยกม็อบ ไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ ตั้ง 2 เวทีพร้อมๆ กัน รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินวันที่ 10 เม.ย. ศอฉ.ปฏิบัติการ 'ขอพื้นที่คืน' บริเวณถ.ราชดำเนิน เกิดปะทะกันที่แยกคอกวัว ผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้ง นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ขณะที่ฝ่ายศอฉ.สูญเสียนายทหารระดับพ.อ. และกำลังพลจำนวนหนึ่ง แต่ก่อนสถานการณ์จะเลวร้ายหนักทั้ง 2 ฝ่ายยอมเจรจายุติการเผชิญหน้า

    ผ่านเหตุการณ์ 10 เม.ย. รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงทั้งในและนอกประเทศ คนเสื้อแดงเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน โดยสลายม็อบที่ราชดำเนินไปรวมเป็นหนึ่งเดียวที่ราชประสงค์ ระหว่างนั้นฝ่ายรัฐบาลและแกนนำนปช.เจรจากันเป็นระยะๆ มีแนวโน้มในทางที่ดี แต่แล้ววันที่ 19 พ.ค. ศอฉ.ก็ส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ 'กระชับพื้นที่' ราชประสงค์ ใช้อาวุธหนัก ทั้งรถหุ้มเกราะ อาวุธสงคราม และสไนเปอร์ มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมกับเหตุการณ์ 10 เม.ย.แล้วมากถึงกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน รวมทั้งนายฟาบิโอ โปเลงกี นักข่าวชาวอิตาลี และอาสาพยาบาล หน่วยกู้ชีพอีก 6 ศพในเขตอภัยทาน วัดปทุมวนาราม สุดท้ายเพื่อไม่ให้มวลชนต้องสูญเสียไปมากกว่านี้ แกนนำยอมยุติการชุมนุมเข้ามอบตัว แต่ถูกดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย ถูกจับเข้าเรือนจำจนถึงทุกวันนี้ และยังมีผู้ชุมนุม ผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมากในหลายจังหวัดถูกจับกุม ไล่ล่า เล่นงาน เป็นประเด็นปัญหารุนแรงยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน

    การปราบคนเสื้อแดงกลายเป็นตราบาปของนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดยากที่จะลบเลือนได้


    2.คดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ

    ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียกลับมาเป็นประเด็นใหญ่อีกครั้ง เมื่อต้นเดือนม.ค. 2553 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สั่งฟ้องพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 และพวกรวม 5 คน คดีร่วมกันฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ ที่หายตัวไปนานเกือบ 20 ปี ก่อนคดีหมดอายุความเพียง 1 เดือน แม้พล.ต.ท.สมคิดจะตกเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ก.ตร.กลับแต่งตั้งพล.ต.ท.สมคิด ขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล จนทางการซาอุฯ แสดงความไม่พอใจ นายนาบิล เอช อัชรี อุปทูตประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ รวมทั้งเข้าพบนายกฯ รองนายกฯ ผบ.ตร. และกมธ.ในสภา แต่ไม่มีความคืบหน้าและจริงใจจากรัฐบาลไทย กระทั่งทางการซาอุฯ ขู่ไม่ออกวีซ่าให้ชาวไทยมุสลิมไปแสวงบุญที่เมกกะ รัฐบาลไทยถึงรีบกระตือรือร้น

    สุดท้ายทางออกคือให้พล.ต.ท.สมคิดแถลงไม่ขอรับตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร. สถานการณ์ต่างๆ จึงดีขึ้น ซาอุฯ ยอมออกวีซ่าให้คนไทย


    3.แต่งตั้งผบ.ตร.

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะประธานก.ต.ช. ไม่สามารถแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ได้ หลังจากเล่นงานจน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่ง เมื่อเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ต่อที่ประชุม ก.ต.ช.ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เนื่อง จาก ก.ต.ช. ส่วนใหญ่ต้องการให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร. ที่เหมาะสมกว่าทั้งความรู้ ความสามารถ ความยอมรับในองค์กร และยังมีสัญญาณพิเศษ ให้ขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่

    นายอภิสิทธิ์เหมือนถูกหักหน้า จึงใช้วิธีแต่งตั้งพล.ต.อ.ปทีปเป็นรักษาการผบ.ตร. โดยไม่สนเสียงส่วนใหญ่ของ ก.ต.ช. และสัญญาณพิเศษ ปล่อยองค์กรสำคัญอย่างตำรวจไร้หัวนานเกือบปี เกิดปัญหาการบริหารงานต่างๆมากมาย วันที่ 9 ส.ค.นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจประชุมก.ต.ช.แต่งตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ขึ้นเป็นผบ.ตร.คนใหม่ โดยไม่รอให้พล.ต.อ.ปทีป นั่งรักษาราชการผบ.ตร.ไปจนถึงเกษียณอายุในเดือนก.ย. เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมม

    องค์กรตำรวจมีผู้นำตัวจริงมาขับเคลื่อนอย่างถูกทิศถูกทางอีกครั้ง


    4.ฟุตบอลโลก

    มหกรรมกีฬาที่มีชาวติดตามมากที่สุดฟุตบอลโลก ระเบิดแข้งครั้งที่ 19 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.ถึง 11 ก.ค. ถือเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกจัดขึ้นในดินแดนกาฬทวีป มี 32 ชาติตัวแทนทวีปต่างๆ เข้าร่วม

    เวิลด์คัพ แอฟริกาใต้ มีตัวเก็งหลายทีม อาทิ บราซิล ดีกรีแชมป์ 5 สมัย, อาร์เจนตินา อดีตแชมป์ 2 สมัย, อิตาลี แชมป์เก่าและแชมป์ 4 สมัย, เยอรมัน แชมป์ 3 สมัย, อังกฤษ ทีมขวัญใจคนดู แชมป์ 1 สมัย และสเปน แชมป์ยุโรปล่าสุด

    ทั้ง 32 ทีมโม่แข้งกันจนได้คู่ชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมกระทิงดุ สเปน กับทีมจากแดนกังหัน ฮอลแลนด์ 2 ทีมตัวแทนทวีปยุโรป การแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกตลอดเกม ก่อนอันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจากบาร์เซโลน่า จะยิงประตูชัย นาที 116 ของช่วงต่อเวลาพิเศษ พาสเปนครองแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่แอฟริกาใต้ก็ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพ


    5.แอนนี่กับฟิล์ม

    เกิดข่าวใหญ่เรียกเสียงฮือฮาจากคนทั้งประเทศรับเดือนก.ย. เมื่อ แอนนี่ บรู๊ค นักแสดงสาวลูกครึ่งไทย-สวิส อุ้มลูกชายหน้าตาน่ารัก วัย 3 เดือน ออกมาประกาศว่าเป็นลูกของ 'ฟิล์ม'รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ซูเปอร์สตาร์วงการบันเทิง ค่ายอาร์เอส โดยอ้างความสัมพันธ์เกิดขึ้นระหว่างเล่นละครเรื่อง 'ปีศาจแสนกล' ด้วยกัน ซึ่งซูเปอร์สตาร์หนุ่มและครอบครัวรับรู้ ยอมรับเด็กทารกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เพราะมาเยี่ยมหลังคลอด และส่งเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูจำนวนหนึ่ง

    ขณะที่ฝ่ายซูเปอร์สตาร์หนุ่มออกแถลงยอมรับความสัมพันธ์ แต่ต้องการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก โดยมี 'เฮียฮ้อ'สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารอาร์เอส และคนในวงการที่ใกล้ชิดออกโรงสนับสนุน พร้อมกับตั้งคำถามและประเด็นย้อนกลับไปยังฝ่ายหญิง ขณะที่ แอนนี่ บรู๊ค ยืนยันไม่ตรวจ เพราะไม่ได้ต้องการให้ฟิล์มรับหรือไม่รับเป็นพ่อของลูกอยู่แล้ว ขอเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เรียกความสงสารและเห็นใจจากสังคมได้อย่างล้นหลาม ถึงขนาดรัฐมนตรีและองค์กรผู้หญิงต้องเข้ามาช่วยเหลือปกป้อง ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ และทางกฎหมาย โดยฟ้องร้องบุคคลที่หมิ่นประมาทให้เสียหาย

    ขณะที่ฟิล์มต้องเก็บตัวเงียบหลังถูกกระแสสังคมเล่นงาน กระทั่งตัดสินใจบวชพระเพื่อชำระจิตใจ เริ่มต้นชีวิตใหม่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>6.น้ำท่วมใหญ่

    ประเทศไทยเกิดน้ำท่วมใหญ่หนักที่สุดในรอบหลายสิบปี เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน วันที่ 10 ต.ค.น้ำไหลบ่าทะลักเข้าท่วมนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นน้ำท่วมก็ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆเกือบทั่วประเทศ นอกจากน้ำท่วมจะมี ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังท่วมขังยาวนาน อุทกภัยครั้งนี้หลายจังหวัดรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ถึง 100 ปี สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างประเมินค่าไม่ได้ รัฐบาลโดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถูก วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง เนื่องจากช่วยเหลือประชาชนล่าช้า และไม่เป็นผู้นำการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง สู้ภาคเอกชนที่เข้าถึงพื้นที่ได้รวดเร็วและทำงานเป็นระบบกว่าไม่ได้

    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์มีพื้นที่ประสบภัย รวม 51 จังหวัด 550 อำเภอ 3,894 ตำบล 31,870 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,526,346 ครัวเรือน 8,667,192 คน มีผู้เสียชีวิต 233 ราย


    7.สุสานทารกทำแท้ง

    ประเทศไทยกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบซากทารกจากการทำแท้งในช่องเก็บศพวัดไผ่เงินโชตนาราม ย่านบางคอแหลม กทม. หลายร้อยศพ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ต่อมาขยายผลพบเพิ่มเติมอีกรวมแล้วมากถึง 2,002 ศพ ตำรวจจับกุม นายสุเทพ ชะบางบอน นายสุชิน ภูมี สัปเหร่อและผู้ช่วย สอบสวนรับสารภาพว่า ซากทารกทั้งหมดรับมาจากคลินิกทำแท้งเถื่อนเพื่อเตรียมเผาทำลาย จากนั้นตำรวจติดตามจับกุม น.ส.ลัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี ที่คลินิกทำแท้งเถื่อนย่านหนองแขม สอบสวนรับสารภาพว่ารับทำ แท้งเถื่อน ราคา 5 พันถึง 3 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังเป็นคนไปรับซากทารกตามคลินิกทำแท้งต่างๆ ย่านรังสิต มีนบุรี และ ฝั่งธนบุรี ทำมาแล้ว 5-6 ปี โดยนำไปส่งสัปเหร่อวัดไผ่เงิน ได้รับค่าจ้าง 500 บาท แบ่งให้สัปเหร่อ 100 บาท น.ส. สัญฉกรยังอ้างด้วยว่า มีดาราสาวชื่อดัง 2-3 คนเคยทำแท้ง กระทั่งดาราสาวที่ถูกพาดพิงต้องออกมาชี้แจงตอบโต้กลายเป็นข่าวครึก โครม

    กรณีพบสุสานซากทารก 2,002 ศพในวัดครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจแก่สังคมไทยอย่างมาก เพราะได้ชื่อเป็นเมืองพุทธ กลายเป็นกรณีปัญหาที่ทุกวงการตื่นตัวขยับขับเคลื่อนเพื่อหาทางแก้ไขและป้องกัน โดยเฉพาะเรื่องการทำแท้ง การจัดระเบียบวัดและสัปเหร่อ


    8.วิกเตอร์ บูท

    วิกเตอร์ บูท นักธุรกิจชาวรัสเซีย ถูกตำรวจไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา บุกจับกุมที่ห้องอาหารหรู ชั้น 27 โรงแรมใหญ่ย่านสีลม เมื่อเย็นวันที่ 6 มี.ค. 2551 ข้อหาก่อการร้าย ตามหมายจับศาลอาญา ขณะที่อัยการสหรัฐยื่นฟ้องต่อศาลนิวยอร์ก ภายหลังบูทถูกจับ ระบุว่า บูทเป็นพ่อค้าอาวุธข้ามชาติรายใหญ่ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ส่งตัวบูทกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐ

    ทางการสหรัฐประสานทางการไทยให้ส่งตัวบูทเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตัดสินใจเนื่องจากเกรงเกิดปัญหากับรัสเซีย ซึ่งยืนยันความบริสุทธิ์ของพลเมืองรายนี้มาตลอด กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ผู้มีนโยบายไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ หลังปราบม็อบเสื้อแดงเดือนพ.ค. ก็มีข่าว นายศิริโชค โสภา เลขานุการส่วนตัวนายกฯ เจ้าของฉายาวอลเปเปอร์ เข้าไปพบบูทในเรือนจำด้วยวิธีพิเศษ มีการพูดคุยเพื่อให้เชื่อมโยงไปถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต นายศิริโชคทำได้เพียงชี้แจงแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ขณะเดียวกันสหรัฐส่งเครื่องบินมาจอดรอรับตัวบูทที่บน. 6 สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายรัสเซียอย่างมาก ท่ามกลางการจับตาของชาวไทยและชาวโลก ครม.อนุมัติส่งตัวบูทเป็นผู้ย้ายข้ามแดนไปสหรัฐ วันที่ 16 พ.ย.ตำรวจคอมมานโดคุมตัวไปขึ้นเครื่องบินของสหรัฐเดินทางสู่นิวยอร์ก

    กรณีบูทไม่จบลงแค่นั้น เมื่อวิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉชื่อดัง เปิดข้อมูลลับระบุเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยล็อบบี้นายอภิสิทธิ์ส่งตัวบูทไปสหรัฐ ถึงกับเสนอไปยังประธานาธิบดีโอบามาให้โทรศัพท์กดดันผู้นำไทยโดยตรง เป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก


    9.คลิปการเมือง

    ขณะที่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในช่วงไคลแม็กซ์ ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อมีผู้นำคลิปโพสต์ในยูทูบ เป็นภาพ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการส่วนตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญ พบปะพูดคุยกับ นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทีมกฎหมายสู้คดียุบพรรค ที่ร้านอาหารย่านประชาชื่น เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เนื้อหาการสนทนาเกี่ยวข้องกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นมีคลิป ตอนที่ 2 ที่ 3 ทยอยตามออกมา เป็นภาพที่อ้างว่าเป็นการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเข้าไปวางแผนสั่งการบางอย่าง คลิปดังกล่าวเหล่านี้ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นจำเลยสังคมในทันที ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้เพียงเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องถูกหลอกและใส่ร้าย หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

    ต่อมานายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ปลดนายพสิษฐ์ หรือปอย ออกจากตำแหน่ง แต่นายชัชกับตุลาการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคลิปยังยืนยันทำหน้าที่ต่อไป ส่วนนายพิสิษฐ์มีข้อมูลว่าเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.

    ก่อนวันตัดสินคดี วันที่ 27 พ.ย.นายพสิษฐ์ปรากฏตัวในคลิปของยูทูบ หวังว่าจะไม่ใช้คำว่า รอการกำหนดโทษ

    ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษา นายพสิษฐ์ออกคลิป ตอกย้ำศาลรัฐธรรมนูญสั่งยกฟ้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามความคาดหมาย


    10.ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์

    ข่าวใหญ่ส่งท้ายปี คือ ข่าวพรรคประชาธิปัตย์รอดถูกยุบพรรค 2 คดีซ้อนในรอบ 10 วัน

    วันที่ 29 พ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 4 ต่อ 2 ยกคำร้อง กรณีกกต. ยื่นร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนำเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 29 ล้านบาท ไปใช้จ่ายไม่ถูกต้อง ตุลาการเสียงข้างมากเห็นว่าคำร้องไม่มีความเห็นของประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และยื่นคำร้องเลยกำหนดเวลา 15 วัน ตุลาการเสียงข้างมาก ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายนุรักษ์ มาประณีต นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ส่วนเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายชัช ชลวร และ นายบุญส่ง กุลบุปผา

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นทำไมศาลไม่ยกคำร้องตั้งแต่ต้น หากเห็นว่าไม่มีความเห็นของนายทะเบียน และยื่นเลยกำหนดระยะเวลา แต่กลับให้สืบพยานมานานนับปี

    ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้พิสูจน์ความถูก ผิด แต่รอดไปได้ด้วยวิธีทางเทคนิค

    วันที่ 9 ธ.ค.ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน ผ่านบริษัท เมซไซอะ เข้าข่ายกระทำผิดตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

    ศาลมีมติยกคำร้อง ด้วยเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีความเห็นจากนายทะเบียน ตุลาการเสียงข้างมาก ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายนุรักษ์ มาประณีต และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ส่วนเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายชัช ชลวร นายบุญส่ง กุลบุปผา และ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี

    พรรคประชาธิปัตย์รอดถูกยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน โดยไม่ได้พิสูจน์ความถูก-ผิด เช่นเดียวกับคดี 29 ล้าน

    ขณะที่สังคมไม่ได้ตื่นเต้น หรือคาดหวังใดๆ เพราะคำตัดสินคดีแรกก็รู้ว่าคดีที่สองจะจบลงอย่างไร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ทั่วไทยอากาศยังหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ แม่คะนิ้งดอยอินทนนท์-อ่างขาง เกิดต่อเนื่องติดกันยาวนานแล้ว 5 วัน
    29ธ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า อากาศที่จังหวัดเชียงใหม่และหลายพื้นที่ในภาคเหนือยังคงหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่า ยังคงมีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
    ทั้งนี้ อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้ วัดได้ 3 องศาเซลเซียสที่ สถานที่เกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จนเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า โดยตั้งแต่วันที่30 ธ.ค.53 จนถึงวันที่ 2 ม.ค. 2554 จะมีมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกระลอก ทำให้อากาศยังคงหนาวเย็นขึ้นอีกและอุณหภูมิจะลดลงอีก1-3 องศาเซลเซียส
    ขณะเดียวกัน นายสมชาย เขียวแดง ผู้อำนวยการโครงการเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่า อุณหภูมิบนยอดหญ้าที่ดอยอ่างขางช่วงเช้าของวันที่ 29 ธันวาคม ติดลบ 0.5 องศาเซลเซียส จนเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า หรือ แม่คะนิ้ง โดยเกิดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดแม่คะนิ้งติดกันยาวนานเป็นเวลา 1 สัปดาห์เมื่อปี 2542 คาดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อาจมีโอกาสเกิดแม่คะนิ้งขึ้นอีก เนื่องจากอุณหภูมิยัง คงลดลง ส่งผลให้ยอดจองบ้านพักในช่วงเทศกาลเต็มไปจนถึงหลังปีใหม่
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    [​IMG]
    ชาวบ้านในจังหวัดชลบุรี แห่กราบไหว้ต้นสนใหญ่ ลักษณะคล้ายพระพุทธรูป
    รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. บริเวณลานดินหมู่ที่ 3 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ดินของ นายอานนท์ และนางทรัพย์ ห้วยใหญ่ ที่ให้ นายทองหนาย กับนางยุพิน แดงน้อย 2 สามีภรรยา ปลูกบ้านพักอาศัย ได้มีชาวบ้าน ตำบลห้วยใหญ่ และตำบลใกล้เคียง แห่กันมาชมต้นสนใหญ่รูปร่างเหมือนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ยืนต้นเด่นสง่า
    ทั้งนี้ มีการจุดธูปไหว้เพื่อขอพรจากพระศาสดา ตั้งแต่ช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกจนถึงรุ่งเช้า บางครอบครัวพากันมาปูเสื่อนอนเฝ้าดู ความสง่างามขององค์พระพุทธรูป เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเป็นนิมิตที่ดีของผู้พบเห็น
    ขณะที่ นายทองหนาย กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนได้ออกมานอกบ้าน เพื่อจุดธูปเทียนบอกกล่าวเจ้าที่ที่เข้ามาปลูกบ้านพักอาศัย โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ ปรากฏว่า ในป่ารกร้างด้านข้างกำแพงที่ดินได้เห็นเป็นรูปพระพุทธรูปขนาดใหญ่ยืนเด่นสง่า เป็นเงามืดจึงได้เรียกให้ภรรยามาดู ต่อมาชาวบ้านที่ทราบข่าวได้พากันมาดูอย่างเนืองแน่น โดยการดูต้องดูในเวลากลางคืน เพราะกลางวันก็จะเห็นเป็นต้นสนธรรมดา จะเห็นเป็นรูปชัดเจนเวลากลางคืนเท่านั้น
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จะทำน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดเพื่อใช้ดื่มกินได้หรือไม่ ?

    [​IMG]

    ปัจจุบันมีผู้ที่คิดค้นวิธีการแปลงน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดได้แล้ว โดยใช้กรรมวิธี “กลั่น” เพื่อไล่ความเค็มและแร่ธาตุต่างๆที่ปะปนอยู่ในน้ำทะเลออกไป จนมีคุณภาพเทียบเคียงกับน้ำจืดที่เราไว้ใช้บริโภคได้

    โดยวิธีการที่ใช้นั้นก็นำมาจากวิธีการทางธรรมชาติ ที่แสงแดดแผดเผาน้ำทะเลจนกลายเป็นไอลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็จะเกิดการกลั่นตัวกลายเป็นเม็ดฝนตกลงมานั่นเอง แต่อันที่จริงแล้วมนุษย์เรียนรู้วิธีการทำน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดก่อน คริสต์ศักราชนาน ๔๐๐ ปีแล้ว โดย อริสโตเติล (Aristotle) ปราชญ์ชาวกรีกค้นพบว่า เมื่อนำน้ำทะเลมาต้ม ส่วนที่เป็นน้ำจะระเหยกลายเป็นไอน้ำโดยทิ้งส่วนที่เป็นเกลือเอาไว้

    จากนั้นหากนำไอน้ำที่ได้จากการต้มมากลั่นอีกครั้งก็จะได้เป็นน้ำจืด ซึ่งกรรมวิธีที่มีผู้คิดค้นเครื่องเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล ให้กลายเป็นน้ำจืดสำหรับบริโภคก็อาศัยหลักการของ อริสโตเติล นั่นเอง ซึ่งมีทั้งกรรมวิธีง่ายๆไปจนถึงที่ ยุ่งยากสักหน่อย แต่มีประสิทธิภาพสูงและรวดเร็วกว่าโดยแบบแรกนั้น ใช้วิธีนำน้ำทะเลเข้ามาเก็บกักไว้ในสระ แล้วครอบด้วยหลังคาที่ทำด้วยกระจกแล้วปล่อยให้แดดเผาน้ำทะเลที่กักไว้ให้เป็นไอน้ำลอยขึ้นไปเกาะบนแผ่นผืนกระจก เมื่อไอน้ำขึ้นไปเกาะอยู่บนกระจกแล้ว ก็จะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำและเมื่อจำนวนหยดมี มากขึ้น ก็จะมีน้ำหนักมากแล้วไหลลงไปตามผืนกระจกมาที่รางน้ำเบื้องล่าง ไหลต่อไปยังภาชนะเก็บ กลายเป็นน้ำจืดบริสุทธิ์สามารถนำมาใช้ดื่มได้ แต่วิธีกลั่นน้ำทะเลด้วยวิธีนี้ต้องใช้เนื้อที่มาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้น้ำจืดเพียงไม่กี่ลิตรต่อวันเท่านั้น

    สำหรับวิธีที่จะทำให้สามารถกลั่นน้ำทะเล เป็นน้ำจืดได้จำนวนมากและใช้เวลาน้อยกว่านั้น เป็นเครื่องต้มกลั่นน้ำทะเลที่มีผู้คิดสร้างขึ้นมาใช้สำหรับในภูมิภาคที่แห้งแล้งและขาดแคลนน้ำอย่างมาก นิยมนำไปใช้ในระบบผลิตน้ำของตนให้เพียงพอต่อการบริโภค เครื่องต้มน้ำกลั่นทะเลนี้จะมีลักษณะเป็นหม้อต้มกลั่นขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำน้ำทะเลเข้าไปเก็บกักในหม้อต้มแล้วผ่านกระบวนการกลั่นโดยอาศัยความร้อนสูง ให้น้ำทะเลกลายเป็นไอน้ำด้วย วิธีการอีกมากกว่า ๑๐ ขั้นตอน ก่อนที่ไอน้ำจะถูกกลั่นกลายเป็นน้ำจืดที่มีความบริสุทธิ์สามารถนำมาดื่มหรือใช้ในกิจกรรมอื่นๆอย่างเช่นน้ำประปา

    วิธีต้มกลั่นน้ำทะเลด้วยเครื่องต้มกลั่นนี้ ถึงแม้จะต้องลงทุนในการสร้างเครื่องต้มกลั่นที่ค่อนข้างสูงแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่ามาก เนื่องจากเครื่องต้มกลั่น แบบนี้สามารถให้ผลผลิตน้ำจืดจำนวนมากพอแก่การบริโภค ปัจจุบันประเทศที่ลงทุนสร้างเครื่องกลั่นชนิดนี้ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประเทศบาห์เรน ตะวันออกกลาง ซึ่งสามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้เป็นจำนวนมากถึง ๕๔ ล้านลิตรต่อเครื่องต่อวันเลยทีเดียว ?

    ที่มา http://shhexinyuan.com/?p=343

    พิษสึนามิทำเกาะขาดแคลนน้ำจืด-ดินเค็ม

    [​IMG]

    นักวิจัยม.เกษตรฯ เผยควันหลงสึนามิก่อปัญหาดินเค็ม และทำบ่อน้ำผิวดินมีรสเค็มจัด จนไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ระบุอาจต้องใช้เวลานับปีฟื้นฟูสภาพพื้นดินและแหล่งน้ำ

    ตอนนี้ทำได้เพียงรอน้ำฝนมาชะล้างน้ำเค็มและเกลือที่เกาะติดอยู่ที่ชั้นดิน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำนานาชาติย้ำชัดภัยน้ำเค็มทะลักท่วมเกาะหลังวิกฤติคลื่นสึนามิถล่ม ส่งผลชาวเกาะขาดแคลนน้ำดื่มต้องพึ่งพาแหล่งน้ำแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก เชื่ออาจใช้เวลานานนับทศวรรษกว่าจะฟื้นสภาพกลับมาเป็นดังเดิม ​

    นายสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ หัวหน้าสถานีวิจัยทรัพยากรชายฝั่งระนอง สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิด้วย กล่าวถึงผลกระทบที่ตามมาจากคลื่นยักษ์ถล่มว่า นอกจากความเสียหายทางด้านสิ่งปลูกสร้างตลอดแนวอันดามันแล้ว ในแง่ทรัพยากรเองก็กำลังประเมินกันอยู่ว่าได้รับผลกระทบอย่างไร ​

    "จากการสำรวจพื้นที่เสียหาย พบว่า น้ำทะเลที่ท่วม ส่งผลกระทบมากต่อบ่อน้ำผิวดิน ซึ่งชาวบ้านนิยมขุดขึ้นมาใช้เองที่ระดับความลึกประมาณ 5-6 เมตร ขณะที่น้ำบาดาลไม่มีปัญหาน้ำเค็มแทรกซึม เนื่องจากลึก 30-70 เมตร โดยความเร็วในการแทรกซึมของน้ำเค็มเข้าสู่ชั้นดินนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เป็นหลัก หากเป็นบริเวณดินเหนียว ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำสูง ก็จะไม่เร็วนัก แต่ถ้าเป็นดินทราย พอแห้งก็จะโปร่ง ทำให้น้ำเค็มไหลเข้าไปได้รวดเร็ว และเกลือก็จะฝังลงไปในชั้นดิน ดังนั้น ถ้าไม่มีน้ำจืดมาไล่ลงไป น้ำใต้ดินก็จะเริ่มเค็มมากขึ้น" นายสมโภชน์ กล่าว​

    สำหรับวิธีแก้ไขนั้น นายสมโภชน์ บอกว่า ต้องรอให้น้ำฝนตกลงมาไล่น้ำเค็มลงไป หรืออาจใช้วิธีปั๊มน้ำออกจากชั้นดินให้มากที่สุด ซึ่งทางทีมวิจัยเองก็ยังไม่แน่ใจว่าการแบ่งชั้นของน้ำในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร และขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะแล้ง น้ำใต้ดินลดลงประมาณ 2-3 เมตร พอน้ำทะเลท่วม น้ำเค็มจึงเข้าไปแทนที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อฝนไม่ตกก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เร็วเพียงใด อาจต้องใช้เวลานานนับปีก็เป็นได้​

    นอกจากนี้ ปัญหาน้ำเค็มยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะพืชในพื้นที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งอาจไม่สามารถทนความเค็มได้ เชื่อว่าภายใน 1 เดือน จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของพืชได้อย่างชัดเจน ขณะที่ปัญหาเกลือสะสมในชั้นดินจนทำให้ดินเค็ม ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีก ซึ่งหากคิดจะปลูกพืชฟื้นฟูก็จะปลูกได้เฉพาะพืชทนดินเค็มเท่านั้น​

    ขณะเดียวกันวารสารออนไลน์นิวไซอันทิสต์ ได้รายงานว่า เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรอินเดีย อาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นการถาวร เนื่องจากปัญหาน้ำเค็มไหลท่วมเกาะจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภูมิภาคเอเชียเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา​

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำเชื่อว่าในระยะยาว น้ำเค็มจะรุกล้ำเข้าไปทำลายผืนดินของเกาะ และซึมเข้าไปยังชั้นหินอุ้มน้ำ รวมทั้งบ่อน้ำจืดของชุมชน จนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้น้ำที่มีอยู่ได้ ต้องหันไปพึ่งพาความช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและน้ำจากภายนอก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเวลานานนับเดือนหรือนับปี​

    จากรายงานพบว่า น้ำทะเลที่ท่วมเกาะหลายแห่ง ทำให้ดินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพิษ จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชไร่ใดๆ ได้ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งประสบเหตุโดยตรงจากคลื่นยักษ์สึนามิ​

    "การฟื้นคืนน้ำจืดให้สามารถใช้งานได้ เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนแรกที่ต้องทำก็คือต้องสูบน้ำเค็มออกจากบ่อมาให้หมด จากนั้นก็ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนให้สิ้นซาก" นักวิชาการ กล่าว​

    โดย : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 10/01/2005​


    เครื่องกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำบริสุทธิ์

    [​IMG]


    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" border=0 cellSpacing=2 borderColor=#000000 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#cc0000><TD vAlign=top width="100%">คุณสมบัติ เครื่องกลั่นน้ำดื่มบริสุทธิ์ Portable Water Distiller "MEGAHOME"</TD></TR><TR bgColor=#f9f9f9><TD vAlign=top width="100%">
    • สามารถกลั่นน้ำประปา น้ำบาดาล น้ำคลอง และน้ำทะเล ให้เป็นน้ำบริสุทธิ์
    • สามารถกลั่นน้ำได้วันละ 12 ลิตร เพียงพอสำหรับดื่มภายในครอบครัว 5-6 คน
    • เหมาะสำหรับดื่ม ชงนม ชา กาแฟ น้ำผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคไต นิ่ว
    • น้ำกลั่นบริสุทธิ์ จะช่วยละลายสารตะกอนของแร่ธาตุที่สะสมอยู่ตามข้อต่อ และผนังเส้นเลือด อีกทั้งช่วยให้ ไตทำงานดีขึ้น
    • การดื่มน้ำบริสุทธิ์ ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร การดูดซึมอาหาร และการขับถ่ายของร่างกายมีประสิทธิภาพเต็มที่
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="100%">
    [​IMG]


    สถานที่สั่งซื้อในประเทศไทย
    บริษัท นอติลัสวอเตอร์เมคเกอร์ จำกัด

    ชวนชม ศิริประพันธ์
    20 / 76 ถนนพระราม 2 หมู่ 6 ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร 74000
    (Thailand)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    http://www.gmwebsite.com/Website/ind...61227162005328

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  14. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    มาอีกแล้วภัยธรรมชาติแบบฉับพลัน รุนแรง คราวนี้ที่ฟิลิปปินส์

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ฟิลิปปินส์ ตายแล้ว 2 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 ธันวาคม 2553 16:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ทางการฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีประชาชนเสียชีวิต 2 คน และอีกราว 4,000 คน ต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงมะนิลา

    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นผู้หญิงอายุ 80 ปี และลูกชายอายุ 50 ปี ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดหายไป หลังจากพยายามข้ามฝายน้ำล้น ไปยังศูนย์อพยพเมื่อวานนี้

    อย่างไรก็ดี ทางการฟิลิปปินส์ อาจจะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง เพิ่มเติมอีก เนื่องจากอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่า จะมีฝนตกต่อไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม ปีหน้า

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    30 ธ.ค. 53


    ทองคำเปลวกับร่ม

    ภาพแรกเป็นภาพทองคำเปลวที่หน่วยเหนือได้เสกให้โผล่ออกมาจากพื้นดิน
    ตรงนั้นแผ่นตรงนี้แผ่น เสกไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็แกะทองคำเปลวแผ่นแรกออกมา
    แล้วนำไปคลึงกับแผ่นอื่นๆจนได้เป็นก้อนทองออกมา ก้อนใหญ่พอสมควร

    ภาพนี้จะมีความหมายว่า การทำงานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จะค่อยเป็นค่อย
    ไปจนสำเร็จในที่สุด

    ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่ผมกำลังนำร่มและคันร่มนำมาประกอบเข้าหากันแล้วนำ
    มากองรวมกันเพื่อรอแจก

    ภาพนี้ร่มจะสื่อความหมายถึงการให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่

    ส่วนท่านใดสนใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เข้ามาคุยกันเผื่อเราจะมี
    บุญสัมพันธ์กัน



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +892
    ภัย จากชายแดนไทย เขมร เริ่มก่อตัว

    ไม่อยากให้บานปลาย กลายเป็น สงครามแห่งศักดิ์ศรี

    กลายเป็น สงคราม ชายแดน และ สงครามเบ็จเสร็จ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมคำทำนายเรื่องภัยพิบัติ ปี 2555-2560
    โดยพระอริยะสงฆ์ของไทย

    [​IMG]

    คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล

    คำถามนี้ถามเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. 2552 เวลาสองทุ่มกว่าๆ เกือบสามทุ่ม หลวงปู่พูดเปรยๆว่า:

    อีก 3 ปีไทยจะขาดแคลนน้ำ(เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม) แต่ที่ไหนมีการแก้ไข ก็จะมีน้ำพออยู่กันได้

    ประมาณนี้.. ซึ่งเราก็เลยสงสัยเล็กน้อย ก็เลยคุยกับเพื่อนๆ คนนู้นคนนี้ เพื่อนคนหนึ่งเลยบอกให้ตั้งคำถามถามหลวงปู่สิ คนที่อยากรู้คงมีเยอะ เราจึงได้ถามคำถามไป 5 ข้อค่ะ และเมื่อวาน วันที่ 28 พ.ย. 2552 เวลาดึกๆหลังสามทุ่ม หลวงปู่ก็ตอบค่ะ:

    1. เฉพาะกับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีรายละเอียดเรื่องนี้ในพระไตรปิฎก เล่มไหน หน้าไหน หรือเปล่าคะ (ส่วนเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ หนูได้อ่านพระไตรปิฎกตามหัวข้อที่วัดคัดลอกมาแล้ว)

    หลวงปู่บอกว่า ทำนายฝัน พระเจ้าปเสนทิโกศล .. เหตุภัยพิบัติมันมีมานานแล้ว และมันก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ มา ไป มา ไป เป็นธรรมดาๆของมัน ไม่ถึงขนาดในหนังเรื่อง 2012 ที่มันเว่อร์ๆแบบนั้นหรอก

    2. ขาดแคลนน้ำด้วยสาเหตุอะไรคะ

    หลวงปู่บอกว่า เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม เครื่องกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืดเดี๋ยวนี้ก็มี(ที่ประเทศบาห์เรน) แต่พอถึงเวลานั้นมันใช้ไม่ได้หรอก(คงเป็นเพราะสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ระบบไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก)

    3. และพระอาจารย์พอจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้หรือไม่คะ ว่าท่านเห็นอะไรและอย่างไรบ้าง
    ผู้ช่วยอ่านคำถามบอกว่า เริ่มวิตกแล้วล่ะ

    หลวงปู่บอกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะตายหรอก ได้ตายแน่ๆแหละ(คนเราเมื่อหมดอายุขัยก็ต้องตายด้วยกันทุกคน)

    4. ที่อื่นๆนอกจากแถวน้ำหนาว พออยู่ได้ไหมคะ เช่น กรุงเทพ, นครปฐม, อเมริกาเหนือ

    หลวงปู่บอกว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งทวีป อยู่ได้หมด ที่ไหนมีการแก้ไขก็อยู่ได้ อุทิศบุญต่างๆนานา เกิดปัญหาอะไรก็ให้ค่อยๆแก้ไขไป

    ผู้ช่วยถามคำถามถามหลวงปู่ว่า มีคนรอดเยอะไหม

    หลวงปู่บอกว่า รอดเยอะมาก และตายเยอะมากเช่นกัน

    5. หนูและครอบครัวถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างเคร่งครัด พอช่วยได้ไหมคะ

    หลวงปู่บอกว่า ตอบไปแล้ว

    ประมาณนี้ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ

    ไฟล์เสียง คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

    ที่มา http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2268.0

    *****************************************************************

    คำเตือนจากปู่อินทร์ตาทิพย์เขาตำแยอายุ 109 ปี

    ปู่บอกว่าภัยพิบัติจะเกิดตามหนังสือพุทธทำนายไว้ จะแรงบ้างหรือเบาบ้างขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ได้ช่วยไว้หรือไม่ แต่ปลายปี 2555 ต่อเนื่องปี 2556 เหตุการณ์จะรุนแรงมาก ด้วยเหตุ 3 อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ประการแรก บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ หาก..... ละสังขาร ประการสอง พายุจะถล่มเมืองไทย และที่อื่นๆ ประการสามน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก หลายๆประเทศจะต้องเกิดเหมือนกัน จะรุนแรงไปเรื่อยๆ ผู้คนจะตายมากเป็นประวัติการณ์ ผู้คนจะเหลือแค่ 30% ของประชากรที่นั้นๆ

    ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือวัฎรจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม เหตุดังกล่าวจะเบาลงและสิ้นสุดปี 2560 ผู้คนที่รอดพ้นจากภัยพิภัยคือผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรม กตัญญูต่อบิดามารดา ละอายแก่บาป จงเป็นผู้รู้ในกิเลส และผู้ตื่นจากกิเลส สุดท้ายก็ไกลจากกิเลส

    ภัยพิบัติที่จะเกิด เมืองไทยจะมีการเตือนภัยล่วงหน้า จากในหลวงของเรา และท่านสมิทธ ธรรมสโรช (พูดแบบภาษาธรรม พระองค์ท่านในหลวงและคุณสมิทธมีสื่อจากผู้ดูแลมนุษย์ในโลกนี้ จะบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้คนเตรียมตัวหนีจากภัยที่จะเกิด) ส่วนเส้นทางหลบหนีปู่บอกว่าผู้คนจะหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ และรถจะติดมากผู้คนต่างแย่งกันโกลาหลน่าดู และสุดท้ายหางแถวจะหนีไม่รอดนั้นเอง สระบุรีตั้งที่องค์พระนั่งสูง ตรงนั้นแผ่นดินจะยุบตัวลง เพราะข้างล่างเป็นบ่อน้ำใต้บาดาล ส่วนถนนที่พอจะรอดก็คือ กบินทร์-นครราชสีมา,นครนายก หรือเส้นทางอื่นๆที่ไม่ใช่มิตรภาพ แต่ส่วนมากผู้คนจะเลือกเส้นทางมิตรภาพมากเพราะไปได้ทั้งเหนือและอีสาน ขอเตือนไม่จำเป็นจะต้องไปอีสานอย่างเดียวนะครับ ภาคเหนือก็ไปได้

    (ปู่บอกแล้วเตือนแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญของเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนมากจะรอด แม่บอกอย่างนี้) มนุษย์จากตัวใหญ่ลงมาถึงตัวเล็ก และกำลังเปลี่ยนแปลงจากเล็กไปหาใหญ่เรื่อยๆ สังเกตุจากลูกหลานจะเริ่มสูงใหญ่กว่าพ่อแม่แล้ว และค่อยเป็นค่อยเปลี่ยนไปตลอด

    ปล.ลูกเมืองสกลฯ องค์ปู่อินทร์,ปู่ปิยะ และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ คือพ่อ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มาhttp://palungjit.org

    *****************************************************************

    เมย์พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)

    พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ"

    "หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้ง และลูกศิษย์ ก็เห็นมาหลายคน ใครเคยประสบด้วยตนเอง ช่วยมาโพสต์ในนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยค่ะ (แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่อง อภิญญา ของหลวงปู่ เพราะมันเยอะ พิมพ์ไม่ไหว) แต่เมย์จะเล่าเรื่อง วาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ

    เมย์ ไปพบท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง ไปกับกลุ่มของเพื่อนคุณพ่อค่ะ วันนั้นไปกันราว 10 คน พวกเรานั่งรถตู้ของเพื่อนคุณพ่อเมย์ นั่งรถตู้จากกรุงเทพ 8.00 น. กว่าจะถึง สำนักสงฆ์ของท่าน ก็เกือบเที่ยงอ่ะค่ะ เส้นทางวกวน เหมือนเขาวงกต เพราะสำนักสงฆ์อยู่บนเขาสูง (แถวนั้นเรียกว่า "ลำพญากลาง") สูงจากพื้นดินมากค่ะ เพราะทุกคนในรถตู้รู้สึก "หูอื้อ" ทุกคน พอไปถึงก็ยังไม่พบท่านหรอกค่ะ เพราะท่านอยู่ใน กุฏิ ด้านหลัง ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเข้า สภาพของสำนักสงฆ์เรียบง่าย มีกุฏิ 2 หลัง, มีวิหารเล็กๆ 1 หลัง, มีโรงครัวเล็กๆ 1 หลัง, มีห้องน้ำราว 10 ห้อง ทั้งหมดมาจากเงินจากผู้บริจาค ของผู้ที่มากราบท่านทั้งสิ้น

    เพราะ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 มาตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นป่าอยู่เลย ยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ป่าทั้งนั้น พอท่านอยู่ไปก็มี ผู้คนไปกราบไหว้ รวมคนที่ไปกราบท่านจนถึงปัจจุบันก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 คนค่ะ

    แล้ว หลวงปู่ท่านก็เดินลงมา แล้วตรงมาที่กลุ่มของเมย์ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม (น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่ชั้นจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คน และคนอื่นๆ

    ท่าน ก็เริ่มเทศนาว่า... แท้จริง ประเทศไทย และ ทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับความหายนะครั้งใหญ่ จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แต่ที่มันไม่เกิด ก็เพราะว่า มีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษาโลกมนุษย์ ช่วยกัน อธิษฐานจิต ให้เหตุการผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริง มันได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆเหตุการณ์ภัยธรรมชาตใหญ่ิ และความหายนะครั้งใหญ่ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

    นับ แต่เวลาี้นี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถอธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไป ภัยธรรมชาติ และความหายนะครั้งใหญ่ จะค่อยๆปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูงท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมด และสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ

    ทุกอย่าง จะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบ จะถูกภัยธรรมชาติใหญ่ คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมาก จะเสียสติไปเลย เพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้ละกันนะ คนจะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 % ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะเหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆเท่านั้นเอง

    หลัง ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษย์ชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่ เรียกว่ายุคศิวิไลซ์ เนื่องจากคนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30 %) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็น มหาอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติ ในการดำเนินชีวิตใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ บำเพ็ญบุญ-กุศล

    ท่าน ว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบๆทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆกันด้วยนะ ลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ชั้นก็มีเรื่องจะบอกเท่านี้แหละนะ เจริญพร.......ทุกคนก็กราบท่าน ด้วยความกลัว ใจหวิวๆ บอกไม่ถูกค่ะ

    ตอน จะกลับ เมย์ว่าจะถ่ายรูปของหลวงปู่ มาให้เพื่อนๆใน "เว็บพลังจิต" ดูซะหน่อย แต่ทางสำนักสงฆ์ ติดป้ายไว้ว่่า "ห้ามถ่ายรูป" อ่ะค่ะ ...เอาไว้เพื่อนๆลองไปกราบหลวงปู่ท่านเองละกันนะคะ เมย์บอกที่อยู่ให้แล้วอ่ะค่ะ

    เมย์ขอปิดท้ายค่ะ ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรมจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรอดค่ะ

    ที่มา http://palungjit.org

    ******************************************************************

    คำทำนายของหลวงปู่สรวง

    ."หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    [อ้างอิง หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...]

    ที่มา http://palungjit.org

    *****************************************************************<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  18. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ยังมีอีกครับเจ้าราชครูหลวงโพ้นสะเม็ก ก็ทำนายว่าปี 2555 เมื่องไทยจะตกต่ำ หลวงปู่เณรคำ ปัญญาพโล หลวงปู่เณรคำ ฉัตติดก และก็ หลวงพ่อวัชระ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อีก 2 ปี "ไม่มีน้ำจืด มีแต่น้ำเค็ม"

    [​IMG]

    "หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำ(ทะเล)ท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    [​IMG]

    วิธีกลั่นน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืดแบบง่ายๆ

    ฟังดูแล้วน่าจะเป็นวิธีการที่ยุ่งยากเอาเรื่อง สมัยเป็นเด็กนักเรียนตอนเรียนวิชาเคมี จะต้องสร้างอุปกรณ์เอาน้ำใส่ภาชนะ จะเป็นขวดแก้ว หรือ Beaker ต้มให้กลายเป็นไอ ใช้กระจกอัง หรือผ่านไปตามท่อที่ผ่านความเย็น ให้กลั่นตัวกลายเป็นน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง กว่าจะได้เอาไปรับประทาน (ดื่ม)หรือเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น เติมแบตเตอรรี่ ช่างยากเย็นเหลือเกิน มาลองประดิษฐ์น้ำกลั่นง่าย ๆ กันดูดีกว่า

    ขั้นแรก จะต้องอาศัยร้านกระจกข้างบ้าน ตัดกระจกใสตามแบบและขนาดที่กำหนด (จะขยายหรือลดก็ไม่ว่ากัน สำคัญจะต้องแปรรูปได้)

    ขั้นที่สอง นำมาประกอบโดยการทากาว แบบที่ใช้ประกอบตู้ปลา รวมทั้งจัดหาท่อพีวีซีและอุปกรณ์อื่นๆ อีกเล็กน้อย หรือจะให้ดี ก็เพิ่มขดลวดไฟฟ้า ต้มน้ำแบบเสียบปลั๊กหรือจุ่มลงในน้ำ อีกอันหนึ่งก็จะเป็นการดียิ่งนัก เมื่อประกอบเป็นตัวตู้เรียบร้อยแล้ว ก็ทาสีดำที่ใต้พื้น เพื่อช่วยดูดความร้อน

    ขั้นตอนการผลิตน้ำกลั่น ก็ง่ายแสนง่ายเพียงแต่นำตั้งทิ้งไว้กลางแดด และเติมน้ำเข้าระบบ เท่านี้ท่านก็จะได้น้ำกลั่นแล้ว โดยขนาดพื้นที่ 1 ตารางเมตร จะสามารถกลั่นน้ำได้วันละ 1.5 -2 ลิตร หากวันไหนไม่มีแดด หรือต้องการน้ำกลั่นปริมาณมากทั้งวันทั้งคืน ก็ดึงสายไฟไปเสียบปลั๊ก ลงทุนค่าไฟอีกนิดหน่อยก็ได้น้ำกลั่นตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะตอนกลางคืนไอน้ำจะกระทบกับความเย็น ของกระจกได้ดีกว่า ทำให้ได้ปริมาณน้ำกลั่นมากขึ้น เท่านี้ท่านก็จะมีน้ำกลั่นสะอาดไว้ใช้ได้ทุกสถานการณ์

    ที่มา http://www.dgr.go.th/water2006/technique16.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P03.JPG
      P03.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      984
    • P02.JPG
      P02.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      2,165
    • P01.JPG
      P01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.9 KB
      เปิดดู:
      92
    • distilation.jpg
      distilation.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.6 KB
      เปิดดู:
      123
    • North-trip-053.jpg
      North-trip-053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.4 KB
      เปิดดู:
      222
    • 4647828.jpg
      4647828.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      1,275
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2010
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกาหลีใต้ยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของปี

    [​IMG]

    โซล 30 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า พบชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคดังกล่าวของปีนี้

    ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแถลงว่า ชายวัย 30 ปีเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และผลตรวจระบุว่า เขาติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 หลังจากนั้น เขาถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤตในโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงเมื่อเช้าวานนี้ ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของปีนี้ โรคดังกล่าวคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ไปกว่า 100 คนเมื่อปีที่แล้ว. -สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    ผู้นำเกาหลีใต้เรียกร้องกองทัพช่วยควบคุมโรคปากและเท้าเปื่อย

    [​IMG]

    โซล 30 ธ.ค.- ประธานาธิบดีลี มยองบัก ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้กองทัพช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยครั้งเลวร้ายที่สุด หลังมีการฆ่าสัตว์ไปแล้วราว 500,000 ตัว

    ประธานาธิบดีลีกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีว่า เขาทราบว่ากองทัพได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว โดยการช่วยกำจัดสัตว์ แต่เขาอยากจะขอความร่วมมือเพิ่มเติมเมื่อโรคดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น และว่า หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะให้การดูแลเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมโครงการกำจัดสัตว์ รายงานระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีรายงานพบสัตว์ติดเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยกว่า 60 รายทั่วประเทศ ทำให้ต้องกำจัดปศุสัตว์ หมู และสัตว์เท้ากีบไปแล้วกว่า 500,000 ตัว และก่อให้เกิดความเสียหายราว 400,000 ล้านวอน (ประมาณ 10,500 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    สหรัฐเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย

    [​IMG]

    สหรัฐ 30 ธ.ค.- ผู้คนตั้งแต่ในรัฐแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐวอชิงตันของสหรัฐ กำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายทั้งพายุฝนและพายุหิมะ

    สภาพอากาศตั้งแต่รัฐแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐวอชิงตันของสหรัฐ ขณะนี้ ผู้คนกำลังเผชิญกับทั้งพายุหิมะ และพายุฝน มีรายงานว่าทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พายุฝนยังคงโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ขณะที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน เนื่องจากต้นไม้โค่นลงมาทับเต็นท์ ทำให้สตรีคนหนึ่งที่อยู่ภายในเต็นท์เสียชีวิตทันที

    ส่วนที่รัฐโอเรกอน ทางหลวงสายหนึ่งใช้การไม่ได้ หลังหินจากภูเขาถล่มลงมากีดขวางถนน ส่วนที่รัฐวอชิงตันความรุนแรงของพายุหิมะทำให้ชาวบ้านหลายครอบครัวไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ถนนหลายสายใช้การไม่ได้ คาดว่าสภาพอากาศทางภาคตะวันตกของสหรัฐจะหนาวเย็นลงอีก และมีกระแสลมแรง.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    อินโดนีเซียเตือนภัยพายุทอร์นาโดในกรุงจาการ์ตา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 30 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ประชาชนในกรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซีย อาจต้องเผชิญกับทอร์นาโดอีกหลายลูกในสัปดาห์หน้า

    รายงานระบุว่า พายุทอร์นาโดขนาดเล็กพัดถล่มกรุงจาการ์ตาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 50 หลัง ได้รับความเสียหายและต้นไม้หลายสิบต้นโค่นล้ม แต่ไม่มีรายงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บ สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยาและธรณีฟิสิกส์เปิดเผยวันนี้ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่กำลังเคลื่อนตัวจากตอนเหนือของออสเตรเลียไปยังภูมิภาคดังกล่าวอาจก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่มกรุงจาการ์ตา. - สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธ.ค. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...