เขี้ยวแก้ว พระอาจารย์กล่าวว่า "#มีบุคคลบางประเภทที่จะมีเขี้ยวขึ้นที่เพดานปาก โบราณเรียกว่าเขี้ยวแก้ว #ถือว่าเป็นของเฉพาะตัว อาตมาเองก็ไม่รู้หรอก ตอนเด็ก ๆ ตกใจว่าทำไมฟันขึ้นที่เพดานปาก ไม่เหมือนชาวบ้านเขา พอฟันน้ำนมตรงเขี้ยวหลุด ซี่นี้ค่อย ๆ เลื่อนมาแทนเขี้ยวที่หลุดไป เออ...เขาก็หาที่ลงของเขาได้เหมือนกัน #พอวัยรุ่นซ้อมมวยกับพระครูแสง ตอนนั้นก็ยังวัยรุ่น ศึกษาวิชาการสารพัด ศึกษามวยไทยหมัดเท้าเข่าศอกแถมศีรษะด้วย ออกอาวุธกันอุตลุด พระครูแสงเป็นคนชอบประยุกต์ ที่เขาศอกกลับลักษณะปลาดุกยักเงี่ยง แกไม่ทำหรอก แกหมุนตัวตีจากล่างขึ้นบนลักษณะที่เขาเรียกศอกสอยมะม่วง #อาตมาเองเห็นเข้าแต่กันไม่ทันแล้ว ไขว้มือกันไม่ทัน เพราะถ้าไม่ได้รับตั้งแต่ต้น น้ำหนักมือไม่พอที่จะกดศอกเขาอยู่ #เขาก็ตีผ่าเข้าปลายคางพอดี ด้วยความที่รับไม่ทัน ฟันล่างกระทบฟันบน #เขี้ยวบิ่นไปหน่อย เลยเหลือเขี้ยวแก้วบิ่น ๆ อยู่ระยะหนึ่ง #จนกระทั่งไปหาหมอฟันให้เขากรอให้" "พระที่รู้จักมีอยู่รูปหนึ่ง คือ #หลวงปู่กาหลง #เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลมทางปราจีนบุรี#ท่านบอกว่าวัตถุมงคลของท่านเอาปืนไปลองได้เลย เพราะท่านจับเขี้ยวแก้วเสกทุกครั้ง #มั่นใจเรื่องอยู่ยงคงกระพัน อาตมาเป็นทหารก็อยากลองอยู่แล้ว ตอนเป็นทหารอยู่ที่วัฒนานคร ๓ เดือน อยู่ที่อรัญประเทศ ๓ เดือน อยู่ที่ตาพระยาเกินระยะกำหนดคืออยู่ไป ๕ เดือนกว่า เพราะการรบติดพัน เปลี่ยนกำลังพลไม่ได้ #ทางนั้นมีพระท่านมั่นใจว่าของเขาดีจริง แบกปืนไปลองได้เลย #อาตมาก็ไป #ปรากฏว่าราคาตะกรุดของท่านแพงมาก สมัยนั้น ๘๐๐ บาท แพงก็แพงวะ #ถ้าเหนียวจริงก็เอา ขอลองหน่อย #เปรี้ยงเดียวเกือบขาดครึ่ง...! อาตมาลืมไปว่าหลวงปู่มีเขี้ยวแก้ว #อาตมาก็มี #และที่มีมากกว่าหลวงปู่คือลายมือคัดของ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า #ลายมือแบบนี้เหนียวแค่ไหนก็ยิงออก หลวงปู่กาหลงเลยเสียของฟรี ๘๐๐ บาทก็ไม่ได้ แต่ว่าตะกรุดดอกนั้นอาตมาเก็บกลับมา จนกระทั่งไปเจอวัดที่เขาหล่อพระ ก็หย่อนลงเบ้าหล่อพระไปด้วย ของท่านอาจจะดีจริง #แต่ไปเจอคนที่บ้าเกินชาวบ้านเลยกันไม่ได้" "หลวงพ่อวัดท่าซุงสมัยที่ท่านขึ้นจากเรือรบแล้ว เพราะเรือไปโดนฝรั่งเศสยิงจมที่เกาะช้าง ท่านไม่มีเรือประจำการ #ทางด้านกรมตำรวจเห็นว่าหลวงพ่อ ๓ #ท่านมีฝีมือ ก็ขอตัวจากทหารเรือข้ามเหล่ามาเป็นมือปราบให้กับทางกรมตำรวจ #หลวงพ่อท่านมีคาถาคัดของ ผู้ร้ายต่อให้เหนียวแค่ไหนก็ยิงออก #อาตมาเรียนมาก็จริงแต่ไม่เคยใช้ หลวงพ่อท่านบอกว่า #ท่านมีลายมือคัดของด้วยและมีคาถาคัดของด้วย ไปเจอผู้ยิ่งใหญ่ที่อยุธยา #คนนี้ไม่ใช่โจรแต่เท่ากับเป็นคนสนับสนุนโจรทั้งหลาย ก็คือถ้าโจรขโมยควายบ้านไหนไป ก็จะมาบอกกับเขาไว้ว่าเอาไปไว้ทางด้านไหน ถ้าเจ้าทรัพย์มาตาม ให้บอกว่าเอาค่าไถ่เท่าไร ถ้าเขายอมจ่ายค่าไถ่ก็ให้บอกว่าเอาควายไปซ่อนไว้ที่ไหน #กลายเป็นว่าตัวเองไม่ใช่โจรแต่เป็นเจ้าพ่อโจรเลย ตำรวจจะปราบก็ทำไม่สำเร็จเพราะไม่ว่าจะหลับจะตื่น จะยืนจะนั่ง #ยิงเขาไม่ออกทั้งนั้น พ่อเจ้าประคุณก็ไม่มีอะไรหรอก ถือดาบอยู่บนชานเรือน กวักมือเรียก แน่จริงให้ขึ้นมา ตำรวจกูก็จะฟันให้ขาด ๒ ท่อน แล้วตำรวจที่ไหนจะขึ้นไปเล่า ? กรมตำรวจเห็นหมดท่า #ก็ไปขอให้หลวงพ่อไปช่วยจัดการให้หน่อย หลวงพ่อท่านไป เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าคนนี้ฆ่าไม่ได้ จึงอยากได้ตัวมาใช้งาน" "พอไปที่รั้วบ้านก็มีเสียงตะโกนถามว่า "ไอ้หนูมาทำไมวะ ?" หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "#ขอเลือดลุงเซ่นปืนหน่อย" เล่นเอาเจ้าพ่อหัวเราะ บอกว่า "ถ้ามึงยิงกูให้เลือดออกได้แค่แมลงวันกินอิ่ม จะให้กูทำอะไรกูก็ยอม" หลวงพ่อท่านบอกว่า ตามบุญกุศลที่รักษาเขา อย่างไรเราก็ฆ่าเขาไม่ได้ แต่ถ้ายิงให้เลือดออกนี่ได้ หลวงพ่อท่านก็ชักปืนยิงเฉียดสะโพกไปแค่เลือดออก เจ้าพ่อก็เลยต้องยอมวางดาบกราบ เขาบอกว่าเขายอมตั้งแต่ยิงออกแล้ว ไม่ต้องให้เลือดออกก็ยอม เพราะปกติแล้วไม่มีใครยิงออก จะหลับจะตื่นยิงไม่ออกทั้งนั้น หลวงพ่อก็เลยชวนให้เป็นข้าราชการตำรวจ ปราบบรรดาเสือปล้นแทน เพราะว่ารู้เส้นสายดีที่สุด เป็นตำรวจขึ้นมา พูดคำเดียวลูกน้องก็ต้องเลิกปล้น ถ้าไม่เลิกก็เจอกับลูกพี่ตัวเอง ตอนหลังจำได้ว่าได้ราชทินนามเป็นร้อยตำรวจเอกขุนบำราบปรปักษ์ ก็ถือว่าเป็นนายตำรวจมือดีของทางกรมตำรวจทีเดียว ตรงจุดนี้หลวงพ่อท่านบอกว่า นอกจากใช้คาถาแล้วท่านยังมีลายมือคัดของด้วย ส่วนอาตมาเองก็ลืมไปว่าตัวเองมีเขี้ยวแก้วแบบหลวงปู่กาหลง แล้วยังมีลายมือคัดของอีกด้วย หลวงปู่ก็เลยเสียของฟรี ส่วนอีกท่านหนึ่งคือครูบาอาจารย์ของครูบาอาจารย์ คือหลวงปู่โหน่ง วัดคลองมะดัน หลวงปู่โหน่งมีเขี้ยวแก้วขึ้นที่เพดานเหมือนกัน ตอนแรกไม่มีใครรู้หรอก พอท่านอายุมากแล้วฟันเริ่มหลุด ฟันคลอนก็ปวด ก็ขอให้พระลูกวัดช่วยถอนฟันให้ พอท่านอ้าปากให้ถอนพระลูกวัดเห็นถามว่า "อะไรที่เพดานปากหลวงพ่อ ?" เลยโดนหลวงพ่อโหน่งตบกบาลบอกว่า "หุบปากไว้ อย่าเสือกไปบอกใคร" พระที่ไปถอนฟันให้ท่านบอกว่า เป็นฟันลักษณะเหมือนกับเม็ดข้าวโพดติดอยู่ที่เพดานปาก" พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.(หลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ) เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๑