พระหลวงปู่ดู่&หลวงตาม้ากับภัยที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย poon-pan, 24 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    เมื่อคืนผมเพิ่งได้คุยกับพี่ที่สนิทกันคนนึง ผมได้ให้พระผงมหาจักรพรรดิพิมพ์พระปางเปิดโลก ของหลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำให้พี่เขาไปเผื่อไว้ได้เป็นที่พึ่งในเรื่องภัยจากนิวเคลียร์ (ถ้ามันเกิดขึ้นจริง)

    ตอนให้ไปก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับพี่เขาหรอก เพราะใจผมคิดว่าเดี๋ยวแกก็คงรู้เองว่าแกจะต้องทำอย่างไร ก็เป็นจริงตามที่คาดไว้

    แกเล่าให้ผมฟังเรื่องพระผงมหาจักพรรดิ ว่าต้องด้วยญาณที่แกรู้มาเกี่ยวกับพระองค์นี้ แกบอกว่าต้องกำแล้วสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ให้มีจิตนึกถึงพระองค์นี้ให้ตลอด สวดให้มากๆ แล้วพลังบุญนี้เองจำออกมาช่วยเราเองด้วยพลานุภาพขององค์ท่าน แกบอกว่าในอีกไม่นานหรอกต้องได้อาศัยบุญนี้อย่างแน่นอน คือเมื่อถึงเวลานั้นพลานุภาพแห่งบุญนี้จะมาโดยอัตโนมัติ แต่ถึงแม้ว่าไม่รอดแต่ก็ต้องไปดีแน่นอน แกมั่นใจมาก

    และหลังจากที่แกสัมผัสได้แกบอกว่าต้องแขวนขึ้นคอตลอด เว้นแต่เมื่อทำกิจธุระส่วนตัวเท่านั้นจึงจะถอดออก
     
  2. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342



    อนุโมทนาบุญครับ เป็นจริงดังที่กล่าวมาครับ

    ตอนนี้หลวงตาม้า ท่านแจกพระผงจักรพรรดิ
    ฟรีอยู่นะครับ ท่านใดอยากได้ไว้บูชาเพื่อคุ้มครองตนเอง และคนที่เรารัก เข้าไปขอได้ตามนี้เลยนะครับ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

    http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,558.msg42408/topicseen.html#msg42408

     
  3. ณัฐธยาน์12

    ณัฐธยาน์12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +612
    อนุโมทนาคะ ทุกวันนี้ สวดบทจักรพรรดิทุกวัน และสวดมนต์พร้อมกัน 20.30น.ทุกวันคะ
     
  4. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ขอบคุณที่แนะนำนะค่ะ.............
     
  5. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    501
    ค่าพลัง:
    +635
    วันที่ 4 มีนาคมนี้ เวลาประมาณ 9 โมง(ครึ่ง?) มีพิธิหล่อพระหลวงปู่ดู่หน้าตัก 84 นิ้ว โดยหลวงตาม้าเป็นประธาน ที่โรงหล่อลาดหลุมแก้ว ดูรายละเอียดที่เว็บถ้ำเมืองนะ นะคะ
    (ขอโทษค่ะ link ไม่เป็น)
     
  6. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342

    รายละเอียดดูได้ที่นี่ครับ

    4 มี.ค. 55 หล่อหลวงปู่ดู่หน้าตัก 86 นิ้ว ที่โรงหล่อ ณ อ.ลาดหลุมแก้ว


    สำหรับผู้ที่ไปร่วมงาน หลวงตาแจกเหรียญรุ่นพิเศษชื่อ เหรียญปราบไตรภพ มีพุทธคุณครอบคลุมสามแดนโลกธาตุ และสามารถใช้ทำมาค้าขายได้ดี เดินทางไปไหนสามารถป้องกันภัยอันตรายรอบด้านได้จากทุกทิศทุกทาง เนื่องจากมีรูปลักษณ์หลวงปู่ดู่นั่งบัวที่ด้านหน้า และด้านหลังเป็นพระศรีสยามเทวาธิราชเจ้า ซึ่งเป็นบารมีรวมกำลังของพระสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีตปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งท่านก็ทรงเครื่องจักรพรรดิทั้งหมด เรื่องพุทธคุณนั้นมีมิประมาณ (แจกฟรีเฉพาะผู้ที่ไปร่วมงานเท่านั้น)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo3-1.jpg
      photo3-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.5 KB
      เปิดดู:
      458
    • photo2-1.jpg
      photo2-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.9 KB
      เปิดดู:
      357
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2012
  7. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342

    อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ 20.30 น.สวดพร้อมกันทุกวันทั่วโลก ได้ที่

    http://www.watthummuangna.com/home/
     
  8. Henberassy

    Henberassy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +173
    สวดบทจักรพรรดิเกือบทุกวันค่ะ ไม่รู้อุปทานหรือไม่ เวลาสวดแล้วกำ เหรียญหลวงปู่รู้สึกได้ถึงพลังงาน ในมืออ่ะค่ะ มือจะร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่สวด

    โมทนาบุญกับทุกท่านที่สวดบทจักรพรรดิ์ ทุกคนด้วย สาธุ ค่ะ
     
  9. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342

    ครับ ช่วยหลวงตาม้าเผยแพร่ครับ
     
  10. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342


    อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
    พระหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า มีพลังงานทุกองค์ครับ ยิ่งสวด ยิ่งรับรู้ถึงพลังงานมากขี้นครับ
     
  11. choo choo

    choo choo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +49
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ด้วยขอรับ และขอถามนิด ว่าหลวงพ่อพระขาว
    ในรูปใต้ชื่อนั่นคือ พระขาวที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.โคราชใช่
    ไหม ดูคุ้นๆคร๊าบ(อย่างน้อย ขอให้ได้อยู่แถวนั้น ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นกับ
    สังขารนี้)
     
  12. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    เท่าที่มีข้อมูล ภัยจากรังสีนี้ หลวงปู่ฯ ท่านเคยบอกกับศิษย์ใกล้ชิดว่า คนอยู่ในป่าจะโดยรังสีน้อยกว่าคนอยู่ในเมือง และเมื่อเหตุการณ์นั้นมาถึงจริง (สงครามนิวเคลียร์) ป่าแถบตะวันออกจะค่อนข้างปลอดภัยกว่าที่ใดๆ ในประเทศไทย
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    <EMBED height=480 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/dlHyH8GoUxE?version=3&autoplay=1&hl=th_TH&rel=0 allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">

    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447
    ตัวอย่างวิธีการใช้พระผงจักรพรรดิให้เกิดประโยชน์

    พระผงกำลังจักรพรรดิที่หลวงตาม้าท่านสร้างขึ้นมานี้ ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่าเอาไปใช้ประโยชน์ได้สารพัด รักษาโรคได้ทุกโรค อีกทั้งยังนำไปกำทำสมาธิได้อีกด้วย ทั้งนี้เพราะท่านปลุกเสกโดยการอัญเชิญบารมีของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พระผู้ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้ามาไว้ในองค์พระ พระทุกๆองค์จึงมาหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่อยู่ข้างในนั้น ผู้ใดที่มีความศรัทธาเชื่อมั่น นอกจากจะนำมากำทำสมาธิจนเห็นผลได้แล้ว ยังสามารถนำพลังงานบุญที่สถิตย์อยู่ในองค์พระ แผ่ออกไปช่วยเหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามโลกธาตุได้อีกด้วย และยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายซึ่งจะขอกล่าวถึงในภายหลัง


    สิ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้นนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้ ทุกคนสามารถทำได้ด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเรามีความศรัทธาเชื่อมั่นหรือเปล่า ถ้าเชื่อมั่นศรัทธา บวกเข้าด้วยความจริงใจและจริงจังก็จะสามารถนำพลังงานบุญที่อยู่ในองค์พระไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแน่นอน....

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา
    ปัจเจกานัญ จะยังพลังอะระหันตานัญ จะเตเชนะรักขัง พันทามิ สัพพโส
    (3 หรือ 5จบก็ได้)
    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    พระคาถาบทนี้ หลวงตาม้าท่านเรียกสั้นๆว่าเป็น"บทสัพเพฯ"หรือบทอัญเชิญพระเข้าตัว(แล้วแต่จะอธิษฐาน) ซึ่งพระคาถาบทนี้ หลวงตาม้าท่านใช้ในการแผ่บุญ ปรับภพภูมิ แผ่เมตตาให้แก่สรพพสัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์

    1.วิธีการนำพระผงจักรพรรดิมาใช้ในการแผ่เมตตาหรือแผ่บุญ

    ให้ทำใจสบายๆ...กำพระผงจักรพรรดิเอาไว้ ไม่ต้องเกร็งหรือเพ่งปล่อยตามสบาย จากนั้นนึกถึงหลวงปู่ดู่หรือหลวงปู่ทวดก็ได้ นึกด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น เพราะเรานึกถึงท่านปุ๊ป ท่านก็มาหาเราปั๊ป หลวงตาม้าท่านอธิบายไว้ว่าเรานึกถึงหลวงปู่ดู่ครั้งเดียว ท่านไป-กลับเรา 7-10รอบเลยทีเดียว ท่านไวมาก ดังนั้นเรานึกถึงท่าน ท่านก็มา

    จากนั้นให้นึกอธิษฐานบอกท่านไปในใจ ขอบุญบารมีท่านแผ่ไปให้กับใครก็แล้วแต่จะอธิษฐาน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่า "หลวงปู่ช่วยแผ่บุญให้กับวิญญาณเจ้าของเนื้อหมูที่ผมกำลังจะกินอยู่ตอนนี้ด้วยนะครับ" จากนั้นก็ท่องบทสัพเพฯในใจ พร้อมๆกับนึกถึงหลวงปู่และเนื้อหมูรวมถึงวิญญาณเจ้าของเนื้อไปด้วย

    เพียงเท่านี้แหละครับ กำลังบุญบารมีของหลวงปู่ดู่รวมกับกำลังบุญพระรัตนไตรที่สถิตย์ประดิษฐานอยู่ในองค์พระผงจักรพรรดิ ก็จะแผ่ออกไปให้กับวิญญาณหมูตัวนั้นทันที ถ้าหมูตัวนั้นมีบุญอยู่ด้วยแล้ว เขาจะหลุดจากอัตภาพที่เป็นวิญญาณหมู ไปเกิดเป็นเทวดาโดยทันทีทันใดเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าเราส่งวิญญาณหมูให้ไปเกิดเป็นเทวดาได้นะ หลวงปู่ดู่ต่างหากที่ท่านเป็นคนส่งให้ เราเป็นเพียงผู้อธิษฐานเฉยๆ หลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า "ถ้าแกแผ่เองไม่ได้(หมายถึงทำเองไม่ได้) นึกถึงข้านี่ ข้าแผ่ให้เอ็งได้!"

    บุญเป็นของดี จะเอาไปให้ใครก็ได้ จะสัพเพไปให้เทวดาเทพพรหมประจำบ้าน ผีสางนางไม้แห่งหนใด หรือบุคคลผู้ใดก็ตาม ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์เล็กสัตว์น้อย ล้วนเกิดประโยชน์ทั้งนั้น เพราะบุญเป็นสิ่งที่พึ่งได้จริง ในโลกนี้สิ่งที่บันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือร้ายตามชะตาชีวิตของแต่ละคน ก็ล้วนเป็นเพราะบุญหรือบาปที่เคยทำเอาไว้ทั้งนั้น อย่าได้ประมาทในผลของกรรมเลย บางทีบุญเขาอาจจะกำลังหมด บาปกรรมที่ทำไว้ในอดีตกำลังจะตามมาสนอง เราแผ่บุญให้เขาไปย่อมเป็นการเกิดประโยชน์

    ยังมีอีกหลายวิธี เดี๋ยวจะมาเขียนต่อในวันถัดไปนะครับ
    ธรรมรักษา

    เขียนโดย Youngest son ที่ <A class=timestamp-link title="permanent link" onclick="pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_21_html');pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_21_html');" href="http://www.luangpudoo.blogspot.com/2009/10/blog-post_21.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2009-10-21T10:04:00-07:00>10:04</ABBR> 0 ความคิดเห็น [​IMG]




    วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

    พุทธคุณของพระที่หลวงปู่หลวงตาเป็นผู้อธิษฐานจิต



    [​IMG]


    "พระผงจักรพรรดิ" เป็นชื่อเรียกพระเครื่องที่หลวงตาม้าท่านได้ทำการสร้าง และอธิษฐานจิตตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ซึ่งท่านได้ใช้"ผงมหาจักรพรรดิ"ของหลวงปู่ดู่เป็นมวลสารในการสร้างพระ และพระที่ท่านสร้างนี้ ท่านได้ทำการแจกฟรีมาตลอด ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์โดยหวังเพียงว่าจะมีผู้นำพระของท่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์

    หากจะบรรยายพุทธคุณของพระผงจักรพรรดิหรือพระที่อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่ดู่หรือหลวงตาม้า คงจะไม่สามารถบรรยายได้หมด เหตุก็เพราะว่าพลังงานในพระมีมากมายมหาศาล จนเรียกได้ว่าอธิษฐานขอในสิ่งที่เ็ป็นประโยชน์ได้ตามใจนึก ประดุจแก้วสารพัดนึกเลยทีเดียว ท่านได้ทำการอธิษฐานจิตรวมกำลังพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจก พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ พระธรรมเ้จ้า พระอริยสงฆ์ทั้งหมดทั้งมวลรวมมาไว้ในองค์พระนี้

    ซึ่งไม่แปลกที่ลูกศิษย์ทั้งหลายต่างเคยมีประสบการณ์ด้านคงกระพัน แคล้วคลาด รอดตายมาแล้วนับไม่ถ้วน หรือจะเป็นลูกศิษย์อีกหลายๆคนที่สามารถหมดปัญหาเรื่องหนี้สินและกลับมาร่ำรวย นี่ก็เป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ดู่และพระผงจักรพรรดิ อีกทั้งยังเป็นเมตตา่มหานิยม เป็นที่รักของคนและเทวดา หรือภูติผีปีศาจทั้งหลาย นอกจากนี้ยังป้องกันคุณไสยและของไม่ดีไม่ให้เข้าตัวได้อีกด้วย หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า ให้ใส่พระของท่านเอาไว้ เพราะว่าพระของท่านป้องกันอันตรายได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งนิวเคลียร์ รังสีจากนิวเคลียร์ หรือแม้แต่ไข้หวักนก ไข้หวัดหมูที่ระบาดกันอยู่เวลานี้ ท่านก็บอกว่าพระของท่านสามารถป้องกันได้ ให้ใส่ไว้เถอะ ซึ่งกระผมเองเคยพบลูกศิษย์หลวงปู่หลวงตามามาก ก็ยังไม่เห็นผู้ใดที่ห้อยพระเอาไว้แล้วจะเป็นไข้หวัดร้ายแรงเหล่านี้เลย

    แต่จะเป็นประโยชน์กว่านั้น ถ้าหากว่าเราผู้ที่มีพระของหลวงปู่หลวงตา จะนำองค์พระมากำเพื่อทำสมาธิ เพื่อภาวนา เหตุก็เพราะว่าท่านได้ทำการอธิษฐานจิตเอาไว้ด้วยว่า ผู้ใดที่ก็ตามที่ได้พระไป ขอให้มีครบทั้งศีล สมาธิ ปัญญา่ ด้วยเหตุนี้เองผู้ที่นำพระไปกำภาวนาทำสมาธิ พลังงานจากองค์พระจะเข้าไปที่จิต ช่วยทำให้เราเกิดสมาธิ มีจิตใจที่สงบสบาย ไม่ร้อนรุ่มไปด้วยกิเลสตัณหา ดังที่มนุษย์ยุคปัจจุบันกำลังเป็นอยู่ ณ ขณะนี้

    หลวงตาม้าท่านยังสร้างและอธิษฐานจิตพระผงจักรพรรดิจนถึงทุกวันนี้ และท่านแจกฟรีให้กับทุกผู้ทุกคนเสมอ ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นใครหรือดีร้ายประการใดก็ตาม ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า "โจรมันกลับใจได้ ทำไมโจรจะกลับใจไม่ได้ล่ะ" หากท่านต้องการพระผงจักรพรรดิ ขอให้เดินทางไปที่วัดพุทธพรหมปัญโญ(วัดถ้ำเมืองนะ) นอกจากจะได้กราบพระสุปฏิปันโณอันปฏิบัติีดีปฏิบัติชอบเช่นหลวงตาม้าแล้ว ยังจะได้พระดีๆมาคล้องจิตคล้องใจกันถ้วนหน้า สาธุ!!

    ป.ล. หากผู้ใดไม่สะดวกไปวัด ก็สามารถติดต่อขอรับได้กับลูกศิษย์หลวงปู่หลวงตาทุกท่าน พระผงทุกองค์ของหลวงตาม้านั้น ท่านแจกฟรีทั้งหมด ยกเว้นพระบางรุ่นที่ไม่ใช่พระผง เพราะต้องใช้ต้นทุนในการทำ เช่น เหรียญดวงโพธิญาณ เป็นต้น

    เขียนโดย Youngest son ที่ <A class=timestamp-link title="permanent link" onclick="pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_6470_html');pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_6470_html');" href="http://www.luangpudoo.blogspot.com/2009/10/blog-post_6470.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2009-10-20T12:26:00-07:00>12:26</ABBR> 0 ความคิดเห็น [​IMG]






    การปฏิบัติธรรมตามสูตรหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า



    [​IMG]
    หากกายสบาย จิตก็จะสบาย

    การปฏิบัติธรรมตามแบบฉบับของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ไม่มีอะไรยากเพราะทุกคนสามารถทำได้ ขอแค่เพียงสละเวลาวันละ 3-5 นาทีมาปฏิบัติธรรมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะทำที่ไหนก็ได้ อยู่บ้านก็ทำได้ ขอเพียงมีใจที่เคารพศรัทธาในพระรัตนไตรเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ก่อนจะเริ่มทำก็กราบพระเสียก่อน จะกราบที่หิ้งพระหรือที่หัวเตียงก็ได้ หากหัวเตียงไม่มีพระ ก็ให้นึกถึงพระแล้วกราบลงไป คนเราหากนึกถึงพระอยู่ กราบลงไปเมื่อใดก็ถึงพระท่านเสมอ

    จากนั้นก็นั่งในอริยาบทสบายๆ จะนั่งขัดสมาธิก็ได้ จะนั่งเหยียดขาก็ได้ แล้วให้นึกท่องในใจว่า

    "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"

    ซึ่งพระคาถาบทนี้เรียกว่าพระไตรสรณคมน์ อันมีความหมายว่า

    "ขอยึดเอาพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง"

    หรือจะใช้บทพระคาุถามหาจักรพรรดิก็ได้ ซึ่งพระคาถานี้มีอยู่ว่า

    "นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสหัสสสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ
    ยะธาพุทโมนะ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สิวลีจะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ทาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ"

    เลือกเอาบทใดบทหนึ่ง ซึ่งระหว่างท่องนั้นให้นึกถึงพระที่เราชอบไปด้วย จะเป็นพระพุทธชินราชก็ได้ พระพุทธโสธรก็ได้ พระพุทธนิมิตก็ได้ พระแก้วมรกตก็ได้ หรือจะเป็นหลวงปู่ดู่ก็ได้ เพราะหลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า
    "แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงแก แกไม่นึกถึงข้า ข้าก็ยังนึกถึงแก"

    ให้ท่องในใจไปเรื่อยๆ ท่องจบก็เริ่มใหม่ ท่องจบก็เริ่มใหม่
    อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำด้วยใจสบาย ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องเกร็ง
    อย่างนี้เขาเรียกว่า ภาวนา

    หากจำภาพพระที่เราชอบไม่ได้ ก็ให้หารูปมานั่งดู ดูรูปไปด้วยภาวนาไปด้วย ทำอย่างนี้วันละ 3-5 นาทีทุกๆวัน โดยข้าพเจ้าขอแนะนำให้ทำตอนตื่นนอนหรือไม่ก็ก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ธาตุขันธุ์(ร่างกาย)ได้รับการพักผ่อน จิตจะพลอยสบายไปด้วย นี่แหละคือกรรมฐานสูตรหลวงปู่ดู่


    หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวได้ใจความว่า
    "กรรมฐานสูตรหลวงพ่อ(ดู่)เป็นกรรมฐานผู้ใหญ่
    ครูคือพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ครูคือหลวงพ่อ(ดู่)"

    อันที่จริงแล้วหากจะให้ครบเครื่องเรื่องการปฏิบัติตามแนวหลวงปู่ดู่ จะต้องมีพระเครื่องอย่างน้อยหนึ่งองค์เอาไว้กำขณะภาวนา ซึ่งพลังงานพุทธคุณจากพระเครื่องจะช่วยให้จิตเราสงบเป็นสมาธิหรือเบาเย็นสบาย โดยขณะกำและภาวนานั้น ท่านให้นึกถึงองค์พระที่กำเอาไว้ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างและอธิษฐานจิตด้วยวิชาของหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า จะสามารถดิ้นได้ เดินได้ เมื่อภาวนาไปจนใจสบาย จะพบว่าพระที่กำเอาไว้มีอาการดิ้นอยู่ในมือเลยทีเดียว

    อีกทั้งเมื่อผู้ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติไปจนถึงขั้นจิตละเอียดเบาสบาย ก็จะสามารถพูดคุยกับองค์พระที่เรานึกถึงหรือพระที่อยู่ในมือได้ ซึ่งองค์พระท่านสามารถตอบปัญหาในสิ่งที่เราสงสัยคาใจอยู่ได้เช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเครื่องที่อธิษฐานจิต ตามแนวทางหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า สามารถพูดได้ทุกองค์ ซึ่งตรงนี้หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า พระที่ท่านสร้างนั้น เราสามารถถามได้ทั้งสามโลกธาตุ เพราะท่านตอบได้ทั้งหมด อยู่ที่ผู้ปฏิบัติจะเข้าถึงหรือไม่ก็เท่านั้นเอง

    เขียนโดย Youngest son ที่ <A class=timestamp-link title="permanent link" onclick="pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_3045_html');pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_luangpudoo_blogspot_com_2009_10_blog_post_3045_html');" href="http://www.luangpudoo.blogspot.com/2009/10/blog-post_3045.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2009-10-20T11:48:00-07:00>11:48</ABBR> 0 ความคิดเห็น [​IMG]






    ประวัติพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร(หลวงตาม้า)



    [​IMG]
    [​IMG]





    พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    หน่อพุทธภูมิ ผู้สืบสานกระแสพลังเหนือพลังแห่งหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


    โดย : รอบทิศ ไวยสุศรี แฟนพันธุ์แท้พระเกจิคณาจารย์


    “นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”


    “พระคาถามหาจักรพรรดิ” เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก“ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญาชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วยเหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ และใช้ในการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน โดยท่านได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหลายรวมทั้งพระคาถามหาจักรพรรดินี้ไว้ให้แก่ลูกศิษย์ผู้เป็นหน่อโพธิ์แก้วต้นใหม่ที่จะทำหน้าที่สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ในรุ่นหลังต่อไปก็คือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า แห่งวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง



    พบหลวงปู่ดู่ ศึกษากระแสพลังเหนือพลัง


    ครั้งแรกที่หลวงตาได้พบหลวงปู่ดู่นั้น ท่านทำงานอยู่ที่ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่(บริเวณซอยอารีย์) และเพื่อนคนหนึ่งได้ไปบวชที่วัดสะแกท่านจึงได้ตามไปงานบวชของเพื่อนและได้พบกับหลวงปู่ดู่เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒o โดยหลวงปู่ดู่ได้มอบพระให้ท่าน ๑ องค์ เพื่อนำไปใช้กำไว้ขณะทำสมาธิและสอนให้ภาวนาไตรสรณคมน์ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ซึ่งในครั้งแรกที่หลวงตานำพระมากำทำสมาธิตามที่หลวงปู่สอนนั้น ท่านก็รู้สึกว่าสามารถทำสมาธิได้นิ่งสงบเบาสบายดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและหลังจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน หลวงตาไม่เคยไปศึกษากับครูบาอาจารย์ท่านใดอีกเลย มุ่งศึกษากระแสพลังเหนือพลังจากหลวงปู่ดู่เพียงองค์เดียวมาโดยตลอด โดยหลวงตากล่าวว่า “หลวงปู่จะสอนศิษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ท่านจะดูจากจริตนิสัยบุญบารมีของแต่ละคน เวลาหลวงปู่อยู่กับหลวงตาเพียงลำพังก็จะสอนอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนคนอื่น หลวงปู่ท่านมีความรู้มาก มีบุญบารมีเต็มล้นแล้ว หลวงตาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของท่านเท่านั้น”

    หลวงตาได้เล่าให้ฟังเรื่องบุญบารมีอันมากล้นของหลวงปู่ดู่ว่า “ในสมัยนั้น แม้หลวงปู่จะอายุกว่า๗o ปีแล้ว แต่ท่านยังมีผิวสีชมพูสวยมาก ใครไปแตะโดนตัวท่านไม่ได้ ท่านมีบุญบารมีบริสุทธิ์มาก แต่พวกเรายังมีกิเลสมาก แตะโดนแล้วตัวท่านจะบวมเลย มีครั้งหนึ่งลูกศิษย์ขอปิดทองบูชาที่ขาท่าน ท่านก็เมตตาให้ปิด แต่พอเช้าวันต่อมาขาท่านบวมทั้งสองข้างเลย ตั้งแต่นั้นมาท่านไม่อนุญาตให้ใครปิดทองตัวท่านอีกเลย” หลวงตาเล่าพลางหัวเราะเบาๆก่อนทิ้งท้ายว่า “ตอนนั้นหลวงตาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไปปิดทองหลวงปู่ด้วย ตอนนั้นเราไม่รู้”


    ในสมัยที่หลวงปู่ดู่ยังอยู่นั้น หลวงปู่และลูกศิษย์จะช่วยกันสร้างพระทุกวันเพื่อฝึกให้ใจอยู่กับพระเสมอและนำพระไปใช้กำทำสมาธิภาวนา ซึ่งหลวงปู่ได้กล่าวถึงเรื่องพระเครื่องที่คนมักมองว่าเป็นเรื่องงมงายไว้อย่างน่าคิดว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล” อย่างน้อยดึงให้ใจเขาติดอยู่กับพระเครื่อง ให้เห็นพระทุกวันก็เป็นพุทธานุสติ ใจเขาก็เป็นบุญ ดีกว่าปล่อยให้ใจเขาไปติดอยู่กับเหล้ายากิเลสสิ่งไม่ดีอื่นๆ โดยลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่ศึกษาวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ไว้อย่างครบถ้วน และช่วยท่านสร้างพระมาตลอดในสมัยนั้นก็คือ “หลวงตาม้า” นั่นเอง


    บวชจิตให้เป็นพระ


    ในสมัยที่หลวงตาเป็นฆราวาสนั้น ท่านเทียวไปเทียวมากรุงเทพฯ-อยุธยาเพื่อศึกษาแนวทางการปฏิบัติต่างๆกับหลวงปู่ดู่เป็นเวลากว่า ๑o ปี และมีความรู้สึกอยากบวชมาตลอด ต่อมาเมื่อปรึกษาเรื่องการบวชกับหลวงปู่ท่านได้บอกว่า ผู้ที่จะเป็นพระนั้น ใจต้องเป็นพระ บวชจิตให้เป็นพระ ตัวเราก็เป็นพระ โดยท่านสอนเรื่อง“การบวชจิต”ไว้ว่า ขณะกราบพระ ขณะนั่งสมาธิภาวนาก็ให้นึกว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ” - เรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัชฌาย์ “ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ” - เรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ “สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” - เรามีพระอริยสงฆ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวช ชายก็เป็นภิกษุ หญิงก็เป็นภิกษุณี พยายามรักษาใจให้เป็นพระอยู่เสมอ จะมีอานิสงส์สูงเป็นเนกขัมมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ ตื่นมาก็กราบพระ นั่งรถ ทำงาน กินข้าว อาบน้ำ ทำอะไรก็ให้นึกถึงพระ ทำใจให้อยู่ในบุญเสมอ ตามองอะไรก็ให้ได้บุญ มองพระ ดูบทสวดมนต์ หูฟังอะไรก็ให้ได้บุญ ได้ยินใครทำบุญก็อนุโมทนา ไม่ใช่หูผึ่งฟังแต่เรื่องนินทาว่าร้ายกัน ใจอยู่กับบุญไปเรื่อยๆมันจะเบาสบาย อะไรที่ไม่เป็นบุญมันจะไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากกินเหล้าเมายาสร้างบาปกรรมใดๆ พอใจเป็นพระบ่อยๆเข้า กายก็จะค่อยๆเป็นพระไปเอง ต้องเริ่มจากข้างในไม่ใช่ข้างนอก บางคนข้างนอกห่มจีวรเป็นพระแต่ใจเป็นโจร ก็ไม่เรียกว่าเป็นพระ



    ตายแล้วเกิดใหม่ก่อนออกบวช


    แม้หลวงตาจะเป็นฆราวาสแต่ก็บวชใจเป็นพระเรื่อยมา จนกระทั่งประมาณ ๑ ปีก่อนจะออกบวชจริงๆ ขณะที่ท่านขับมอเตอร์ไซด์อยู่ที่อยุธยา รถของท่านก็โดนรถเฉี่ยวจนตัวท่านลอยสูง แล้วตกลงมาหัวโหม่งกับพื้นถนนอย่างรุนแรงจนสลบไป!! หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว หมอบอกว่ากะโหลกของท่านร้าว แต่โชคดีมากที่ไม่มีเลือดคั่งในสมองและไม่มีบาดแผลรุนแรงใดๆเลย เพียง ๓ เดือนกะโหลกก็ประสานกันดีเหมือนเดิม ซึ่งหลวงตาเล่าให้ฟังว่าวันนั้นท่านห้อยเพียงพระและสวมแหวนของหลวงปู่เท่านั้น ต่อมาเมื่ออาการดีขึ้นท่านจึงไปกราบหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ได้บอกว่า “ตายแล้วเกิดใหม่ เอ็งมีชีวิตใหม่แล้ว ชีวิตเก่าตายไปแล้ว นี่คือชีวิตใหม่แล้ว!!”


    บวชพร้อมทั้งกายและใจ


    หลังผ่านอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ผ่านการบวชจิต การศึกษาแนวทางปฏิบัติต่างๆจากหลวงปู่ดู่มาอย่างเต็มภูมิแล้ว หลวงตาก็พร้อมจะบวชเป็นพระทั้งกายและใจ แต่เนื่องจากหลวงปู่ดู่ไม่ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านได้บอกไว้ว่า “เวลาบวชต้องดูอุปัชฌาย์ ถ้าอุปัชฌาย์ไม่เป็นพระ เราก็เป็นพระไม่ได้” หลวงตาจึงได้ไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา โดยมีพระพุทไธศวรรย์วรคุณ (หลวงพ่อหวล) เจ้าอาวาสวัดพุทไธศวรรย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๑ และได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ต่อมาเมื่อยัติเป็นธรรมยุติจึงได้ฉายาว่า "วิริยะธโร"



    หลังจากบวชแล้ว หลวงตาต้องการจะออกธุดงค์เลย แต่หลวงพ่อหวลได้บอกให้อยู่ให้ครบพรรษาก่อน โดยขณะที่จำพรรษาอยู่วัดพุทไธศวรรย์นั้น หลวงพ่อหวลผู้สืบวิชาสายหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช และวิชาเหล็กไหลจากสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ยังจะถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆให้กับหลวงตาด้วย ทั้งที่ปกติท่านไม่เคยถ่ายทอดวิชาให้ใคร แต่หลวงตาก็ขอไม่เรียนเพราะท่านรู้สึกว่าเรื่องของคาถาอาคมมีพิธีกรรมมาก ต้องใช้เวลาเรียนและจดจำมาก และตัวท่านเองก็สนใจแต่การปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดู่เพียงองค์เดียวเท่านั้นมาตลอด



    หลังออกพรรษา หลวงตาก็มากราบลาหลวงปู่เพื่อออกธุดงค์ หลวงปู่จึงมอบเงินให้หลวงตาไว้ ๕oo บาท รวมทั้งของใช้จำเป็นต่างๆ และได้ หันไปหยิบ “รูปหล่อหลวงปู่ดู่เนื้อปูน” มาให้ ๑ องค์ แล้วบอกหลวงตาว่า “เอ็งไปไหน ข้าไปด้วย... หากสงสัยอะไรในการปฏิบัติให้แกถามเอาจากพระองค์นี้!!”



    พระของหลวงปู่วิ่งได้ พูดได้ พระของหลวงตาก็ดิ้นได้เหมือนมีชีวิต


    หลายท่านอาจสงสัยว่า พระที่หลวงปู่ให้มานั้นเป็นพระปูนไม่มีชีวิต จะพูดบอกตอบคำถามของหลวงตาได้อย่างไร แต่ในลูกศิษย์สายหลวงปู่ดู่นั้นทุกคนจะรู้ดีว่า “พระของหลวงปู่มีชีวิต!” ดังที่หลวงตาเคยเล่าว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่นำพระมาใส่ในกะละมัง แล้วให้ลูกศิษย์ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นซึ่งมีหลวงตาอยู่ด้วย ช่วยกันหลับตาอธิษฐานจิตปลุกเสกพระ ทุกคนก็หลับตาแล้วสักพักก็ได้ยินเสียงดัง‘โกรกกรากๆ..’ ทุกคนก็นึกว่าหลวงปู่เอามือลงไปกวนในกะละมังเลยไม่ได้สนใจอะไร ต่อมาลูกศิษย์คนหนึ่งที่อยู่ในตอนนั้นได้มาเล่าให้ฟังว่า ตอนได้ยินเสียงนั้นเขาแอบลืมตาดู ปรากฏว่าหลวงปู่ไม่ได้เอามือลงไปกวน ท่านเพียงเอามือจับกะละมัง แต่พระที่อยู่ข้างในกลับวิ่งวนไปมาจนเกิดเสียงดัง!! พอท่านหันมาเห็นว่าเขาแอบดู ท่านเลยทำมือจุ๊ปากห้ามไม่ให้เล่าให้ใครฟังจนท่านมรณภาพไปแล้วจึงได้มาเล่าให้ฟังทีหลัง”


    เมื่อหลวงตาเล่ามาถึงตรงนี้ ก็ทำให้ผู้เขียนอดนึกถึงเรื่องอัศจรรย์ที่ได้เจอจากพระที่หลวงตาท่านแจกให้ไม่ได้ ตอนได้พระมาใหม่ๆ ด้วยนิสัยไม่เชื่ออะไรง่ายๆจนกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริง ผู้เขียนจึงเอาพระมาลองกำทำสมาธิดู ก็รู้สึกเหมือนมีกระแสพลังงาน ที่เบาสบายวิ่งผ่านจากพระเข้ามาในตัว ทำให้นั่งภาวนาได้สงบดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่พอจิตนิ่งสงบดีได้สักพักผู้เขียนก็ต้องตกใจ... เพราะพระที่กำไว้ในมือนั้น เกิดอาการดิ้นไปมาได้!! พอลองลืมตาดูก็หยุดไป ในใจก็สงสัยว่าคงคิดไปเอง แต่พอหลับตากำพระทำสมาธิต่อสักพัก พระก็เริ่มดิ้นอีก คราวนี้ดิ้นแรงกว่าเดิมจนได้ยินเสียงดัง‘ แกร๊กๆ..’ ซึ่งเป็นเสียงพระ ๒ องค์ที่กำไว้กระทบกัน!! หลังจากนั้นพระก็ยังดิ้นๆหยุดๆอยู่อีกหลายครั้งจนผู้เขียนมั่นใจว่าไม่ได้ คิดไปเองแน่ๆ และเมื่อนำเรื่องพระดิ้นได้มาเล่าให้ลูกศิษย์หลวงตาฟัง กลับไม่มีใครมีท่าทีตื่นเต้นเลยเพราะทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา มีหลายคนเคยนำพระของท่านไปกำทำสมาธิแล้วพระเกิดดิ้นได้เช่นนี้เหมือนกัน เมื่อรู้เช่นนั้นผู้เขียนจึงลองนำพระของหลวงตาไม่ว่าจะเป็นพระเนื้อผง เหรียญรุ่นต่างๆ หรือแม้แต่ “เหรียญดวงโพธิญาณ กำลังแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเหรียญโลหะหล่อที่ข้างใต้อุดผงต่างๆมากมาย มีน้ำหนักพอสมควร มาลองกำทำสมาธิดูก็พบว่าเมื่อใจสงบเบาสบายดีแล้ว พระจะดิ้นไปมาได้ทุกองค์จริงๆ (อย่าเพิ่งเชื่อผู้เขียนจนกว่าจะได้ลองปฏิบัติจนเห็นจริงด้วยตนเอง)


    เมื่อนำเรื่องพระดิ้นได้มาถามหลวงตา ท่านก็ยิ้มและบอกว่า “พระของหลวงปู่หลวงตา ดิ้นได้ พูดได้ทุกองค์!!” เพราะเวลาอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ท่านจะอาราธนารวมกำลังบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ทั้งปวง เทพพรหมทั่วสามแดนโลกธาตุ บุญบารมีของท่านทั้งหมด ให้มารวมกำลังกันเป็นกระแสพลังเหนือพลัง ผ่านพระคาถามหาจักรพรรดิลงไปสู่พระเครื่องทุกองค์ และยังได้อธิษฐานจิตด้วยวิชา “ภูตพระพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นวิชาพิเศษในสายหลวงปู่ดู่ ที่ทำให้วัตถุมงคลของท่านทุกองค์สามารถดิ้นได้ พูดได้ ราวกับมีชีวิต โดยเฉพาะกับผู้ที่หมั่นนำไปกำภาวนาจนจิตเกิดความสงบเบาสบาย และสามารถจูนพลังงานจิตของตนให้เข้ากับพลังเหนือพลังที่หลวงปู่หลวงตาได้อธิษฐานไว้ในพระได้แล้ว


    ขณะที่ท่านผู้อ่านกำลังนึกสงสัยอยู่ว่า “พระของหลวงปู่หลวงตามีชีวิต ดิ้นได้ พูดได้ จริงหรือ? หลวงตาตามกระแสหลวงปู่จนไปเจอถ้ำเมืองนะได้อย่างไร? ถ้ำนี้เกี่ยวพันกับหลวงปู่หลวงตาอย่างไร? หลวงตาเริ่มสร้างพระตามแนวทางหลวงปู่ดู่ด้วยเหตุใด?...” อย่านั่งสงสัยอยู่เฉยๆ หากมีโอกาสลองขึ้นไปกราบหลวงตาที่ถ้ำเมืองนะ ขอพระผงจักรพรรดิพร้อมประคำที่ท่านจะแจกให้เมื่อไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำมาลองกำ ทำสมาธิพิสูจน์ดูด้วยตนเอง หรือหากไม่มีโอกาสไป ก็ร่วมทำบุญบูชา “เหรียญดวงโพธิญาณ กำลังแผ่นดิน” ซึ่งหลวงตาได้อธิษฐานจิตรวมกระแสบุญบารมีพลังเหนือพลังอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ไว้อย่างสมบูรณ์พร้อมที่สุด (ดูรายละเอียดได้จากวัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่ บารมี หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงตาม้า พระผง บทสวด จักร) โดยปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ที่ร่วมทำบุญนี้ เข้าสมทบกองทุนพุทธพรหมปัญโญเพื่อใช้ในงานบุญต่างๆของทางวัด ใช้สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้เป็นทุนการศึกษากับเด็กนักเรียน รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างพระผงจักรพรรดิเพื่อแจกแก่ผู้สนใจนำไปใช้ ฝึกสมาธิภาวนาต่อไป ได้ทั้งพระที่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนมีชีวิตไว้บูชา ได้ทั้งร่วมบุญสร้างพระไว้แจกแก่ผู้ปฏิบัติธรรมและเมื่อนำพระไปกำภาวนา ท่านยังอาจได้พบประสบการณ์อันอัศจรรย์อีกมากมายที่จะรู้ได้ด้วยตนเอง และอาจได้รู้คำตอบที่สงสัยอยู่ในใจตอนนี้ทั้งหมดโดยไม่ต้องรอคำเฉลยหรือตอนต่อไป เพราะกระแสคำตอบทุกอย่างได้ถูกบรรจุอยู่ในพระทุกองค์ที่ท่านทำบุญบูชาไปแล้ว เหลือเพียงท่านจะลองหมั่นสวดมนต์ภาวนา ทำจิตอยู่กับพระอย่างเบาสบาย จนเปิดล็อคทุกคำตอบที่อยู่ในพระที่หลวงตาท่านตั้งใจอธิษฐานจิตปลุกเสกนี้ได้ เมื่อใดเท่านั้น
     
  15. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342
    วันนี้ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่ดู่ ที่วัดสะแก มาครับ

    เลยเอาบุญมาเผื่อให้ลูกหลาน หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ทุก

    ท่านนะครับ ร่วมกันอนุโมทนาบุญนะครับ





    (เป็นครั้งแรกเลยครับที่ได้มีโอกาสไปวัดสะแก แต่รู้จัก ศรัทธา และสวดคาถาจักรพรรดิมาได้ 2-3 ปีแล้วครับ )







    วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : รวมคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     
  16. sora2520

    sora2520 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +342





    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล อนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447
    [​IMG]


    พระของข้า ไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดิน
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: #351004 2px solid; BORDER-LEFT: #351004 2px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-TOP: #351004 2px solid; BORDER-RIGHT: #351004 2px solid; PADDING-TOP: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700 jQuery1330196516998="14"><TBODY jQuery1330196516998="13"><TR jQuery1330196516998="12"><TD class=content colSpan=2 jQuery1330196516998="11" sizset="2" sizcache="0">ตำนานพระกำลังจักรพรรดิ์


    </TD></TR><TR jQuery1330196516998="26"><TD class=content vAlign=top width=650 colSpan=2 align=middle jQuery1330196516998="25" sizset="3" sizcache="0">


    [​IMG]

    ตำนานพระกำลังจักรพรรดิ์

    การสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงมหาจักรพรรดิ์สูตรหลวงปู่

    ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุเห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด "พระพุทธเจ้าเหนือพรหม"นี้ ลป.ดู่ท่านได้หยิบยกพระพุทธตำนานตอนหนึ่ง ซึ่งเป็นพระตำนานที่อยู่ในบทสวดพระคาถาพาหุงบทที่แปดว่า

    "ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
    พหรมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ"

    ...พระคาถาบทพาหุงบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่คิดว่าตนเอง มีอิทธิฤทธิ์มากและมีความอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะ...เริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง๓ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอ หาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพหรมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าว ผกาพรหมลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า "พระพรหม"...การนำบทสวดมหาจักพรรดิมาใช้ในการสร้างพระหลวงปู่ดู่ท่านเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังถึงการปลุกเสก หรืออธิษฐานจิตในวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกว่า "นอกจากการใช้พลังจิตในการปลุกเสกแล้ว ที่ท่านใช้อยู่เสมอคือ บทสวดมนต์ตามเจ็ดตำนาน" ซึ่งท่านบอกว่า ดีกว่าคาถาอาคมมากมาย เพราะเป็นเรื่องราวของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้น ไม่จัดเป็นเดรัจฉานวิชชา โดยบทที่ท่านสวดทำทุกครั้งคือ บทพระพุทธเจ้าทรมานพญาชมพูบดี หรือที่เรียกกันว่า "บทชมพูปติสูตร"ซึ่งแสดงถึงอำนาจหรือบารมีของพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูของมนุษย์และ เทวดาทั้งปวง แสดงถึงธรรมที่ชนะอธรรม


    [​IMG]


    พุทธคุณที่หลวงปู่ดู่หลวงตาม้า ท่านนำมาใช้ในการสร้างพระ

    ลป.ดู่ ท่านเรียกพระคาถาบทนี้ว่า "คาถามหาจักรพรรดิ" โดยทั้งนี้ในการปลุกเสกหลวงปู่ ท่านอารธนากำลังของบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ท่านอันเป็นที่สุด โดยน้อมนำอารธนา บารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมพระเจ้าจักรพรรดิตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุด



    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ

    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา

    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา

    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง

    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย

    อะหังวันทามิ สัพพะโส

    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    บรรดาลูกหลานวงษ์วานว่านเครือต่างทราบกันดีใครมีไว้ใช่ป้อง กันอันตรายอย่างเดียวที่ไหนหลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านรับรองกับลูกศิษย์ท่านว่า
    "พระหลวงปู่ดู่ ป้องกันนิวเคลียร์ได้"

    หลวงตาม้า ท่านเมตตาบอกว่า พระหลวงปู่ ป้องกันโรคระบาดและป้องกันไข้หวัดนกได้ให้ใส่ไว้

    [​IMG]

    ส่วนผสมในมวลสารของเนื้อพระ

    ในส่วนผสมมวลสารของเนื้อพระพุทธเจ้าเหนือพรหมที่ลป.ดู่ท่านนำมาจัดสร้าง ท่านจะนำผงพุทธคุณ(ผงมหาจักรพรรดิ์)ผสมกับปูนขาวใส่เกศาผสมลงโดยใช้น้ำเป็นตัวประสานผสมจนได้ที่แล้วจึงนำเนื้อมวลสาร ทลงในแบบพิมพ์ เวลาแห้งเนื้อพระด้านหลังจะเป็นคราบลอยเหมือนหัวกระทิ ลักษณะของเนื้อพระจะไม่แน่นตัวนัก เนื้อจะฟูๆ พระพิมพ์นี้ สามารถแบ่งโซนหลักของเนื้อพระได้๒วรรณะคือ สีขาวนวล และออกสี เหลืองเนื่องจาก ลป.ดู่ท่านนำไปแช่ในน้ำชาท่ท่านเสก หรือที่ลป.ดู่ท่านมักจะเรียกว่าน้ำมนต์นั้นเอง ส่วนการทำผงจักรพรรดินั้นหลวงปู่จะทำภายในกุฎิท่านโดยมีกรรมวิธีการสร้างซึ่งเป็นวิชาขั้นสูง ส่วนพระผงจักรพรรดิยุคปัจจุบันที่ทำและสร้างโดยหลวงตาม้านิยมนำเถาพระธาตุปลวงปู่หรือเกศาหลวงปู่ดู่หรือหลวงตาม้ามาเป็นมวลสาร ด้วยในรุ่นพิเศษบางรุ่นแต่โดยปกติมวลสารหลักก็คือผงจักรพรรดินั้นเอง



    สูตรหลวงปู่ดู่ที่ท่านหลวงตาม้าสร้าง

    วิชาในการสร้างพระผงจักรพรรดินั้นหลวงปู่ดู่ ได้สอนท่านหลวงตาม้าและ ในปัจจุบันนี้ท่านหลวงตาเป็นผู้ทรงวิชา สร้างพระผงจักรพรรดิไว้ ความรู้เกี่ยวกับพระผงจักรพรรดิ

    พระผงจักรพรรดิสูตรหลวงปู่ดู่หลวงตาม้ามีพุทธคุณอย่างไร?

    พระผงจักรพรรดิประโยชน์มากโดยเป็นพระที่ใช้ใน การทำกรรมฐานและบูชาติดตัวเพื่อคุ้มครอง เป็นศิริมงคลแก่ตนเองและเป็นพลังงานบุญ แก่ภพภูมิโดยรอบ หลวงปู่ดู่กล่าวไว้ว่าพระรุ่นนี้ที่มีผงจักรพรรดิ ของท่านป้องกันนิวเคลียร์ได้
    พระรุ่นนี้เหมาะสมเป็นอย่างมากในการเจริญกรรมฐาน หลวงปู่ดู่สมัยที่ท่านยังทรงธาตุขันธ์ อยู่ท่านสร้างพระผงออกมาเพื่อให้ ลูกศิษย์ได้ใช้ในการเจริญพระกรรมฐานให้ ก้าวหน้าได้โดยไวโดยเป็นการใช้พลังจากองค์พระ ในเนื้อพระผงจักรพรรดิของหลวงตาม้าทุกรุ่นบรรจุมวลสาร ผงจักพรรดิหลวงปู่ดู่ที่ท่านหลวงตาท่าน ได้รับมาจากหลวงปู่ดู่โดยตรง และช่วงไหนสวดมนต์นั่งสมาธิแผ่บุญ แผ่เมตตาสม่ำเสมอบุญจะเกิดที่ตัวเราดีมากยิ่งขึ้นครับทั้งพระธาตุบน องค์พระจะขึ้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย (พระผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ขึ้นพระธาตุทุกองค์) หลวงตาเคยเมตตากล่าวให้ฟังว่าพระที่ท่านทำขึ้นมาชุด นี้เป็นพระกำลังของพระโพธิสัตว์จึงมีพุทธคุณและ กำลังบารมี 10 เข้มข้นนำไปใช้ประโยชน์ในด้านกุศลได้ร้อยแปดพันเก้า หากนำไปบูชาก็จะเป็นการทำให้ภพภูมิเทวดาผีสางสัมภเวสีที่ผ่านไป ผ่านมารับกระแสตรงนี้เข้าไปปรับให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยนอก (โดยการกำพระขอกำลังพระ/หลวงปู่สวดจักรพรรดิแล้วน้อมบุญไป) นอกนั้นยังมีพุทธคุณเข้มสำหรับการเจริญภาวนากรรมฐาน โดยการเอามากำก่อนนั่งสมาธิแล้วกำหนดจิตเข้าไปที่องค์พระ จะทำให้ภาวนาได้ง่ายขึ้นเพราะมีพลังงานจากองค์พระมาเสริมที่ ดวงจิตด้วยจากนั้นจึงไปทำสมาธิในแบบที่ท่านถนัดโดยเป็นวิธีการที่นิยมกันในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่เรื่อยมาจนถึงหลวงตาม้า ในปัจจุบันและหากนำพระไปแช่น้ำก็สามารถทำเป็นน้ำมนต์รักษา โรคหรือเป็นศิริมงคลแก่ตนก่อนออกไปดำเนินชีวิตก็ยังได้ หากนำพระไปแช่น้ำก็สามารถทำเป็นน้ำมนต์ รักษาโรคหรือเป็นศิริมงคล แก่ตนก่อนออกไปดำเนินชีวิตก็ยังได้ อฐิษฐานเอาโดยใช้คาถาจักรพรรดิ ยังไงก็ให้ตั้งอยู่ในความดีไว้ด้วย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งและศีล5เป็นฐาน จะช่วยให้เราทรงในความดี และพุทธคุณช่วยเราได้เต็มที่




    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เครดิต
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  19. moddang

    moddang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,460
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ในเรื่องโลกวิญญาณ หลวงตาท่านเก่งจริงครับ ผมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ สมัยนี้ เกจิ จัดตั้ง เกจิศิษย์ดัน มีเยอะครับ สำหรับหลวงตา ทดลอง ทดสอบ มาหลากหลายแล้ว มั่นใจอาราธนาพระหลวงตาได้สนิทใจครับ
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447

แชร์หน้านี้

Loading...