ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ออสเตรเลีย



    น้ำท่วมนำจระเข้มาสู่ถนนของออสเตรเลีย
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ออสเตรเลีย



    เห็นจระเข้กำลังปีนต้นไม้ใน Townsville รัฐควีนส์แลนด์


    คำเตือนระวังจระเข้ได้รับการเผยแพร่ในเมือง ประเทศออสเตรเลีย ท่ามกลางระดับน้ำท่วมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


    มีรายงานการพบเห็นจระเข้หลายตัวใน Townsville เนื่องจากน้ำท่วมยังคงเพิ่มขึ้นทั่วทั้งเมือง
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    ใน Chubut Argentina เกิดไฟไหม้มากกว่า 1,550 เฮกตาร์และไม่สามารถควบคุมได้
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ชิลี



    น่าเศร้าที่ไฟไหม้ป่าที่ ยังไม่สามารถรควบคุมได้ ยังคงอยู่ใน mendoza araucanía ชิลี
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ปารากวัย



    มีรายงาน พบทอร์นาโดในตอนบ่ายนี้วันจันทร์ใน Segunda-feira ของCanindeyú ภูมิภาค Nueva Esperanza
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    บราซิล



    การก่อตัวของกรวยน้ำ ใน Lagoa Vermelhar-, บราซิล, ในช่วงบ่ายของวันนี้, 4 กุมภาพันธ์ ดูเหมือนว่าไม่ได้สัมผัสพื้นดินดังนั้นจึงเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถเป็นพายุทอร์นาโด
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    เอกวาดอร์



    การตื่นตกใจ ในห้างสรรพสินค้า the paseo shopping, เมือง Milagro ผู้ซื้อเมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของแผ่นดินไหว
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Michael DiFato


    " นักวิทยาศาสตร์อ้างว่าพวกเขาได้พบกับรูปแบบชีวิตมากกว่า 35,000 รูปแบบเช่นเดียวกับหลักฐานฟอสซิลที่อุดมไปด้วย

    "แต่ ก็ ยังมี มิติ แม่เหล็ก ขนาดใหญ่ อยู่ ด้วย"

    " นักวิทยาศาสตร์คิดว่าสิ่งนี้อาจเกิดจากเปลือกของโลกบางแต่มันอาจจะแสดงถึงเมืองที่หายไปซ่อนอยู่ใต้ทะเลสาบ."


    https://www.express.co.uk/news/science/1082479/nasa-antarctica-anomaly-frozen-city-lake-vostok-spt


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Michael DiFato


    การแพร่ระบาดไวรัส แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ในน้ำพุร้อน 160 องศาในสถานที่เช่นอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ในไวโอมิง


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk


    พันธสัญญาของอับบราฮัม, พันธสัญญาโมเสค และพันธสัญญาใหม่เชื่อว่าทั้งหมดถูกทำในวัน เดียวกันนั้นคือปัสกา


    “ การลงคะแนนเสียง Knesset เพื่อ“ ฟื้นฟูและสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่” เมื่อ 50 ปีก่อนในเทศกาลปัสกาอีฟ วันที่ 1 เมษายน คศ. 1969


    ดาเนียล 9:27

    (คำพยากรณ์เรื่อง 70 สัปดาห์)

    27ท่านจะทำพันธสัญญาอย่างมั่นคงกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ ท่านจะทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่งสัปดาห์ สิ่งน่าสะอิดสะเอียนที่ทำให้ร้างเปล่าตั้งอยู่บนหัวมุมของแท่นบูชา จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้ทำให้เกิดความวิบัตินั้น”





    ----

    ข้อมูลเพิ่มเติมไม่ใช่ของJohn Traczyk


    อะไรคือพันธสัญญาทั้งหลายในพระคัมภีร์ ?


    คำถาม: อะไรคือพันธสัญญาทั้งหลายในพระคัมภีร์ ?


    คำตอบ: พระคัมภีร์พูดถึงพันธสัญญาต่างๆ 7 แบบ พันธสัญญา 4 แบบซึ่ง (ทำกับอับราฮัม ทำกับชาติปาเลสไตน์ ทำกับโมเสส ทำกับดาวิด) พระเจ้าทรงทำกับชนชาติอิสราเอลและในลักษณะที่ไม่มีเงื่อนไข นั่นคือ ไม่คำนึงถึงการเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟังของชนชาติอิสราเอล พระเจ้ายังทรงทำให้พันธสัญญาเหล่านี้ที่ทรงทำกับอิสราเอลสำเร็จ หนึ่งในพันธสัญญาทั้งหลาย พันธสัญญากับโมเสส มีลักษณะเป็นเงื่อนไข นั่นคือ พันธสัญญานี้จะนำทั้งพระพรหรือคำสาปแช่ง ขึ้นอยู่กับการที่อิสราเอลเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟัง พันธสัญญา 3 อย่าง (ที่ทรงทำกับอาดัม ทรงทำกับโนอาห์ พันธสัญญาใหม่) กระทำระหว่างพระเจ้าและมนุษยชาติโดยทั่วไป และไม่จำกัดเฉพาะชนชาติอิสราเอล


    อาจจะคิดว่าพันธสัญญากับอาดัมมีสองส่วน: พันธสัญญาที่สวนเอเดน (บริสุทธิ์) และพันธสัญญากับอาดัม (พระคุณ)


    ปฐมกาล 3:16-19 "พระองค์ตรัสแก่หญิงนั้นว่า ‘เราจะเพิ่มความทุกข์ลำบากขึ้นมากมาย ในเมื่อเจ้ามีครรภ์และคลอดบุตร ถึงกระนั้นเจ้ายังปรารถนาสามี และเขาจะปกครองตัวเจ้า’ พระองค์จึงตรัสแก่อาดัม ว่า "เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคำพูดของภรรยา และกินผลไม้ที่เราห้าม แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความ ทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้า และเจ้าจะกินพืชต่างๆของทุ่งนา เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับเป็นดินไป เพราะเราสร้างเจ้ามาจากดิน เจ้าเป็นผงคลีดิน และจะต้องกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม"


    พันธสัญญาที่สวนเอเดน พบในพระธรรมปฐมกาลด้วย

    ปฐมกาล 1:26-30 "แล้วพระเจ้าตรัสว่า ‘ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน’ พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า ‘จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน’ พระเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด เราให้พืชที่มีเมล็ดทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า ฝ่ายสัตว์ทั้งหลายบนแผ่นดิน นกทั้งปวงในอากาศและบรรดาสัตว์ เลื้อยคลานบนแผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีลมปราณนั้น เราให้พืชเขียวสดทั้งปวงเป็นอาหาร" ก็เป็นดังนั้น"


    ปฐมกาล 2:16-17 "พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า "บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่"


    พันธสัญญาที่สวนเอเดน เป็นโครงเรื่องความรับผิดชอบของมนุษย์ที่มีต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง และพระบัญชาของพระเจ้าเรื่องต้นไม้แห่งความรู้ดีและรู้ชั่ว พันธสัญญาที่ทำกับอาดัม รวมคำสาปแช่งที่ทรงประกาศต่อมนุษย์ชาติ เพราะความบาปของอาดัมและเอวา รวมทั้งแผนการของพระเจ้าที่ทรงเตรียมไว้สำหรับความบาปนั้น


    ปฐมกาล 3:15 "เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของเขาด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงจะทำให้หัวของเจ้าแหลก และเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ"


    พันธสัญญาที่ทรงทำกับโนอาห์เป็นพันธสัญญาที่ไม่มีเงื่อนไข ระหว่างพระเจ้าและโนอาห์ (เป็นพิเศษ) และมนุษยชาติ (โดยทั่วไป) หลังจากน้ำท่วมโลกพระเจ้าทรงสัญญากับมนุษยชาติว่า พระองค์จะไม่ทรงทำลายทุกชีวิตบนโลกด้วยน้ำท่วมอีกเลย (ดูปฐมกาลบทที่ 9) พระเจ้าทรงประทานรุ้งกินน้ำเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา ทรงสัญญาว่ามนุษย์ทั้งโลกจะไม่ประสบกับน้ำท่วมโลกอีก และเป็นเครื่องเตือนว่าพระเจ้าจะทรงพิพากษาความผิดบาป


    2 เปโตร 2:5 "และไม่ได้ทรงยกเว้นมนุษย์โลกครั้งโบราณ แต่ได้ทรงช่วยโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรม กับคนอื่นอีกเจ็ดคน เมื่อคราวที่พระองค์ได้ทรงบันดาลให้ น้ำท่วมโลกของคนอธรรม"


    พัรธสัญญาที่ทรงทำกับอับราฮัม

    ปฐมกาล 12:1-3, 6-7 "พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า ‘เจ้าจงออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดาของเจ้า ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้ เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรแก่เจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า’ อับรามก็เดินผ่านเขตแดนมาถึงสถานที่เมืองเชเคม คือ ที่ต้นก่อหลวง ณ โมเรห์ คราวนั้นคนคานาอันอยู่ที่แผ่นดินนั้น พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ให้ปรากฏแก่อับราม ตรัสว่า "ดินแดนนี้เราจะยกให้พงศ์พันธุ์ของเจ้า" อับรามสร้างแท่นที่นั่นถวายบูชาแก่ พระเจ้าผู้สำแดงพระองค์ ให้ปรากฏแก่ท่าน"


    ปฐมกาล 13:14-17 "เมื่อโลทจากอับรามไปแล้ว พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า "เจ้าจงเงยหน้าแลดูสถานที่ ตั้งแต่เจ้าอยู่นี้ไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ดินแดนทั้งหมดที่เจ้าแลเห็นนี้เราจะยกให้เจ้าและพงศ์พันธุ์ ของเจ้าต่อไปเป็นนิตย์ เราจะกระทำให้เชื้อสายของเจ้ามากเหมือนผงคลีดิน ผู้ใดนับผงคลีดินได้ก็จะนับเชื้อสายของเจ้าได้ เจ้าจงลุกขึ้นเดินเที่ยวไปตลอดดินแดนนี้ให้ทั่วทั้งด้าน ยาวด้านกว้างเถิด ด้วยว่าเราจะยกดินแดนนี้ให้เจ้า"


    ปฐมกาล 15:18-21 "ในวันนั้นพระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า ‘เรามอบดินแดนนี้ให้เชื้อสายของเจ้าแล้ว ตั้งแต่แม่น้ำอียิปต์ไปถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส ทั้งแผ่นดินคนเคไนต์ คนเคนัส และคนขัดโมไนต์ กับคนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนเรฟาอิม คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเกอร์กาชีและคนเยบุสด้วย"


    ปฐมกาล 17:1-14 "เมื่ออายุอับรามได้เก้าสิบเก้าปี พระเจ้าทรงปรากฏแก่อับรามและตรัสแก่ท่านว่า ‘เราเป็นพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ จงดำเนินอยู่ต่อหน้าเราและเป็นคนดีพร้อม เราจะทำพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้า เราจะทวีพงศ์พันธุ์ของเจ้าให้มากขึ้นอย่างยิ่ง’ อับรามก็กราบลงถึงดิน พระเจ้าตรัสแก่ท่านว่า ‘นี่พันธสัญญาของเรากับเจ้า เจ้าจะเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย ชื่อของเจ้าจะมิใช่อับรามอีกต่อไป เจ้าจะมีชื่อใหม่คืออับราฮัม เพราะเราให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย เราจะกระทำให้เจ้ามีพงศ์พันธุ์มากอย่างยิ่ง เราจะกระทำเจ้าให้เป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายองค์จะเกิดมาจากเจ้า เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้ระหว่างเรากับเจ้า และเชื้อสายของเจ้าที่สืบมาตลอดชั่วชาติพันธุ์ของ เขาให้เป็นพันธสัญญานิรันดร์ คือเป็นพระเจ้าแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้าที่สืบมา เราจะให้ดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่นี้ คือแผ่นดินคานาอันทั้งสิ้นแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา ให้เป็นกรรมสิทธิ์นิรันดร์ และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา’ พระเจ้าตรัสแก่อับราฮัมว่า "เจ้าเองก็ดี เชื้อสายของเจ้าที่สืบตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขาก็ดี จงรักษาพันธสัญญาของเรา นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเจ้าจะต้องรักษา ระหว่างเรากับเจ้า และเชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา คือผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุหนัต เจ้าจงเข้าสุหนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของเจ้า นี่จะเป็นหมายสำคัญของพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้า ผู้ชายที่มีอายุแปดวันต้องเข้าสุหนัต คือชายทุกคนตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า เป็นคนที่เกิดในบ้านของเจ้าก็ดี หรือที่เอาเงินซื้อมาจากคนต่างด้าวใดๆ ซึ่งมิใช่พงศ์พันธุ์ของเจ้าก็ดี ทั้งผู้ที่เกิดในบ้านของเจ้า และที่เอาเงินของเจ้าซื้อมาจะต้องเข้าสุหนัต ดังนี้แหละพันธสัญญาของเราจะได้อยู่ที่เนื้อของเจ้า เป็นพันธสัญญานิรันดร์ ชายใดๆที่มิได้เข้าสุหนัต มิได้เข้าสุหนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาต จะต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา เขาได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา"


    ปฐมกาล 22:15-18 "ทูตของพระเจ้าเรียกอับราฮัมครั้งที่สองมาจากฟ้าสวรรค์ว่า ‘พระเจ้าตรัสว่า เราปฏิญาณในนามของเราว่า เพราะเจ้ากระทำอย่างนี้และมิ ได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า เราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ ประชาชาติทั้งหลายทั่วโลกจะได้พรเพราะเชื้อสาย ของเจ้า เหตุว่าเจ้าฟังเสียงของเรา"


    ในพันธสัญญานี้ พระเจ้าทรงสัญญาหลายสิ่งหลายอย่างกับอับราฮัม พระองค์ทรงให้พระสัญญาส่วนตัวอับราฮัมว่า จะทรงทำให้ชื่อของอับราฮัมเลื่องลือไปไกล ให้อับราฮัมมีลูกหลานในโลกนี้มากมาย และว่าท่านจะเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย พระเจ้ายังทรงให้พระสัญญาว่าจะเกิดประเทศที่เรียกว่าอิสราเอล ในความเป็นจริง เขตแดนทางภูมิศาสตร์ในพันธสัญญาที่ทำกับอับราฮัมถูกแผ่ให้เห็นมากกว่าหนึ่งครั้งในพระธรรมปฐมกาล การทรงจัดเตรียมอีกอย่างในพันธสัญญากับอับก็คือว่า ครอบครัวทั้งหลายในโลกจะได้รับพระพรผ่านเชื้อสายของอับราฮัม นี่คือคำอ้างอิงถึงพระเมสสิยาห์ที่จะบังเกิดมาจากเชื้อสายของอับราฮัม


    พันธสัญญากับชาติปาเลสไตน์

    พระราชบัญญัติ 30:1-10 "เมื่อบรรดาเหตุการณ์เหล่านี้ คือพระพรและคำสาปแช่งซึ่งข้าพเจ้ากล่าวไว้ต่อหน้า ท่านมาถึงท่านทั้งหลายแล้ว และท่านทั้งหลายระลึกขึ้นได้ในเมื่อท่านทั้งหลายอยู่ ท่ามกลางประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่ท่านไปนั้น และท่านก็หันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ในทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชา ท่านในวันนี้ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านทั้งหลายจะทรงให้ท่านคืนสู่สภาพเดิม และทรงพระกรุณาต่อท่าน และจะรวบรวมพวกท่านทั้งหลายอีก จากชนชาติทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทรงให้ท่านทั้งหลายกระจายไปอยู่นั้น ถ้ามีคนของท่านที่ถูกขับไล่ไปอยู่สุดท้ายปลายสวรรค์ จากที่นั่นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของ ท่านจะทรงรวบรวมท่านให้มา จากที่นั่นพระองค์จะทรงนำท่านกลับ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านเข้า มาในแผ่นดิน ซึ่งบรรพบุรุษของท่านยึดครองเพื่อท่านจะได้ยึดครอง และพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายจำเริญ มั่งคั่งและทวีมากขึ้นยิ่งกว่าบรรพบุรุษของท่าน แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จะทรงตัดใจของท่านและใจของบุตรหลานของท่าน เพื่อท่านจะได้รักพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงให้คำสาปแช่ง เหล่านี้ตกอยู่บนข้าศึกและศัตรูผู้ข่มเหงท่านทั้งหลาย และท่านทั้งหลายจะฟังเสียงของพระเจ้า อีกและรักษาพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านทั้งหลายในวันนี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของ ท่านจะทรงกระทำให้ท่านจำเริญมั่งคั่งอย่างยิ่ง ในกิจการที่มือท่านกระทำ ในพงศ์พันธุ์ของตัวท่านเอง และในผลแห่งฝูงสัตว์ของท่าน และในผลแห่งพื้นดินของท่าน เพราะพระเจ้าจะทรงพอพระทัยที่จะให้ท่านจำเริญมั่งคั่ง ดังที่พระองค์ทรงปลื้มปีติในบรรพบุรุษของท่าน ถ้าท่านฟังพระสุรเสียงแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยรักษาพระบัญญัติและกฎ เกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือของกฎหมายนี้ ถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมาหาพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน


    พันธสัญญาที่ทำกับชาติปาเลสไตน์ขยายขอบเขตดินแดนนั้น บอกรายละเอียดในพันธสัญญาที่ทำกับอับราฮัม ตามเงื่อนไขทั้งหลายของพันธสัญญานี้ ถ้าประชาชนไม่เชื่อฟัง พระเจ้าจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก แต่ในที่สุดพระองค์จะทรงเรียกพวกเขากลับคืนสู่ประเทศ เมื่อประเทศได้รับการริ้อฟื้นแล้ว พวกเขาจะเชื่อฟังพระองค์อย่างสิ้นเชิง และพระเจ้าจะทรงทำให้พวกเขาเจริญรุ่งเรือง


    พันธสัญญาที่ทรงทำกับโมเสส เป็นพันธสัญญาแบบมีเงื่อนไขว่า พระเจ้าจะทรงประทานพระพรโดยตรงสำหรับการเชื่อฟังพระองค์ หรือจะทรงให้คำสาปแช่งโดยตรงแก่ชนชาติอิสราเอลเพราะการไม่เชื่อฟัง ส่วนหนึ่งของพันธสัญญาที่ทรงทำกับโมเสl เป็นพระบัญญัติสิบประการและบทบัญญัติอื่นๆ ที่เหลือ ซึ่งมีพระบัญชามากกว่า 600 เรื่อง ในเชิงบวกประมาณ 300 เรื่อง และในเชิงลบประมาณ 300 เรื่อง อพยพ 20:3-17 "อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา ‘อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูป เหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชัง เราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุ คน "อย่าออกพระนามพระเจ้าของเจ้าอย่างไม่ สมควร เพราะผู้ที่ออกพระนามพระองค์อย่างไม่สมควรนั้น พระเจ้าจะทรงถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้ ‘จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงาน ใดๆไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพราะในหกวันพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงอวยพระพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์ ‘จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า ‘อย่าฆ่าคน ‘อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา ‘อย่าลักทรัพย์ ‘อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้าย เพื่อนบ้าน ‘อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน" หนังสือประวัติศาสตร์ของพันธสัญญาเดิม (โยชูวา-เอสเธอร์) ให้รายละเอียดว่าอิสราเอลประสบความสำเร็จในการเชื่อฟังพระบัญญัติได้อย่างไร หรือว่าอิสราเอลผิดพลาดอย่างทุกข์ยากในเรื่องการเชื่อฟังพระบัญญัติ


    พระราชบัญญัติ 11:26-28 "อย่างเป็นน่าเศร้าใจ "ดูเถิด วันนี้ข้าพเจ้าได้นำคำอวยพรและคำสาปแช่งมาไว้ ตรงหน้าท่านทั้งหลาย ถ้าท่านกระทำตามพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ท่านก็จะเป็นไปตามพรนั้น ถ้าท่านไม่กระทำตามพระบัญญัติของ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แต่หันเหไปเสียจากทางซึ่งข้าพเจ้า ได้บัญชาท่านในวันนี้ไปติดตามพระอื่นซึ่งท่านไม่รู้จัก ท่านก็จะเป็นไปตามคำสาปแช่งนั้น


    ข้อนี้ให้รายละเอียดบรรทัดฐานแห่งพระพรหรือคำแช่งสาป


    พันธสัญญาที่ทรงทำกับดาวิด

    2 ซามูเอล 7:8-16 "เพราะฉะนั้น บัดนี้เจ้าจงกล่าวแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า 'พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า เราเอาเจ้ามาจากทุ่งหญ้า จากการตามฝูงแพะ แกะเพื่อให้เจ้าเป็นเจ้าเหนืออิสราเอลประชากรของเรา เราได้อยู่กับเจ้าไม่ว่าเจ้าไปที่ไหน และได้กำจัดศัตรูของเจ้าให้พ้นหน้าเจ้า และเราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โต อย่างกับชื่อเสียงของผู้ใหญ่ในโลก และเราจะกำหนดที่หนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเรา และเราจะปลูกฝังเขาไว้เพื่อเขาทั้งหลายจะ ได้อยู่ในที่ของเขาเองและไม่ต้องถูกกวนใจอีก และคนชั่วจะไม่ข่มเหงเขาอีกดังแต่ก่อนมา . ตั้งแต่สมัยเมื่อเราตั้งผู้วินิจฉัยเหนืออิสราเอล ประชากรของเรา และเราจะให้เจ้าพ้นจากการรบศึกรอบด้าน ยิ่งกว่านั้นอีก พระเจ้าตรัสแก่เจ้าว่า พระเจ้าจะทรงให้เจ้ามีราชวงศ์ เมื่อวันของเจ้าครบแล้ว และเจ้านอนพักอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า เราจะให้บุตรชายคนหนึ่งของเจ้าเกิด ขึ้นสืบต่อจากเจ้าผู้ซึ่งเกิดมาจากตัวเจ้าเองและ เราจะสถาปนาอาณาจักรของเขา เขาจะเป็นผู้สร้างนิเวศเพื่อ นามของเราและเราจะสถาปนา บัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์ เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา ถ้าเขากระทำผิดเราจะตีสอนเขาด้วยไม้เรียวของมนุษย์ ด้วยการเฆี่ยนแห่งบุตรมนุษย์ทั้งหลาย แต่ความรักมั่นคงของเราจะไม่พรากไปจากเขาเสีย ดังที่เราพรากไปจากซาอูล ซึ่งเราได้ถอดเสียให้พ้นหน้าเจ้า ราชวงศ์ของเจ้าและอาณาจักรของเจ้าจะดำรง อยู่ต่อหน้าเจ้าอย่างมั่นคงเป็นนิตย์ และบัลลังก์ของเจ้าจะถูกสถาปนาไว้เป็นนิตย์' "


    พันธสัญญาที่ทรงทำกับดาวิดขยายความแง่มุมของ "เมล็ดพันธุ์" ในพันธสัญญาที่ทำกับอับราฮัม พระสัญญาทั้งหลายที่ทรงทำกับดาวิดในเนื้อหาตอนนี้มีความสำคัญ พระเจ้าทรงสัญญาว่าพงศ์พันธุ์ของดาวิดจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ และราชอาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันสิ้นสุดเป็นนิตย์ (ข้อ 16) เห็นได้ชัดว่า ราชบัลลังก์ของดาวิดยังไม่ได้ตั้งมั่นคงตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม จะมีเวลาหนึ่ง เมื่อใครบางคนจากเชื้อสายของดาวิด จะประทับบนบัลลังก์อีกครั้งและปกครองเป็นกษัตริย์ กษัตริย์ในอนาคตองค์นี้คือพระเยซู


    ลูกา 1:32-33 "บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระเจ้าจะทรงประทานพระที่นั่งของดาวิดบรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่าน และท่านจะครอบครองพงศ์พันธุ์ของยาโคบสืบไปเป็นนิตย์ และแผ่นดินของท่านจะไม่รู้จัก สิ้นสุดเลย"


    พันธสัญญาใหม่

    เยเรมีย์ 31:31-34 "พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง ซึ่งเราจะทำพันธสัญญา ใหม่กับประชาอิสราเอล และประชายูดาห์ ไม่เหมือนกับพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำกับ บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย เมื่อเราจูงมือเขาเพื่อนำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเขาผิด ถึงแม้ว่าเราได้เป็นสามีของเขา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับ ประชาอิสราเอลภายหลังสมัยนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เราจะบรรจุพระธรรมไว้ในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขาทั้งหลาย และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา และทุกคนจะไม่สอนเพื่อนบ้านของตน และพี่น้องของตนแต่ละคนอีกว่า 'จงรู้จักพระเจ้า' เพราะเขาทั้งหลายจะรู้จักเราหมดตั้งแต่คน เล็กน้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เพราะเราจะให้อภัยบาปชั่วของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขา ทั้งหลายอีกต่อไป"


    พันธสัญญาใหม่คือพันธสัญญาที่ทรงทำครั้งแรกกับชนชาติอิสราเอล และท้ายที่สุดทรงกับมวลมนุษยชาติ ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงยกโทษบาป และทั่วจักรวาลจะรู้เรื่องของพระเจ้า พระเยซูคริสต์เสด็จมาเพื่อทรงทำให้บัญญัติของโมเสสสำเร็จ และทรงกระทำพันธสัญญาใหม่ระหว่างพระเจ้าและประชากรของพระองค์


    มัทธิว 5:17 "อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ เรามิได้มาเลิกล้าง แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ"


    ตอนนี้เราอยู่ภายใต้พันธสัญญาใหม่ ทั้งชาวยิวและชาวต่างชาติสามารถเป็นอิสระจากการลงโทษของธรรมบัญญัติ ขณะนี้เราได้รับโอกาสที่จะได้รับความรอดเป็นของประทานที่ทรงให้เปล่า


    เอเฟซัส 2:8-9 "ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้"


    ภายในการอภิปรายเรื่องพันธสัญญาตามพระคัมภีร์ มีไม่กี่ประเด็นซึ่งคริสเตียนไม่เห็นด้วย ประเด็นแรก คริสเตียนบางคนคิดว่าพันธสัญญาทั้งหมดนั้นมีลักษณะเป็นเงื่อนไข หากพันธสัญญาเหล่านั้นจะมีเงื่อนไข แล้วอิสราเอลพลาดอย่างน่าเป็นทุกข์ที่จะทำให้มันสำเร็จได้ ผู้อื่นเชื่อว่า พันธสัญญาที่ไม่มีเงื่อนไข ยังไม่ได้ถูกทำให้สำเร็จลุล่วงไปทั้งหมด และโดยไม่คำนึงถึงการไม่เชื่อฟังของอิสราเอล มันจะบรรลุผลสักวันในอนาคต ประเด็นที่สอง คริสตจักรของพระเยซูคริสต์เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาเหล่านี้อย่างไร บางคนเชื่อว่าคริสตจักรทำให้พันธสัญญาเหล่านี้สำเร็จ และพระเจ้าจะไม่ทรงจัดการกับอิสราเอลอีก แบบนี้เรียกว่าทฤษฎีการเข้าทดแทน และมีหลักฐานทางพระคัมภีร์เล็กน้อย คนอื่นๆ เชื่อว่าคริสตจักรในขั้นต้นหรือบางส่วนจะทำให้พันธสัญญาเหล่านี้สำเร็จ ในขณะที่พันธสัญญามากมายที่มีต่ออิสราเอลยังคงอยู่ในอนาคต หลายคนเชื่อว่าคริสตจักรร่วมกันในพันธสัญญาเหล่านี้ในทางใดทางหนึ่ง คนอื่นๆ เชื่อว่าพันธสัญญาทั้งหลายทรงทำเพื่ออิสราเอลและเพื่ออิสราเอลเท่านั้น และว่าคริสตจักรไม่ได้มีส่วนในพันธสัญญาเหล่านี้

    https://www.gotquestions.org/Thai/Thai-bible-covenants.html

    -------



    The Abrahamic Covenant, the Mosaic Covenant and the New Covenant are believed to all have been made on the exact same day, Passover.


    “The Knesset vote to “restore and rebuild Jerusalem” came 50 years ago on Passover Eve, April 1, 1969.


    Daniel 9:27

    And he shall confirm the covenant with many for one week: and in the midst of the week he shall cause the sacrifice and the oblation to cease, and for the overspreading of abominations he shall make it desolate, even until the consummation, and that determined shall be poured upon the desolate.


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Prachachat - ประชาชาติ


    “อัศวิน” ประกาศ กทม.เตรียมรับมือฝุ่นพิษอีกระลอก


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “บิ๊กป๊อก” ชงแนวทางแก้ฝุ่นพิษ กทม.เข้า ครม.วันนี้ เน้นวาง 3 มาตรการระยะเร่งด่วน-มาตรการเสริม เสนอเพิ่มชุดโมบาย หลังเครื่องวัดปริมาณฝุ่นไม่เพียงพอและบางส่วนยังไม่มีคุณภาพ พร้อมเตือนวันที่ 7 และ 13 ก.พ.ปริมาณฝุ่นจะกลับมามีปริมาณมากอีกครั้ง

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    #Earthquake

    วันที่ 5 ก.พ. 2562

    เวลา 02:29 น. ตามเวลาประเทศไทย


    แผ่นดินไหวขนาด Southern Sumatra, Indonesia

    พิกัด(0.37°S,98.08°E)

    ขนาด 5.7 ลึก 9.9 กม.

    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000jda7/executive

    #Watchers


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เท่าที่ทราบ ตอนนี้ไม่น่าจะมีคนทั่วไปเข้าดูข้อมูลจาก Swarm ได้แล้ว

    Watchers



    #Earth #MAGNETICFIELD

    // คุณรู้หรือไม่ว่าโลกมีสนามแม่เหล็กอันที่สอง? นั้นคือ มหาสมุทร //


    สนามแม่เหล็กของโลกเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ลึกลับที่สุดในโลกของเรา นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตตามที่เราทราบกันมา เพื่อสร้างความมั่นใจว่าชั้นบรรยากาศของเราจะไม่ถูกทำลายด้วยลมสุริยะและปกป้องชีวิตบนโลกจากรังสีที่เป็นอันตราย บางครั้งนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งทฤษฎีว่ามันเป็นผลมาจากการกระทำของไดนาโมในแกนกลางของโลกเราซึ่งแกนนอกของของเหลวหมุนรอบแกนกลางที่เป็นของแข็งและในทิศทางตรงกันข้ามกับการหมุนของโลก


    นอกจากนี้สนามแม่เหล็กของโลกยังเกิดขึ้นได้จากปัจจัยอื่น ๆ เช่นหินแม่เหล็กในเปลือกโลกและการไหลของมหาสมุทร ด้วยเหตุนี้ Swarm ดาวเทียมขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ซึ่งได้ตรวจสอบสนามแม่เหล็กของโลกอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการติดตั้งใช้งานได้เริ่มตรวจสอบมหาสมุทรของโลกเมื่อไม่นานมานี้ผลแรกของการประชุมสหภาพธรณีศาสตร์แห่งยุโรปในกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย .


    ภารกิจ Swarm ซึ่งประกอบด้วยดาวเทียมสังเกตการณ์โลก 3 ดวงถูกเปิดตัวในปี 2556 เพื่อให้การตรวจวัดความแม่นยำสูงและความละเอียดสูงของสนามแม่เหล็กของโลก วัตถุประสงค์ของภารกิจนี้ไม่เพียง แต่จะกำหนดว่าสนามแม่เหล็กของโลกสร้างและเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ยังช่วยให้เราเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของโลกและกระบวนการภายใน


    นอกเหนือจากนี้เป้าหมายอีกประการของภารกิจคือการเพิ่มความรู้เกี่ยวกับกระบวนการของบรรยากาศและรูปแบบการไหลเวียนของมหาสมุทรที่ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและสภาพอากาศ มหาสมุทรยังเป็นวิชาที่สำคัญในการศึกษาภารกิจของ Swarm ด้วยวิธีการเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กของโลก โดยทั่วไปเมื่อน้ำเค็มของมหาสมุทรไหลผ่านสนามแม่เหล็กของโลกมันจะสร้างกระแสไฟฟ้าที่ทำให้เกิดสัญญาณแม่เหล็ก


    เนื่องจากสนามแม่เหล็กนี้มีขนาดเล็กมากจึงเป็นการยากที่จะวัด อย่างไรก็ตามภารกิจของ Swarm นั้นสามารถทำได้ในรายละเอียดที่น่าทึ่ง ผลลัพธ์เหล่านี้ซึ่งถูกนำเสนอในการประชุม EGU 2018 ได้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหว (ดังแสดงด้านล่าง) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วง 24 ชั่วโมง


    อย่างที่คุณเห็นอนิเมชั่นแสดงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในมหาสมุทรของโลกตลอดทั้งวันเปลี่ยนจากเหนือจรดใต้และจากความลึกที่ลึกลงไปถึงที่ตื้นขึ้นบริเวณชายฝั่ง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลต่อนาทีในสนามแม่เหล็กของโลกตั้งแต่ 2.5 ถึง -2.5 ไมโครรูต

    เป็นนิลส์โอลเซ่นจากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดนมาร์กอธิบายไว้ในการแถลงข่าว ESA:


    “ เราใช้ Swarm ในการวัดสัญญาณแม่เหล็กของกระแสน้ำจากพื้นผิวมหาสมุทรไปยังก้นทะเลซึ่งทำให้เราเห็นภาพระดับโลกอย่างแท้จริงว่ามหาสมุทรไหลผ่านทุกระดับความลึกได้อย่างไรและนี่เป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากมหาสมุทรดูดซับความร้อนจากอากาศ การติดตามว่าการกระจายและเก็บความร้อนนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ระดับความลึกมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงของเรา นอกจากนี้เนื่องจากสัญญาณน้ำขึ้นน้ำลงยังทำให้เกิดการตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กที่อ่อนแอใต้ท้องทะเล ดังนั้นผลลัพธ์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติทางไฟฟ้าของธรณีฟิสิกส์และแผ่นเปลือกโลกบนโลก "


    โดยการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กของโลกนักวิทยาศาสตร์จะสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการภายในของโลกซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตตามที่เรารู้ ในทางกลับกันสิ่งนี้จะช่วยให้เราเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการทางธรณีวิทยาที่มีรูปร่างดาวเคราะห์อื่น ๆ เช่นเดียวกับการพิจารณาว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นสามารถรองรับชีวิตได้อย่างไร


    อย่าลืมอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ที่อธิบายว่าภารกิจของ Swarm นั้นทำงานได้อย่างไรด้วยความอนุเคราะห์จาก ESA

    https://www.esa.int/spaceinimages/Images/2018/04/Comic_hunting_for_that_elusive_magnetic_signal


    ที่มา/Source: Universe Today - Further Reading: ESA

    แปล-เรียบเรียง #Watchers
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพจำยังชัดเจน

    #PPTVHD36 #PPTVNews #ข่าววันนี้ #กทม #ปัญหา #หมอกควัน #ฝุ่นละออง #มลพิษ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชวนบริจาคเงินสร้างบ้านใหม่ให้ "ชาวมอแกน" และของใช้จำเป็น หลังไฟไหม้วอด

    เครือข่ายชาวเล มูลนิธิชุมชนไทย ชวนร่วมบริจาคของใช้จำเป้น ช่วยเหลือชาวมอแกน หลังไฟไหม้วอดเกือบทั้งหมู่บ้าน พร้อมชวนบริจาคเงินฟื้นฟูสร้างบ้านชาวเลใหม่

    #MGROnline

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UN เผยโสมแดงเตรียมป้องกัน ‘ขีปนาวุธนิวเคลียร์’ ไม่ให้ถูกต่างชาติทำลาย
    เผยแพร่: 5 ก.พ. 2562 14:54 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000001289101.jpg

    รอยเตอร์ - คณะผู้ตรวจสอบสหประชาชาติเผยเกาหลีเหนือได้เตรียมแผนป้องกันเพื่อให้มั่นใจว่าฝ่ายศัตรูจะไม่สามารถทำลายขีปนาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาลงได้

    รายงานล่าสุดของยูเอ็นถูกเผยแพร่ก่อนที่ สตีเฟน บีกัน ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ จะพบปะหารือเจ้าหน้าที่โสมแดงที่กรุงเปียงยางในวันพุธ (6 ม.ค.) เพื่อเตรียมการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับผู้นำ คิม จองอึน ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
    บีกัน คาดหวังว่าการหารือกับ คิม ฮย็อกชอล ผู้แทนฝ่ายโสมแดง จะช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถกำหนด “ชุดผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม” ในการประชุมซัมมิตคราวนี้

    เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุว่า พวกเขาและสหรัฐฯ จะหาวิธีประนีประนอมเพื่อกระตุ้นให้เกาหลีเหนือยอมปลดนุก รวมถึงรื้อถอนศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ยองบยอน (Yongbyon) ในจังหวัดพยองันเหนือ ซึ่งหากโสมแดงปฏิบัติตามนี้ สหรัฐฯ ก็อาจตอบแทนด้วยการทำสนธิสัญญาสันติภาพปิดฉากสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ และเปิดสำนักงานติดต่อประสานงานขึ้นที่กรุงเปียงยาง

    อย่างไรก็ตาม คณะผู้ตรวจสอบการบังคับใช้มติคว่ำบาตรของยูเอ็นระบุในรายงานลับที่ส่งถึงสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นทั้ง 15 ประเทศว่า พบหลักฐานว่าเกาหลีเหนือ “มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะกระจายโรงงานประกอบอาวุธ รวมถึงคลังแสง และสถานที่ทดสอบออกไปหลายๆ ที่”

    คณะทูตโสมแดงประจำยูเอ็นยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ ซึ่งถูกส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1)

    ในการประชุมซัมมิตหนแรกระหว่าง ทรัมป์ กับ คิม ที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายเพียงทำข้อตกลงกว้างๆ ว่าจะมุ่งไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งสหรัฐฯ ได้ส่งทหารกว่า 2 หมื่นนายเข้าไปประจำการอย่างถาวรมาตั้งแต่สงครามเกาหลียุติลงในปี 1953

    สำหรับซัมมิตครั้งที่ 2 นี้ถูกคาดเดาว่าน่าจะมีขึ้นที่เมืองดานังของเวียดนาม

    เกาหลีเหนือวิจารณ์สหรัฐฯ ว่าไม่ให้รางวัลตอบแทนเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่พวกเขายอมหยุดทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ และยังทำลายโรงงานนิวเคลียร์ไปแล้วบางแห่ง

    เปียงยางย้ำข้อเรียกร้องให้สหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ทำสนธิสัญญายุติสงครามเกาหลี และรับรองความมั่นคงให้แก่ระบอบคิม

    อย่างไรก็ดี ผู้ตรวจสอบยูเอ็นชี้ว่ามาตรการคว่ำบาตรใช้ไม่ได้ผลกับเกาหลีเหนือ “ซึ่งยังคงฝ่าฝืนมติคณะมนตรีความมั่นคงด้วยการลักลอบขนถ่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและถ่านหินจากเรือสู่เรือ”

    ผู้ตรวจสอบยูเอ็นพบหลักฐานว่าเกาหลีเหนือเคยลักลอบขนปิโตรเลียมซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามมากถึง 57,000 บาร์เรลในคราวเดียว คิดเป็นมูลค่ากว่า 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    เกาหลีเหนือประกาศจะไม่ละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ฝ่ายเดียว ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังคงไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อระบอบโสมแดง และเรียกร้องมานานให้อเมริกาถอนทหารออกไปจากคาบสมุทรเกาหลีเพื่อสร้างเงื่อนไขนำไปสู่สันติภาพ

    https://m.mgronline.com/around/detail/9620000012582
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2019
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    80E76E8A-15D7-4397-A8A8-CAF5A131E1C3.jpg
    แฟ้มภาพ
    ค่ำนี้ PM2.5 ไปก๊าซ “โอโซน” ก็มาทันที เกินมาตรฐาน 2 จุด แขวงพลับพลา- คลองหนึ่ง
    วันที่ 4 February 2019 - 19:08 น.
    เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่ามีสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ก๊าซโอโซน (O3) ตรวจพบค่าระหว่าง 7 – 76 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณแขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. และ ต.คลองหนึ่งอ.คลองหลวง ปทุมธานี ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแสดงสีส้ม

    ทั้งนี้ โอโซนเป็นก๊าซที่เกิดจากโมเลกุลออกซิเจน (O2) ในชั้นสตราโตสเฟียร์ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นผิวโลก ประมาณ 10 – 60 กม. โอโซนในชั้นดังกล่าวนี้ทำหน้าที่กั้นไม่ให้รังสีอัลตราไวโอเลต ส่องมายังโลก ในปริมาณที่มากเกินไป


    โอโซนในความเข้าใจโดยทั่วไปนั้นจะแบ่งเป็น 2 ความหมาย หากเป็นโอโซนตามธรรมชาติในบรรยากาศสูงๆซึ่งทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตซึ่งไม่เป็นพิษ แต่ ความหมายที่ 2 เป็นโอโซนที่เป็นพิษในอากาศที่เราหายใจระดับล่างจัดว่าเป็นโอโซนประเภทไม่ดีซึ่งจะมีผลกระทบ โดยตรงต่อมนุษย์ โอโซน ที่มีระดับสูงกว่าพื้นดินมากกว่า 40 กิโลเมตรขึ้นไป จะเป็น โอโซนที่ดี ส่วนโอโซนที่ระดับ สูงกว่าพื้นดินไม่เกิน 2 กิโลเมตรจะเป็น โอโซนที่ไม่ดี สิ่งที่ก่อให้เกิดโอโซนในระดับต่ำได้แก่ควันของ รถยนต์ เป็นต้น

    ที่มา มติชนออนไลน์

    https://www.prachachat.net/general/news-286376
     

แชร์หน้านี้

Loading...