เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 กุมภาพันธ์ 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระแรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ (๒) โดยปกติพวกเราก็ออกบิณฑบาตเจริญกรรมฐานอยู่แล้ว ไม่ถือว่ามีอะไรพิเศษ

    หลายท่านคงจะได้ข่าวการแต่งตั้งนายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่พอขึ้นไปปุ๊บ ท่านก็ปรารภว่าจะจัดการกับบรรดาพระภิกษุสามเณรที่เล่นหวย ซึ่งจะว่าไปแล้วกระผม/อาตมภาพก็เห็นด้วย เพราะว่าพระภิกษุสามเณรของเรานั้นไม่สมควรที่จะไปเล่นหวย ซื้อเบอร์

    แม้กระทั่งกฎหมายก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามพระภิกษุสามเณรฟ้องร้องเรียกมรดก มีคำตัดสินของศาลฎีกาที่ระบุไว้ชัดเจนว่า เนื่องจากพระภิกษุสามเณรเป็นนักบวชที่ตั้งใจละแล้วซึ่งกิเลส จึงไม่ควรที่จะไปฟ้องร้องเพื่อมรดก ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครมีปัญหาเรื่องมรดกทางบ้าน จะฟ้องร้อง ก็ต้องสึกหาลาเพศไปก่อน..!

    คราวนี้ในเรื่องของการซื้อหวย ต้องบอกว่าถ้าเป็นความผิดก็คือโลกวัชชะ ก็คือโลกติเตียน เพียงแต่ว่าถ้าพระอุปัชฌาย์อาจารย์เข้มงวด ก็จะไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วแม้แต่พระอุปัชฌาย์อาจารย์หลายท่านก็ซื้อหวยเสียเอง..! แค่นั้นก็ยังดี ยังมีพระภิกษุสามเณรส่วนหนึ่งเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์อีกด้วย..1

    เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในวัดท่าขนุนนี้เอง ก็คือท่านเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัวคนจีน แม่ให้มาบวช เพราะว่าอายุ ๔๐ กว่าแล้วยัง "ไม่เป็นโล้เป็นพาย" แต่ละวันก็เอาแต่เล่นพนันบอล เอาเงินแม่ไปเสียพนันบอลไม่มากหรอก แค่ ๑๐๐ กว่าล้านเท่านั้น..!! มาบวชแล้วก็ยังคงมีความประพฤติเหมือนเดิม กระผม/อาตมภาพจึงต้องให้สึกไป แต่ว่าสึกไปแล้วก็ยังไปอ้างชื่อกระผม/อาตมภาพ เพื่อยืมเงินบรรดาลูกศิษย์หลายรายด้วยกัน แต่ต้องบอกว่าอาจจะโชคดีที่ท่านป่วยตายเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงจะมีคนโดนกันอีกมาก..!

    คราวนี้ในส่วนของหวยนั้น กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นการพนันอย่างหนึ่ง เนื่องเพราะว่าเป็นการเสี่ยงดวง เหมือนลักษณะของการพนันอื่น ๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีบัญญัติเอาไว้ในศีลของพระ แต่ว่าในส่วนของธรรมะก็คือ ไปคลุกคลีอยู่กับอบายมุข คือเล่นการพนัน ก็แปลว่าต่อให้ศีลไม่ขาด ในส่วนของธรรมะก็บกพร่อง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    หลายต่อหลายครั้งที่กระผม/อาตมภาพเดินผ่านแผงขายหวย แม่ค้าร้องเรียกให้ช่วยซื้อหน่อย กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ซื้อไม่ได้ เพราะว่าถ้าซื้อเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดเลย..!" เขาก็ยังถามอีกว่า "อยู่วัดไหน ? ทำไมเจ้าอาวาสถึงได้โหดขนาดนั้น..!" ก็ปล่อยโง่ต่อไป..!

    คราวนี้หลายท่าน ถ้าหากว่าไปวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะวัดใหญ่ ๆ ก็จะเห็นว่า มีการจัดให้ญาติโยมตั้งแผงขายล็อตเตอรี่เป็นร้อย ๆ แผงก็มี..! แล้วส่วนหนึ่งก็เป็นคนพิการอีกด้วย กระผม/อาตมภาพก็เลยไม่มั่นใจว่า พระภิกษุสามเณรที่ซื้อหวยนั้น ซื้อเพราะโลภอยากได้เงินจริง ๆ หรือว่าซื้อเพื่อช่วยเหลือคนพิการ ?

    เพราะว่าด้วยความที่โยมแม่ของ
    กระผม/อาตมภาพเอง เคยขายล็อตเตอรี่มาก่อน บางเดือนเหลือมาก พูดง่าย ๆ ว่าเหลือชนิดที่แทบจะไม่มีกำไรไว้เลี้ยงลูก แต่ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะว่าโยมแม่ก็ถูกหวยจากไอ้ที่เหลือนั่นแหละ ดังนั้น..ถ้าหากว่าเห็นคนพิการขายหวย พระเณรท่านอาจจะสงสาร แล้วไปช่วยเหมาซื้อในส่วนที่เหลือ เพราะว่าเขาขายไม่ได้จริง ๆ เนื่องจากไม่ใช่เลขยอดนิยม ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น แล้วไปจัดการท่าน ก็คงจะต้องคุยกันนานเหมือนกัน..!

    เพียงแต่ว่าในเรื่องของการเล่นหวยนั้น ถ้าจะว่าไปแล้วก็คงจะปรับอาบัติได้แค่ "ไม่เอื้อเฟื้อในพระวินัย" อย่างหนึ่ง กับ "ทำอาการประหนึ่งฆราวาส" อย่างหนึ่ง ซึ่งก็เป็นอาบัติที่เบามาก แต่คราวนี้ถ้าหากว่าจะห้ามกันจริง ๆ ก็แปลว่า ต้องไม่ให้มีการขายหวยภายในวัดด้วย..! ก็จะเดือดร้อนญาติโยมกลุ่มใหญ่มหึมาเลย เพราะว่าแทบทุกวัดสำคัญ จะมีพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปตั้งแผงขายล็อตเตอรี่ ยกเว้นวัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าเจ้าอาวาสรวยแล้ว ไม่เอา "ค่าต๋ง" แล้วในขณะเดียวกันก็ไม่มีนิสัยเล่นหวยอีกด้วย..!

    กระผม/อาตมภาพเคยกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงว่า "หลวงพ่อครับ เล่นหวยผิดศีลไหมครับ ?" หลวงพ่อท่านตอบว่า "ไม่ผิดหรอกลูก แต่มันร้อน..!"
    กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วสะดุ้งเลย เนื่องเพราะว่าซื้อล็อตเตอรี่เมื่อไร ก็ฝันไปก่อนเลยว่าจะถูกหวย ถ้าถูกแล้ว เราจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง ? คิดฟุ้งซ่านล่วงหน้าไปใหญ่โต สภาพจิตก็เลยร้อนรน วุ่นวาย ไม่สงบ ทันทีที่ได้ยินท่านว่าอย่างนั้น ก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่า "เราจะเลิกเล่นหวยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

    ก่อนหน้านี้กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้เล่นมาก และไม่เคยเล่นมาก่อนด้วย แต่ว่าปี ๒๕๒๖ น้ำท่วมอยู่เกือบ ๘ เดือน ทำงานไม่ได้ เนื่องเพราะว่าปีนั้นน้ำท่วมใหญ่มาก ปี ๒๕๕๔ ที่เขาบอกว่าน้ำท่วมใหญ่นั้น หนักแค่ไหนไม่รู้ ? รู้แต่ว่าปี ๒๕๒๖ ท่วมสาหัส ที่ทำงานของ
    กระผม/อาตมภาพโดนน้ำท่วมอยู่เกือบ ๘ เดือน..! เพราะว่าทาง กทม.ตั้งกระสอบทรายเป็นกำแพง กั้นเอาไว้ตรงบริเวณสี่แยกศรีนุชในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็คือเส้นคลองตัน - บางนา ซึ่งตัดขึ้นมาใหม่ ห่างจากที่ทำงานแค่ ๒ ป้ายรถเมล์ สูบน้ำจากข้างในออกมา ทางบ้านก็เลยน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา ไม่มีโอกาสที่จะเบาลงไปเลย
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    ในเมื่อไม่ได้ทำงาน ก็ต้องกินบุญเก่า เอาเงินเก็บมาใช้ไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดก็หนักใจ เพราะว่าเงินจะหมดแล้ว..! ปรากฏว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเมตตาให้หวย ความจริงท่านให้แบบที่คนไม่รู้ ? แต่ด้วยดวงกระผม/อาตมภาพที่จะได้เงินก็เลยฟังเข้าใจ เพราะว่าท่านอาจารย์ยกทรง (นายวีระ งามขำ) ท่านมีหน้าที่ถามคำถามต่าง ๆ ที่มีผู้สงสัย แล้วเขียน "จดหมายน้อย" ฝากเอาไว้ พร้อมทั้งรายงานยอดผู้ปฏิบัติมโนมยิทธิว่าได้กันกี่คน

    วันนั้นท่านก็รายงานในช่วงประมาณบ่าย ๒ โมงว่า วันนี้มีผู้ฝึกมโนมยิทธิ สามารถที่จะขึ้นไปกราบพระที่จุฬามณีได้ ๙๘ คน แล้วท่านอาจารย์ยกทรงก็ถามต่อว่า "ออกไหมครับหลวงพ่อ ?" ก็ทำเอาโยมฮากันทั้งบ้านสายลม หลวงพ่อท่านบอกว่า "เอาอย่างนี้สิ เอา ๙๘ ไปจาก ๓๐๐ เหลือเท่าไรหว่า ?" บรรดาญาติโยมทั้งหลายคงตั้งสติไม่ทัน ก็เลยไม่มีใครตอบ หลวงพ่อท่านบอกว่า "ไอ้ขี้หมา..แค่นี้ก็คิดไม่ทัน..!" แล้วท่านก็เปลี่ยนเรื่องไปเลย กระผม/อาตมภาพ ก็คิดว่าเหลือ ๒๐๒

    ด้วยความที่พอช่วยงานที่บ้านสายลมเสร็จแล้ว เนื่องจากว่าเป็นวันอาทิตย์ช่วงบ่าย
    กระผม/อาตมภาพก็มักจะไปดูแลแม่ซึ่งไปพักอยู่ที่บ้านยาย หลังไปรษณีย์บางกอกน้อย จึงนั่งรถไป ผ่านหน้ากองสลาก เพื่อที่จะข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าไปฝั่งบางกอกน้อย พอเห็นกองสลากก็นึกได้ เลยลงรถเมล์ตรงนั้น

    ด้วยความที่เข้าใจว่า ผู้ขายแต่ละรายจะมีสลากอย่างเก่งก็ ๒ เล่ม ก็แปลว่า ถ้ามีเลข ๒๐๒ ก็มีไม่เกิน ๒ ใบ เมื่อเขาถามว่า "พี่จะเอาเลขอะไร ?" ก็บอกไปว่า "๒๐๒" แต่ทำไมปากหลุดไปว่า "มีเท่าไรก็เอา" ก็ไม่รู้ ?!

    ปรากฏว่าพ่อค้าแม่ค้าสะกิดต่อ ๆ กันไปว่า "ใครมี ๒๐๒ รีบเอามา พี่เขาเอาหมดเลย..!" ได้มาปึกเบ้อเริ่ม เกือบจะไม่มีเงินจ่ายให้เขา..! ต้องบอกว่าด้วยความรักศักดิ์ศรี ในเมื่อกูหลุดปากไปแล้ว เขาเอามาให้เท่าไรก็ต้องซื้อ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่งออกไปแล้ว เขาขายไม่ได้ เพราะว่าสมัยก่อนนั้น เลขท้าย ๓ ตัวหมุน ๕ ครั้ง เลข ๒๐๒ เพิ่งออกครั้งที่ ๕ ไป จึงไม่มีใครซื้ออยู่แล้ว..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,414
    คราวนี้เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็โหนรถเมล์ต่อไปที่บ้านยาย แต่น้าบอกว่า "แม่ไปอยู่ที่บ้านกำแพงแสนโน่น" ก็คือไปอยู่กับพี่ชายคนโต จึงนั่งรถเมล์ตามไปหาแม่ที่กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม พอรุ่งขึ้นก็กลับมาพร้อมกับน้องชาย ซึ่งปัจจุบันก็คือพระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ

    ในระหว่างที่อยู่บ้านกับแม่ ก็คุยกันเรื่องซื้อหวย แล้วก็ลืมไป ไม่ได้นึกถึง ปรากฏว่าขากลับ พอโหนรถเมล์ผ่านหน้ากองสลาก น้องชายมองไปบอกว่า "เฮ้ย..พี่ถูกหวยนี่หว่า..!" กระผม/อาตมภาพก็สงสัย แหงนไปมอง ปรากฏว่า ๒๐๒ ออกซ้ำ จากงวดที่แล้วเป็นหมุนครั้งที่ ๕ งวดนี้เป็นหมุนครั้งที่ ๒ ก็เลยได้เงินมาก้อนใหญ่ สามารถอยู่รอดต่อมาได้

    จึงกลายเป็นว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ละงวดก็จะซื้อล็อตเตอรี่ครั้งละ ๑ คู่ ซึ่งถ้าเป็นภาษาพ่อค้าแม่ค้าก็คือ ๒ ใบ เผื่อไว้ว่าบุญพาวาสนาช่วย ก็จะได้ถูกหวยกับเขาอีก แต่เมื่อได้ยินพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกอย่างนั้น จึงตัดสินใจเลิกเสียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ก็แปลว่าไปหลงอบายมุขอยู่ไม่ถึงปี..!

    คราวนี้ถ้าหากว่าพระภิกษุสามเณรของเรายังมีความโลภอยู่แบบนั้น ก็แปลว่า ความเป็นพระเป็นเณรของเรามีน้อย ความเป็นฆราวาสมีมากกว่า จึงต้องระมัดระวังเอาไว้ แล้วโดยเฉพาะถ้าเป็นนโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โอกาสที่ลูกน้องจะปฏิบัติจริงก็มีมาก ใครเผลอไปซื้อให้เขาเห็น อาจจะมีการถ่ายรูป หรือบันทึกเสียงเอาไว้ ความสุขความเจริญอาจจะมาถึงตัวเร็วกว่าที่คิด..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...