เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 4 ธันวาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ วันนี้ในกลุ่มไลน์องค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งมีกระผม/อาตมภาพเป็นประธานรุ่นอยู่ มีผู้ส่งภาพฆราวาสสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ไปเปิดการเขียนเส้นต่อลายมืออยู่ในอุโบสถ ให้กับญาติโยมฆราวาสอีกเป็นจำนวนมาก แล้วมีคำถามว่า "การกระทำนี้สมควรหรือไม่สมควรเป็นประการใด ?"

    ในเรื่องของอุโบสถนั้นเป็นพุทธาวาส คือที่อยู่ของพระพุทธเจ้า คือพระพุทธรูปที่เป็นรูปนิมิตแทนองค์ของท่าน เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับท้องพระโรง ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่ไปทำอะไรรุ่มร่ามแบบนั้นถือว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

    คราวนี้การถกกัน วิเคราะห์วิจัยกันในกลุ่มของเพื่อนฝูง แบ่งออกเป็น ๒ ประเด็น ประเด็นแรกคือ "สมควรหรือไม่ ?" ก็ได้กล่าวไปแล้วว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นโทษในการปรามาสพระรัตนตรัย คำว่า ปรามาส เป็นภาษาบาลี แปลว่าลูบคลำ ก็คือไม่จริงไม่จัง เป็นการไม่ได้เคารพพระรัตนตรัยออกจากใจแท้ เป็นตัวขวางมรรคขวางผลไปเลย..!

    ต่อให้ไม่ได้เจตนาที่จะกระทำ แต่การกระทำของท่านก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย แสดงออกถึงสภาพจิตที่หยาบ ไม่สมควรต่อการเข้าถึงมรรคผล ต้องบอกว่า ถ้าสำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว ถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก เพราะว่าทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ทุกข์ยากลำบากไปอีกไม่รู้จบ..!

    ประการที่สองคือ การกระทำของอาจารย์หญิงท่านนั้นมีผลจริงหรือไม่ ? เส้นลายมือของคนเกิดจาก "บุญทำกรรมแต่ง" อย่างที่โบราณว่ามา แม้กระทั่งในเรื่องของโหงวเฮ้งหรือนรลักษณ์ ก็เป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่งมา ก็คือในอดีตเราสร้างอะไรไว้ เราทำอะไรไว้ ก็จะหล่อหลอมมาเป็นตัวเราในปัจจุบันนี้ส่วนหนึ่ง อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ในส่วนของนิยาม ๕ ส่วนนี้จัดเป็นกรรมนิยาม ก็คือการส่งผลให้เป็นไปจากการกระทำดีชั่วของเราเอง

    แม้แต่มหาปุริสลักขณะ หรืออนุพยัญชนะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละอย่าง ก็เกิดจากบุญเก่าที่พระองค์ท่านสร้างสมมาในอดีตชาติจนนับไม่ถ้วน ใครต้องการรายละเอียดว่าแต่ละอย่างนั้นเกิดจากการสร้างบุญอย่างไร ก็ไปดูในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาพุทธวงศ์ ขุททกนิกาย พระไตรปิฎก
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    ในเมื่อเป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่ง ต่อให้เขียนลายมือให้ตาย ถ้าเป็นเรื่องที่บุญไม่ถึง ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเกิดผล แบบเดียวกับที่มีบุคคลซึ่งเชื่อถือในเรื่องของโหงวเฮ้ง หรือนรลักษณ์ อาศัยมีดหมอ ไปให้หมอผ่าตัด เขาใช้ศัพท์ว่าอะไรนะ ? "โมหน้า" โมดิฟายด์ แต่ว่าศัพท์วัยรุ่นเขาบอกไป "ทุบหน้า" มา พอถึงเวลาแล้วบวมฉึ่งเหมือนโดนทุบ..! ให้หมอทำเฉพาะในส่วนที่ดี ๆ เท่านั้น เพื่อจะให้มีโหงวเฮ้งที่ดี ปรากฏว่าเละไม่เป็นท่า..! ก็เพราะว่าไปทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยสร้างเอาไว้ แล้วจะก่อให้เกิดผลดีอย่างที่หวัง ย่อมเป็นไปไม่ได้

    แล้วบางอย่างก็เหมือนกับไปกู้หนี้นอกระบบ ก็คือในเมื่อคุณทำให้นรลักษณ์มีลักษณะแบบนั้น ถึงเวลาอายุเท่านั้นจะต้องได้รับสิ่งดี ๆ แบบนั้น ในเมื่อต้นทุนของตัวเองไม่พอ ถึงเวลารับมา ก็ต้องชดใช้คืนไป สาหัสกว่าการกู้หนี้นอกระบบอีก..! บรรดาท่านทั้งหลายที่ไป "ทุบหน้า" มา หรือว่า "โมหน้า" มา ก็จะไปซาบซึ้งกันเอง

    กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วบางทีก็เสียดาย บางคนจมูกใหญ่ สวยมาก แบบที่โบราณเรียกว่าจมูกสิงโต เป็นลักษณะของบุคคลที่สามารถจะบังคับบัญชา หรือควบคุมลูกน้องจำนวนมาก ให้อยู่ภายใต้อำนาจของตนเองได้ แต่ไปตัดปีกจมูกออกเหลือนิดเดียว เพราะต้องการให้หน้าทันสมัย อยู่ใน "บล็อกนิยม" สรุปว่าลูกน้องเป็นร้อยเตลิดเปิดเปิงไปอยู่ที่อื่นหมด เพราะว่าเจ้านายไปทำลายนรลักษณ์ของตัวเอง..!

    คราวนี้ในส่วนที่กล่าวกันอีกด้านหนึ่งก็คือว่า เจ้าอาวาสรูปนั้นคาดหวังว่าทำแบบนี้แล้วคนจะเข้าวัด คนที่เข้าวัดมา ก็หวังให้เขามาทำบุญ แต่ดูท่าว่าท่านจะคิดผิด เพราะว่าแต่ละคนที่มาก็หวังที่จะให้เกิดสิ่งดี ๆ แก่ตัวเอง อย่างเช่นว่าต่อเส้นวาสนาก็จะได้ร่ำรวย แต่ค่าครูเขาไปให้กับอาจารย์คนเขียน ไม่ได้ให้วัด ถ้าอาจารย์คนเขียนไม่แบ่งให้วัด แล้ววัดจะได้อะไร ?

    และที่แน่ ๆ คนทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้มาด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ไม่ได้เลื่อมใสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด แต่มาเพราะอยากร่ำรวย มาให้เขาต่อลายมือ เขาย่อมไม่มีความสนใจในวัดนั้นอยู่แล้ว พอสมความปรารถนา ก็คือได้รับการเขียนต่อแล้วก็สบายใจ..กลับบ้านได้..!

    กลายเป็นว่าเจ้าอาวาสท่านนั้น นอกจากจะตั้งความหวังไว้ ไม่สมหวังแล้ว ยังกลายเป็นการสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาขึ้นมาอีก เนื่องเพราะว่าอยู่ในลักษณะของการอนุญาตให้โยมเข้ามา ทำในสิ่งที่ขัดต่อคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2023
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    พระพุทธเจ้าสอนให้เราเชื่อกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม เชื่อว่ามนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนามมีกรรมเป็นของตน ใครทำอะไรไว้ ย่อมได้รับผลเช่นนั้น และท้ายที่สุด เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

    อย่างที่บาลีเขาใช้คำว่ากัมมสัทธา คือเชื่อกรรม วิปากสัทธา เชื่อการส่งผลของกรรม กัมมัสสกตสัทธา ก็คือเชื่อการที่ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครทำอะไรก็ได้ผลแบบนั้น

    ท้ายสุดก็คือตถาคตโพธิสัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านรู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง สิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาจึงเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรที่สุด แต่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ทั้งเจ้าพิธีและผู้ไปเข้าพิธี ไม่ได้เชื่อเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไปเชื่อในเรื่องของการฝืนดวง ฝืนกรรม

    ถ้าเราท่านทั้งหลายจะฝืนดวง ฝืนกรรม วิธีที่ดีที่สุดก็คือปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะว่าไตรสิกขา หรือหลักการปฏิบัติทั้ง ๓ ประการนี้ ส่งให้มีอานิสงส์มากเป็นพิเศษ คำว่ามากเป็นพิเศษในที่นี้ก็คือ มากกว่ากองบุญการกุศลอื่น ๆ

    ในเมื่อมีบุญมาก ถ้าหากว่าเรากระทำเอาไว้บ่อย ๆ บุญกุศลที่เราได้รับมีจำนวนมากพอ ก็จะสามารถไปคานกับกรรม หรืออกุศลที่เราทำไว้ได้ ถ้าหากว่าบุญกุศลมีมากกว่า การส่งผลในด้านดีก็ย่อมเกิดขึ้น ถ้าสามารถสร้างกรรมดีเอาไว้ให้ต่อเนื่อง ผลดีก็จะเกิดกับเราอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นวิธีแก้ดวง แก้กรรม เสริมดวง พลิกชีวิตที่ดีที่สุด ยั่งยืนที่สุด เพราะเข้ากับกฎของกรรมที่ว่า "ใครทำอะไรก็จะได้รับผลเช่นนั้น"

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราจะไปต่อลายมือ จะไปเปลี่ยนโหงวเฮ้ง เป็นสิ่งที่หาความยั่งยืนไม่ได้ และอาจจะเกิดโทษ แต่ถ้าหากว่าตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง ส่วนของความดีก็จะส่งผลให้กับเรา และเป็นการที่ส่งผลอย่างยั่งยืน ก็คือถ้ายังเกิดใหม่อยู่ ชาตินี้รับแล้ว ชาติหน้าก็ยังได้รับส่วนของความดีต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพาน

    ดังนั้น..การวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มไลน์ ท้ายสุดก็ลงไปตำหนิเจ้าอาวาสว่า "คิดน้อยไปหน่อย" ทำในสิ่งที่ก่อความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา แลกกับผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่ากับเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนานั่นเอง..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...