ติดตามสถานะการณ์

มีทั้งปัญหา PM2.5 และยังมีปัญหาไฟป่าอีก

อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง


อุตรดิตถ์ เริ่มน่าห่วง! พิษฝุ่น PM2.5 (6 ก.พ. 62)


Ref. www.airvisual.com/thailand/uttaradit

 

Wudhichai Maitreesophone


ในขณะที่สหรัฐ Sanction ทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่ American fast-food chains อย่าง Mcdonalds กลับเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในรัสเซีย


จนถึงปัจจุบัน Mcdonalds มีสาขาในรัสเซียทั้งหมด 680 สาขา โดยปี 2018 ได้เปิดสาขาเพิ่มมา 40 สาขา และในปี 2019 จะเปิดเพิ่มอีก 60 สาขา Mcdonalds มีลูกค้าเข้าร้านวันละ 1.5 ล้านคน ในปี 2019 Mcdonalds มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มพนักงานอีก 10% Mcdonalds ลงทุนในรัสเซียไปแล้ว 930 ล้านดอลลาร์

 

Wudhichai Maitreesophone


นาย Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี แดกดันสหรัฐ และสหภาพยุโรปในกรณีที่ประกาศรับรองให้นาย Juan Guaido หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นประธานาธิบดีเวเนซุเอล่าว่า มันประเทศของพวกคุณหรือไง ที่คุณจะมาชี้นิ้วว่า ใครเข้า-ใครออก จากตำแหน่งประธานาธิบดี พวกคุณไปยกตำแหน่งประธานาธิบดีให้กับคนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งได้อย่างไร ไหนพวกคุณบอกว่า พวกคุณเป็นประชาธิปไตย มันประชาธิปไตยแบบไหนกันนี่ หน้าซื่อใจคตกันทั้งนั้น ปากบอกว่า ประชาธิปไตย ต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่ตลอดเวลาก็ไปโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้งของประเทศต่างๆ ด้วยกำลังทหาร และการล่อลวง

 

แดง วงศ์ทวิชาติ


6 Feb 2019

#เกาะใหม่บนโลก

นาซ่า รับรองแล้ว เกาะใหม่ โผล่ที่ตองกาแล้ว

• นักวิทยาศาสตร์ NASA รับรองเกาะ Hunga Tonga ในตองกาเป็นเกาะเกิดใหม่ล่าสุดของโลก หลังรอดพ้นจากการถูกกัดเซาะมาถึง 4 ปี


สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NASA ได้มีการประกาศรับรองให้เกาะ Hunga Tonga ในตองกา เป็นเกาะเกิดใหม่ล่าสุดของโลก หลังจากที่อยู่รอดมาตั้งแต่ที่เกาะแห่งนี้ปรากฏให้เห็นเมื่อปี 2014


โดยรายงานเผยว่า เกาะ Hunga Tonga เป็นเกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ ซึ่งการเกิดเกาะลักษณะนี้ถือว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะอยู่รอดได้ เนื่องจากมันจะถูกน้ำทะเลกัดเซาะ หรือไม่ก็จมหายไปภายในไม่กี่เดือน แต่มันกลับคงยืนหยัดไม่ถูกกลืนลงทะเลมาได้ถึง 4 ปี จึงทำให้เป็นเพียง 1 ใน 3 เกาะของโลกในรอบ 150 ปีที่รอดมาได้


ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จากนาซ่า ได้ลงพื้นที่สำรวจเกาะดังกล่าวแล้ว เพื่อนำตัวอย่างหิน กรวด และแร่ธาตุต่างๆ มาศึกษา จะได้เข้าใจธรณีวิทยาของเกาะแห่งนี้มายิ่งขึ้น


รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบต่อการพังทลายของคลื่นจากมหาสมุทรแปซิฟิกในอนาคต และจะได้เข้าใจได้ว่าธรณีวิทยาเริ่มก่อตัวเป็นมวลบกใหม่ได้อย่างไร เพื่อนำไปเป็นเบาะแสเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดาวอังคารได้


https://news.mthai.com/world-news/706215.html

 

ช่วงนี้การเมืองกำลังร้อนแรง เห็นเพื่อนๆ ผมก็บอกว่าตอนนี้ ประเทศเรามีเรื่องสำคัญคือรอดูผลเลือกตั้ง สำหรับผม พรรคไหนก็ได้ขอให้ได้คนดีๆ ก็พอ แต่ก็ยอมรับอยู่อย่างคือรัฐบาลในขณะนี้ ปราบโกงไม่สำเร็จ ไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรม เช่นโกงเงินกองทุนเสมา โกงเงินคนจน ข่าวเงียบกริบเลย แล้วจะทำให้ประชาชนเชื่อได้ไงว่าสนใจการแก้ไขปัญหาทุจริต แต่ช่างมันเถอะครับ เพราะอีกไม่กี่วันก็คงไม่ต้องมาฟังคำพูดหวานๆ แค่อเอาเข้าจริงๆ กลับไม่ใส่ใจอย่างเช่นเรื่องปราบโกง บริหารมา 5 ปี มีการชูการปราบโกงมาเป็นระยะ แต่จะไปแล้วยังไม่เห็นผลลัพธ์อะไรเลย ถ้าจะไปอยากขอให้ฝากผลงานให้ผมดูต่างหน้า เช่นจัดการเรื่องโกงเงินกองทุนเสมา และโกงเงินคนจนให้เสร็จเรียบร้อยได้ไหมครับ เฮ้อ ผมคงหวังลม และแร้ว เพราะ 5 ปี ก็ไม่ค่อยสนใจ อีกไม่กี่เดือนคงไม่สนใจหรอก

 

Wudhichai Maitreesophone


นาย Adil Abdel-Mahdi นายกรัฐมนตรีอิรัก โชว์แมน ในงานแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า อิรักจะไม่ยอมให้มีการใช้แผ่นดินอิรักในการสอดแนม และโจมตีประเทศเพื่อนบ้านโดยเด็ดขาด (นั่นหมายความว่า ถ้าอิรักเอาจริง เครื่องบินรบของสหรัฐในอิรักจะออกมาโจมตีอิหร่าน และซีเรียไม่ได้เด็ดขาด


เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลัง Hashd Al-Sha’abi กองกำลังกลุ่มย่อย ในกองกำลังอาสาสมัครชีอะห์ที่รูจักกันในนาม Iraqi Republican Guard ได้เผชิญหน้ากับกองกำลังของสหรัฐ ในเมืองโมซุล ในระหว่างการปฏิบัติการ และไม่ยอมถอยหลัง หรือหลีกทางให้กองกำลังของสหรัฐเด็ดขาด


สหรัฐเริ่มจะอยู่ในอิรักยากขึ้นแล้ว เพราะเฉพาะ Iraqi Republican Guard ซึ่งเป็นกองทัพอาสาสมัครร่วมของ อิรักและอิหร่านอย่างเดียวก็มีกำลงพลมากถึง 150,000 คน

 

John Traczyk


ข่าวด่วน: Pole Shift กำลังจะได้ประสบ (picking up)

เรากำลังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างในโลก



แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็กที่เพิ่งเปิดตัวใหม่แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นที่สำคัญคือความแรงของสนามแม่ขั้วเหนือแรงขึ้นบริเวณแผ่นไซบีเรียและความแรงของสนามแม่ขั้วเหนืออ่อนลงบริเวณแผ่นแคนาดา



เราสามารถเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรูปฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล (exponential increase) ของการโยกย้าย ขั้วเหนือสนามแม่เหล็ก

(ขออธิบาย คือขั้วเหนือแม่เหล็กของโลกขณะนี้กำลังเคลื่อนที่จากแผ่นแคนนาดา ไปยังแผ่นไซบีเรีย และมีการพบขั้วเหนือสนามแม่เหล็กจำนวน 2 ชุดนี้ และชุดขั้วเหนือสนามแม่เหล็กบริเวณแผ่นแคนนาดากำลังอ่อนตัวลง ส่วนชุดขั้วเหนือสนามแม่เหล็กบริเวณแผ่นไซบีเรียกำลังแรงขึ้น และความแรงหรืออ่อนลงของชุดขั้วเหนือสนามแม่เหล็กทั้ง2 ชุดกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในรูปแบบฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล หรือพูดแบบง่ายๆ คือ ขั้วเหนือแม่เหล็กขยับเพียงนิดเดียวความแรงหรืออ่อนลงของชุดขั้วเหนือสนามแม่เหล็กทั้ง2 ชุด ก็จะเปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา)


maverickstar รีโหลด / ช่อง YouTube

เผยแพร่เมื่อ 6 ก.พ. 2562

วิดีโอ:

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล(อังกฤษ: exponential function) หมายถึงฟังก์ชันex เมื่อ e คือจำนวนที่ทำให้ฟังก์ชัน ex เท่ากับอนุพันธ์ของมันเอง (ซึ่ง e มีค่าประมาณ 2.718281828)


Breaking News: Pole Shift is picking up.


We are about to see some major changes on the planet.


Newly released Magnetic Intensity Map is showing major intensity is strengthening over the Siberian Plate and weakening over the Canadian Plate.


We could see an exponential increase in the speed of this migration.


maverickstar reloaded / YouTube Channel.

Published on Feb 6, 2019

 

คลื่นความร้อนและคลื่นความเย็นผสมกันมั่วไปหมดแล้ว

La nueva era de la tierra - respaldo


อากาศขั้วโลกจะส่งผลกระทบต่อเม็กซิโกในไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเตรียมพร้อมกับอุณหภูมิที่ต่ำ


เมืองที่ได้รับผลกระทบ


Frente Frío 35 และอากาศขั้วโลกอาร์กติกจะส่งผลกระทบต่อรัฐทางตอนเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และตะวันออกของเม็กซิโก # 7-9 กุมภาพันธ์ด้วยผลกระทบของ:


(จาก)โคตรความร้อน, สภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นส่วนใหญ่โกอาวีลา, ลีออนใหม่, ตาเมาลีปัส และเวราครูซ


ฝนโปรยปราย


"ทิศเหนือ" ความเร็วลม 70-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


หลังจากวันนี้บางเมืองอุณหภูมิขึ้นไปถึง 30 ° C ในวันต่อมาอุณหภูมิจะลดลงอย่างมาก


พวกเขาคาดว่าจากอุณหภูมิ 30 ° C จากวันถึงอุณหภูมิ 6 ° C ในวันต่อไป


เราต้องเตรียมแจ็คเก็ตเพราะอุณหภูมิจะลดลงอย่างมากและครอบครัวของเราอาจเจ็บป่วย


https://www.climaseveromundial.com/2019/02/advertencia-aire-polar-afectara-mexico.html?m=1

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 6) กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.75% : นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมกนง. ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปีโดย 2 เสียงเห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ กรรมการ 1 ท่านลาประชุมในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ แม้อุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานที่ลดลงและมีความเสี่ยงด้านต่่าเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทยอยปรับสูงขึ้นใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ภาวะการเงิน โดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินในอนาคตที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบัน มีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ส่วนกรรมการ 2 ท่านเห็นว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.25

ภาวะการเงินโดยรวมจะยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน และสะสมขีดความสามารถในการด่าเนินนโยบายการเงิน (policy space)

สำหรับอนาคตเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องใกล้เคียงศักยภาพ แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้น ตามการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง ผลของมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งผลจากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ชะลอลง

ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด แรงส่งของอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น และกระจายตัวมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ แต่ยังได้รับแรงกดดันจากหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามการย้ายฐานการผลิตมายังไทย และโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ตามการเบิกจ่ายจริงและกรอบวงเงินงบประมาณทั้งรายจ่ายประจ่าและรายจ่ายลงทุน รวมถึงความล่าช้าในโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง คณะกรรมการฯ จะติดตามความเสี่ยงด้านต่างประเทศทั้งจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ส่าคัญและผลต่อเนื่องไปยังการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงานที่ลดลง และมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากความผันผวนของราคาพลังงานและอาหารสด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทยอยปรับเพิ่มขึ้นตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจ e-commerce การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ท่าให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าในอดีตภาวะการเงินที่ผ่านมา อยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ และภาคเอกชนสามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนค่าลงเป็นส่าคัญโดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในทิศทางเดียวกับสกุลเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และสกุลเงินในภูมิภาค

ในระยะข้างหน้า อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้เสถียรภาพระบบการเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ อาจน่าไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร (underpricing of risks) คณะกรรมการฯ เห็นว่ามาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ได้ด่าเนินการไปและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาจะช่วยดูแลการสะสมความเปราะบางในระบบการเงินได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการของตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย การปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์การขยายสินทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์

รวมทั้งทิศทางการก่อหนี้ของภาคครัวเรือน และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรมองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศอาจชะลอลง คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายยังมีความเหมาะสมในระยะข้างหน้า โดยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการด่าเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

Source: การเงินธนาคาร

เพิ่มเติม
- ข่าว ธปท. 10/2562 เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 1/2562 : https://www.bot.or.th/Thai/Monetary...nAiI3wvqb2bnNNj4VEDESzMzRCMyEv4AGtlP7ndJ3WDoU

English Version : https://www.bot.or.th/Thai/Monetary...lIOxDRd2tcqkSrjlECYvKToBZQTul2oB_xO30RWhveAew

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 6) ธปท.ชี้เงินบาทแข็งค่าในระดับกลางๆ เทียบกับตลาดเกิดใหม่ และตั้งแต่ต้นปีไทยมีเงินทุนไหลออกสุทธิ : นายทิตนันท์ มัลลิกะมาส เลขานุการ กนง. เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ การแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่อื่น ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินบาทตั้งแต่ต้นปี ยังคงอยู่ในระดับกลางๆเมื่อเทียบกับสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่

นอกจากนี้ อาจมีความเข้าใจว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ในครั้งก่อนส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าและทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงจากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ต้นปีไทยมีเงินทุนไหลออกสุทธิ โดยเฉพาะจากตลาดพันธบัตร

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการประเมินภาพเศรษฐกิจ ซึ่ง กนง.จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และอาจพิจารณาเข้าดูแลถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วผิดปกติจนไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และกระทบกับการปรับตัวของภาคธุรกิจ

Source: การเงินธนาคาร
https://www.moneyandbanking.co.th/n...TjE4fBSk1U-TkjaFeWJd7FAmI38VV6C9Bp896HGyJYABQ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 6) เมื่อ ’เฟด’โดน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ กดดัน: เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ร่วมรับประทานข้าวเย็นกับเจย์ พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด
และ ริชาร์ด คลาริดา รองประธานเฟด ที่ทำเนียบขาว แบบไม่เป็นทางการ และได้ออกคำแถลงการณ์ว่ามีการรับประทานอาหารเย็นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างเฟดกับทำเนียบขาว

ผมมองว่านี่คือสัญญาณที่เริ่มทำท่าไม่ค่อยจะดีสำหรับความเป็นอิสระของเฟด แม้ผมอาจจะมองในแง่ร้ายเกินในประเด็นนี้

อย่างไรก็ดี ผมมองว่า เฟดน่าจะกำลังถูกกดดันแบบทางอ้อมมากกว่าเป็นการเคลียร์ใจกัน (ยังนึกไม่ออกว่าทรัมป์จะเคลียร์ใจกับใครได้) โดยหากสังเกตคำแถลงการณ์ ที่ออกมาจากเฟดหลังการรับประทานอาหารเย็น จะพบว่า การเขียนคำแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ลักษณะภาษาที่ใช้กันของชาวเฟดที่ได้อ่านกันมาตลอด โดยเหมือนกับเป็นสไตล์ของคำพูดที่ออกมาจากสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐมากกว่า ที่ผมชี้ให้เห็นง่ายๆ คือเวลาเฟดจะกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของเฟดในการดำเนินนโยบายการเงินนั้น จะใช้ประโยคที่ว่าเพื่อให้ ‘ระดับราคามีเสถียรภาพและให้อัตราการว่างงานที่เหมาะสม’ ทว่าในครั้งนี้ กลับใช้วลีที่ว่า ‘เพื่อให้การจ้างงานสูงสุดและระดับราคามีเสถียรภาพ’
รวมถึงเมื่อพิจารณาบริบทรวมก่อนหน้านี้ ก็บ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ดังนี้

หนึ่ง การปรับกระบวนการ Policy Normalization หรือการลดขนาดงบดุลเฟดเมื่อต้นปีนี้ ทั้งนี้ เฟดย้ำว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือหลัก โดยการปรับเปลี่ยนเงินสำรอง (Reserve) ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญน้อยกว่า

อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ถือว่าแปลกคือการพูดถึง’การปรับลดความเร็วในการลดขนาดงบดุล โดยบอกว่าจะใช้กลยุทธ์นี้ เมื่อเครื่องมือทางการเงินอย่างการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหมดกระสุนลง’ ในทางกลับกัน เมื่อสถานภาพทางเศรษฐกิจและทางการเงินมีความเหมาะสม ก็จะใช้กลยุทธ์การลดขนาดงบดุลให้มีความเข้มข้นขึ้น

ผมมองว่า สิ่งที่เป็นแรงจูงใจที่เฟดจำเป็นนำวลีดังกล่าวมาใส่ เนื่องจากเกรงว่าการใช้ Guidance เพียงแต่ว่าเมื่อสถานภาพทางเศรษฐกิจและทางการเงินมีความเหมาะสม ก็จะใช้กลยุทธ์การลดขนาดงบดุลให้มีความเข้มข้นขึ้น เพียงอย่างเดียวนั้น อาจทำให้ตลาดตีความแบบไม่สงสัยเลยว่า เฟดจะเพิ่มอัตราเร็วในการลดขนาดงบดุลในอนาคตอันใกล้ ซึ่งไม่ใช่ว่าเฟดภายใต้นายพาวเวลจะไม่ทำ แต่เกรงว่าหากเฟดตัดสินใจไม่ทำ อาจทำให้ตลาดปั่นป่วนมากกว่า

นอกจากนี้ ผมยังมองว่าภาษาที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนอัตราเร็วเพื่อลดขนาดงบดุลของเฟดสำหรับครั้งนี้ มีความผิดปกติ เนื่องจากการลดขนาดงบดุล โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรจะมีคำพูดที่บอกถึงนัยยะของ Dovish หรือ Hawkish สำหรับการเพิ่มและลดขนาดงบดุล โดยที่ผ่านมา เฟดจะมองและใช้ Policy Normalization ในลักษณะที่เหมือนกับเครื่องมือหนึ่งในชุดอาวุธสำหรับนโยบายการเงิน โดยจะฟันธงถึงแผนของขนาดการลดตราสารทางการเงินแบบเป็น Timeline ที่ชัดเจน เสมือนเป็นผลลัพธ์สุดท้าย เหมือนสมัย TALF, QE ชุดต่างๆ หรือ Operation Twists ที่เฟดจะบอกแผนสุดท้ายไปเลย

อย่างไรก็ดี ผมยังมองว่าเฟดยังมีอำนาจต่อรองบ้างในการกำหนด Statement ของกระบวนการ Policy Normalization หรือการลดขนาดงบดุลเฟดเมื่อช่วงต้นปี โดยการที่กล่าวว่า ‘จะใช้กลยุทธ์ลดความเร็วในการลดขนาดงบดุล เมื่อเครื่องมือทางการเงินอย่างการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหมดกระสุนลง’ ก็เหมือนกับเป็นการแฝงนัยยะที่ว่า หากเป็นขาที่จะขึ้นดอกเบี้ย ก็น่าจะนำทางด้วยการเพิ่มความเร็วในการลดขนาดงบดุลมากกว่า ซึ่งน่าจะตรงใจนายพาวเวลเนื่องจากการที่โดนทรัมป์กดดันมาโดยตลอดในการไม่ให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อ พาวเวลก็จะได้มีช่องทางในการทำให้นโยบายการเงินมีความตึงตัวขึ้น โดยไม่ต้องทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด

สอง วลีที่เพิ่มเติมใน Fed Minutes ล่าสุด ที่เน้นคำว่า ‘Patient’ ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และคำว่า ‘Flexibility’ ในการปรับขนาดงบดุลเฟดนั้น ถือว่าแปลกเช่นกัน เนื่องจาก โดยปกติแล้ว การจะแสดงความเห็นว่าจะชะลอการทำให้นโยบายการเงินผ่อนคลายนั้น ภาษาที่ธนาคารกลางใช้ ไม่ควรจะเป็นคำหลักที่เป็นเชิง Subjective แบบที่สื่อว่า ‘อดทน’ ซึ่งผมทราบดีว่า นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านการประเมินสัญญาณความคาดหวังของอัตราเงินเฟ้อว่าจะเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับองค์รวม ทั้งในมุมตลาดและเศรษฐกิจ เพื่อให้เฟดสามารถลงมือขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในจุดที่เหมาะสม ทว่าคำที่ใช้สื่อสารถึง mindset ที่เป็นแบบที่นายพาวเวลใช้ในครั้งนี้นั้น น่าจะมีนัยยะที่ลึกกว่าตลาดเข้าใจกันในตอนนี้

ท้ายสุด ผมมองว่าเฟดกำลังเข้าสู่จุดที่ไม่ได้ทำงานได้ง่ายและใช้บริบทที่แท้จริงทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เหมือนยุค ‘เบน เบอร์นันเก้’ และ ‘เจเน็ต เยลเลน’ อีกต่อไป

โดย ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ
คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "มุมคิดมหภาค"

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/646517

เพิ่มเติม
-For Fed chairs, White House summons are typical, though not always welcome:
https://www.reuters.com/article/us-...V8uxFqgkbLKNY3RulWUX42rhH1Ah-zYUa1nAO6jfhjJOA

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 6) คนแบงก์ระส่ำ TMB-ธนชาต ควบรวมเคว้ง - ราคาหุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นทันทีที่เปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นหลังจากมีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีวาระพิจารณาแผนการควบรวมกิจการระหว่าง ธนาคาร ทหารไทย(TMB)กับธนาคารธนชาต (TBANK) ธนาคารในกลุ่มบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเกิดขึ้นเมื่อมีการอ้างว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เร่งรัดให้สคร.และสศค.สรุปการควบรวมระหว่าง TMB และ TBANK โดยกระทรวงการคลังต้องการแลกหุ้น TMB ในราคาพรีเมียมไม่ต่ำกว่า 2.50 บาทต่อหุ้น ขณะที่ TCAP ต้องปรับลดราคาลงมา ทำให้สัดส่วนการแลกหุ้นจึงดูเหมือน TMB ได้เปรียบ TBANK แต่จะได้สิทธิลดหย่อนทางภาษี

ขณะที่อนาคตของธนาคารใหม่ที่จะสร้างรายได้มากกว่าเดิมทำให้ราคาหุ้น TMB ขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 2.28 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับ 2.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 540.59 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น TCAP ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนชาต ราคาปรับเพิ่มขึ้นไปสูงสุดเพียง 54.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ก่อนจะลดลงที่ระดับ 53.50 และปิดการซื้อขายที่ 54.25 บาทเท่ากับวันก่อนด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 60.23 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพนักงานทั้ง 2 แห่ง ต้องเฝ้ารอดูผลการประชุมครม.ว่า จะมีมติออกมาอย่างไร เพราะการควบรวมกิจการของทั้ง 2 ธนาคารจะทำให้ขนาดสินทรัพย์ เพิ่มเป็น 1,054,985 ล้านบาท ขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย แต่ก็มีจำนวนพนักงานรวมกันสูงถึง 22,010 คนและมีสาขารวมกัน 932 แห่ง ซึ่ง บางจุดเป็นสาขาที่ซ้ำซ้อน ใกล้เคียง ทำให้พนักงานเกรงว่า เมื่อควบรวมแล้ว จะมีการปิดสาขาที่ซ้ำซ้อน ใกล้เคียงกัน รวมถึงตำแหน่งงาน ที่ซ้ำซ้อนกัน อาจจะต้องยุบเลิก และสุดท้ายอาจจะต้องตกงาน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นมีรายงานข่าวจากสศค.ระบุว่า จากการศึกษาการควบรวมกิจการของธนาคารทั้ง 2 แห่ง ที่ชัดเจนคือ ต้นทุนถูกลง ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ที่ยังไม่ชัดเจนคือ ทิศทางการทำธุรกิจในอนาคตว่า จะเน้นในด้านไหน เนื่องจาก TMB จะมีจุดแข็งเรื่องผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขณะที่ธนชาตจะมีจุดแข็งในการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

พนักงาน ธนชาตรายหนึ่งกล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ผู้บริหารยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าพนักงานต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะยังไม่ชัดเจนเรื่องการควบรวมกิจการ ซึ่งทุกคนยังคงทำหน้าที่ตามปกติ แม้ว่าส่วนตัวจะรู้สึกไม่มั่นคงกับหน้าที่ตัวเอง เพราะหากควบรวมกันแล้ว จะมีหลายตำแหน่งที่ซ้อนกัน ซึ่งตนเองก็อยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร เงินเดือนเกือบแสน อายุก็เยอะแล้ว ถ้าลาออกไปก่อนยังไม่รู้ว่าต้องไปทำอะไร จึงต้องรอผลการประชุมครม.ก่อน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมครม. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาระบุว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการเสนอเรื่องแผนการควบรวม TMB กับ ธนชาตเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.เนื่องจากสคร.และสศค.ยังไม่ได้ตอบเรื่องที่ได้สอบถามไป

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย)ฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของราคาที่จะไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท โดยคำนวณที่ราคา 2.50 บาท จะทำให้ SWAP Ratio อยู่ที่ 8.3 หุ้น TMB เท่ากับ 1 หุ้น TBANK และหากกระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนที่ 4.3 หมื่นล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่ 25% คาดว่าการรวมกันของ TMB และ TBANK จะเกิด Synergy ในแง่ของสินเชื่อที่จะมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะเดิม TMB ไม่มีสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่ TBANK เป็นผู้นำด้านสินเชื่อเช่าซื้อ ประกอบกับต้นทุนในการดำเนินงานต่างๆ ก็จะลดลง รวมถึง TMB มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Digital Banking ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นได้

สำหรับดีลนี้คาดว่า TMB ได้ประโยชน์มากกว่า เพราะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการเกิด Synergy และกระทรวงการคลังยืนยันว่า ดีลนี้ TMB จะไม่เสียประโยชน์

Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 6) Update: ผู้นำของสหภาพยุโรปยังคงยืนยันเ ข้อตกลง Brexit ในปัจจุบันที่ได้มีเจรจาหารือร่วมกันไปแล้วระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปจะไม่ถูกนำขึ้นมาพิจารณาใหม่: นาย Donald Tusk ประธานสภายุโรป ระบุว่า ความหวังที่อาจจะไม่มี Brexit เกิดขึ้นของตนนั้นได้หมดไปแล้ว โดยในขณะนี้ สิ่งที่สำคัญคือการลดผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลัง Brexit พร้อมกล่าวอย่างดุเดือดว่า “I’ve been wondering what that special place in hell looks like, for those who promoted Brexit, without even a sketch of a plan how to carry it out safely,”

นาย Tusk ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อตกลง Brexit ที่ได้หารือร่วมกับสหราชอาณาจักรไปแล้วจะไม่มีการนำกลับมาหารือกันใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ นาย Jean-Claude Juncker ประธานกรรมาธิการยุโรป ที่ระบุว่า ข้อตกลง Brexit ที่มีข้อผูกพันทางกฎหมายจะไม่ถูกนำกลับมาพิจาณาใหม่ ซึ่งทางด้าน นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวดีอยู่แล้ว

ขณะที่ นาย Leo Varadkar นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ระบุว่า ความไม่แน่นอนและความไม่มีเสถียรภาพทางด้านการเมืองของสหราชอาณาจักรเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า Backstop ด้านเขตแดนบนเกาะไอร์แลนด์นั้นมีความจำเป็น

Source: BoTSS

*********

ประธานคณะมนตรียุโรปยันไม่มีการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับข้อตกลง Brexit : นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวว่า เขาหวังว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเดินทางมายังกรุงบรัสเซลส์ในวันพรุ่งนี้พร้อมกับข้อเสนอที่สอดคล้องกับความเป็นจริงเกี่ยวกับแนวทางในการผ่าทางตันกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

นายทัสค์ยังยืนยันว่า สหภาพยุโรป (EU) จะไม่เปิดการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับข้อตกลง Brexit โดยเฉพาะนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการค้ำประกันว่าจะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป

นายทัสค์ระบุว่า ข้อตกลง Brexit ซึ่งถูกคว่ำโดยรัฐสภาอังกฤษ ถือเป็นข้อตกลง Brexit ที่ดีที่สุด และความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในอังกฤษเป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการมีนโยบาย backstop

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- EU’s Tusk says there’ll be a ‘special place in hell’ for the UK’s Brexit proponents:
https://www.cnbc.com/2019/02/06/don...HJehqETq6jpta5RUPzRco22RC-4gGeQmlmAe58BNih00I

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 6) พบแล้ว! มงกุฎทองคำแห่งราชวงศ์สวีเดนที่หายไป ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ: ำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มงกุฎทองคำของราชวงศ์สวีเดน 2 องค์ และลูกโลกประดับกางเขน ที่ถูกขโมยหายไปจากวิหารในเมืองสแตร็งนาส ประเทศสวีเดน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ถูกพบแล้วในถังขยะ

โดยทางการสวีเดน แถลงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า พบมงกุฎล้ำค่าในศตวรรษที่ 17 และลูกโลกประดับกางเขน แล้ว ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะใบหนึ่งใกล้กับกรุงสต็อกโฮล์ม และ ได้มีการส่งไปยังเมืองอื่นเพื่อทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว

ข่าวระบุว่า เมื่อเดือนกันยายน ได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยวัย 22 ปี ว่าเป็นผู้ขโมยมงกุฎดังกล่าว และถูกดำเนินคดีไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านม และมีการพบมงกุฎกับลูกโลกประดับกางเขนในวันสุดท้ายของการพิจารณาคดี จึงได้มีการเลื่อนการพิจารณาคดีในวันสุดท้ายออกไปเป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ คนร้ายได้ทุบกระจกเข้าไปบริเวณที่เก็บเครื่องราชกุธภัณฑ์ ของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ล ที่ 9 และพระราชินีคริสตินา พระชายา แล้ว กวาดเอามงกุฎ 2 องค์กับลูกโลกประดับกางเขนไป 1 ลูก โดยสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 9 เสด็จสวรรคตเมื่อปี ค.ศ.1611 ส่วนสมเด็จราชินีคริสตินา เสด็จสวรรคตเมื่อปี 1625 ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของพระองค์จึงเป็นสิ่งที่หาค่ามิได้

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/foreign-soft-news/news-287283

เพิ่มเติม
- Sweden’s lost crown jewels found on a Stockholm bin:
https://www.thetimes.co.uk/article/...cZcmypJZyjQ3mo8pTEhZuUkO3vu3-Vp5ZstXlSZmFg9BA

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 7) เยลเลนคาดเฟดมีโอกาสอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป: นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ระบุว่าการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเป็นการปรับเพิ่มหรือลดระดับอัตราดอกเบี้ยก็ได้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้น หากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหภาพยุโรป ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางบริบททางการเงิน (financial condition) ที่ตึงตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นางเยลเลน ระบุว่าหากตนจะต้องคาดการณ์ path การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนจะยังคงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 2 ครั้ง ในปีนี้ แต่จะมี "ความไม่แน่นอน" (uncertainty band) ที่กว้างมาก

นอกจากนี้ นางเยลเลน ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้ สะท้อนจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจ และภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

Source: BOTSS

- Janet Yellen: Possible next Fed move is a cut if global growth continues to slow:
https://www.cnbc.com/2019/02/06/jan...cecBjYR3BsglGahNz1gvM8WwCn7kp85g3ulrL_amhsGBo

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 7) ทรัมป์มีท่าทางประนีประนอมในคำกล่าวนโยบายประจำปี : วานนี้ ประธานาธิบดี Trump ขึ้นกล่าวปราศรัยคำแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (the State of the Union) ในลักษณะที่มีความประนีประนอม ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump ได้เรียกร้องให้พรรค Republican และ Democrat ทำงานร่วมกันในนโยบายด้านผู้อพยพเพื่อบรรลุข้อตกลงในร่างงบประมาณการสร้างกำแพงชายแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเรื่องการประชุมสุดยอดครั้งที่สองกับนาย Kim Jong Un, ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. สำหรับการเจรจาการค้ากับทางการจีนนั้น ประธานาธิบดี Trump ระบุว่าได้หารือกับประธานาธิบดี Xi Jinping โดยข้อตกลงใหม่จะต้องรวมถึงเรื่องการลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน ในรายละเอียดเพิ่มเติม

- ประธานาธิบดี Trump กล่าวว่ากำแพงชายแดนที่จะสร้างขึ้นนั้น มิใช่กำแพงคอนกรีตทั่วไป แต่จะเป็นกำแพงเหล็กที่ smart และ strategic ซึ่งสามารถมองทะลุผ่านได้ โดยจะสร้างในบริเวณที่เจ้าหน้าที่ชายแดนระบุว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่สุด ซึ่งหากสภาครองเกรสไม่สามารถที่จะเห็นชอบเรื่องของงบประมาณได้ “I’ll get it built.”

- ประธานาธิบดี Trump เรียกร้องให้ทั้งสองพรรคร่วมมือกันในนโยบายด้านการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ล้าหลัง โดยเฉพาะ ถนน highway สะพาน และสนามบิน อย่างไรก็ดี มิได้ระบุถึงรายละเอียดของโครงการต่างๆ

- ประธานาธิบดี Trump เสนอแผนนโยบายการกำจัดเชื้อ HIV ให้หมดไปจากสหรัฐฯ ภายใน 10 ปี พร้อมเสนอเงินทุนด้านวิจัยโรคมะเร็งในเด็กมูลค่ากว่า 500 พันล้านดอลลาร์ สรอ.

- ประธานาธิบดี Trump ระบุถึงแผนการลดกองกำลังทหารสหรัฐฯ ในประเทศอัฟกานิสถานและซีเรีย โดยอ้างถึงชัยชนะที่ได้รับเหนือต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS พร้อมกับกล่าวว่า “Great nations do not fight endless wars.”

- ประธานาธิบดี Trump กล่าวประนามนโยบายสังคมนิยมของประเทศเวเนซุเอลา พร้อมเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ยังได้ประกาศยอมรับในตัวนาย Juan Guaido, ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เป็นรักษาการณ์ประธานาธิบดี

Source: BOTSS

เพิ่มเติม
- Fact checking Trump's 2019 State of the Union: https://www.cbsnews.com/live-news/2...5DebbLQOzU3iKu289-8sUl687oRbmHMXmZALUvooHVgv0

- 5 takeaways from President Trump's State of the Union speech: https://www.chicagotribune.com/news...hnZdC5J6KECOU14oT1oBxa2YC9Ayv2AKEgbDaFNZPwVTc

- นักลงทุนลุ้นเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฉุดดาวโจนส์ปิดลบ: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/826343

- เด็กชาย 'ทรัมป์' ขโมยซีน นั่งหลับขณะ 'ทรัมป์' แถลงนโยบาย: https://www.thaipost.net/main/detail/28520

- สีสันแถลงนโยบายประจำปีของทรัมป์: http://news.ch3thailand.com/abroad/87258

 

ประสบการณ์สยอง!!ผู้โดยสารแพร่คลิปเครื่องยนต์ไฟลุก เครื่องบินสั่นรุนแรงตลอดทาง(ชมวิดีโอ)
เผยแพร่: 6 ก.พ. 2562 23:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัสเซียทูเดย์ - โลกออนไลน์เผยแพร่ภาพระทึกบนเที่ยวบินหนึ่งในปามานา เมื่อเครื่องยนต์ตัวหนึ่งของเครื่องบินลำดังกล่าวเกิดไฟลุกพรึบพรับอย่างน่าหวาดเสียว ทำเอาผู้โดยสารได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ผ่านพ้นฝันร้ายกลางเวหา สูงจากพื้นดินหลายพันเมตร

เซซาร์ ลูเซียโน หนึ่งในผู้โดยสาร ถ่ายภาพอันน่าขนลุกขนพองนี้บนเที่ยวบินโคปา แอร์ไลน์ส เมื่อวันที่ 31 มกราคม หลังจากเครื่องบินชนนก ทำให้เครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้

รายงานข่าวระบุว่าเครื่องบินลำนี้กำลังมุ่งหน้าสู่กรุงกัวเตมาลาซิตี ขณะที่เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่มันเทคออฟขึ้นจากท่าอากาศยานโตกูเมน ในปานามาซิตี




ลูเซียโน อัพโหลดวิดีโอดังกล่าวลงบนบัญชีอินสตาแกรม พร้อมกับข้อความบรรยายความรู้สึกตอนที่เห็นประกายไฟลุกพรึบอยู่ด้านนอกหน้าต่างว่า "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเพียงแต่ในภาพยนตร์เสียอีก ผมไม่อยากสาธยายหรอกว่าตอนนั้นในหัวผมคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่ชัดเจนก็ตือมันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของผมเลย"

อย่างไรก็ตามทุกคนบนเครื่องพากันโล่งอกตามๆกัน เมื่อนักบินประสบความสำเร็จในการพาเครื่องบินกลับไปลงจอดที่ท่าอากาศยานโตกูเมนอย่างปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุ จากคำยืนยันขององค์การกรบินพลเรือนแคนาดา

ด้านโคปา แอร์ไลน์ส ระบุในถ้อยแถลงว่านักบินของพวกเขาปฏิบัติตามขั้นตอนด้านความปลอดภัยอย่างครบถ้วน หลังจากนกตัวหนึ่งชนเครื่องยนต์ และสามารถนำเครื่องลงจอดในแนวทางที่น่าพึงพอใจ" พร้อมบอกว่า "พวกผู้โดยสารไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว เพราะว่าเหล่านักบินมีความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆเช่นนี้"

https://mgronline.com/around/detail/9620000013223

 

‘ทรัมป์’ เสนอชื่อ ‘เดวิด มัลพาสส์’ จนท.คลังสายเหยี่ยวนั่งเก้าอี้ประธานเวิลด์แบงก์ เผยแพร่: 7 ก.พ. 2562 10:14 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เดวิด มัลพาสส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการต่างประเทศ
รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เสนอชื่อ เดวิด มัลพาสส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศ ขึ้นเป็นประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คนใหม่เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) โดย มัลพาสส์ นั้นเป็นเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวที่วิพากษ์วิจารณ์เวิลด์แบงก์มาโดยตลอด และยังมีจุดยืนต่อต้านจีนอีกด้วย

การเสนอชื่อ มัลพาสส์ ยังจะต้องผ่านกระบวนการโหวตโดยคณะกรรมการบริหารเวิลด์แบงก์ และอาจมีผู้ถือหุ้นบางรายจากทั้งหมด 188 ประเทศเสนอชื่อบุคคลอื่นขึ้นมาเป็นคู่แข่ง

แม้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดและมีพลังในการออกเสียงถึง 16% จะเป็นผู้ชี้ขาดตัวบุคคลที่นั่งเก้าอี้ประธานเวิลด์แบงก์มาตั้งแต่สถาบันแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทว่าอดีตประธาน จิม ยอง คิม ซึ่งลาออกไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ก็เคยต้องสู้กับผู้ท้าชิงจากโคลอมเบียและไนจีเรียในปี 2012 มาแล้ว

มัลพาสส์ เคยเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับทีมหาเสียงของ ทรัมป์ ในปี 2016 และด้วยตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศจึงทำให้เขามีอำนาจกำกับดูแลบทบาทของสหรัฐฯ ทั้งในเวิลด์แบงก์และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

มัลพาสส์ วิจารณ์สถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งว่ามีขนาด “ใหญ่โตเกินไป รุกล้ำก้าวก่ายมากเกินไป” ทั้งยังเรียกร้องให้เวิลด์แบงก์ลดการปล่อยกู้ให้จีน ซึ่งเขาอ้างว่ามีฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว แถมยังไปทำให้ประเทศยากจนต้องแบกหนี้สินก้อนโตจากการร่วมเป็นพันธมิตรในยุทธศาสตร์ Belt and Road อีกด้วย

ในการอนุมัติเพิ่มทุนให้กับเวิลด์แบงก์อีก 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว มัลพาสส์ มีส่วนผลักดันการปฏิรูปเพื่อกระจายทรัพยากรไปยังกลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุด และลดการปล่อยกู้ให้กับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างจีน

“เขาต่อสู้เพื่อให้มั่นใจว่า งบอุดหนุนจะถูกส่งไปยังสถานที่และโครงการที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจริงๆ รวมถึงประชากรที่ยังยากจนสุดขั้ว” ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาวโดยมี มัลพาสส์ ยืนอยู่ข้างๆ

มัลพาสส์ ให้สัญญาว่าจะผลักดันการปฏิรูปเหล่านี้ต่อไป พร้อมทั้งส่งเสริมพลังทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้หญิง

“ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถขจัดอุปสรรคและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ เพื่อต่อสู้กับปัญหาความยากจนสุดขั้ว และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา” เขากล่าว

ด้วยผลกระทบจากนโยบาย ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ ของทรัมป์ และศึกดวลภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ผู้เชี่ยวชาญบางคนจึงมองว่า มัลพาสส์ อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่

“เดวิด มัลพาสส์ จะต้องทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ มั่นใจว่า เขาพร้อมที่จะก้าวข้ามถ้อยแถลงเดิมๆ และสิ่งที่เคยทำมาในอดีตเมื่อต้องกำกับดูแลวาระต่างๆ ของเวิลด์แบงก์” สก็อตต์ มอร์ริส อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานกับศูนย์เพื่อการพัฒนาโลก (Center for Global Development) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุ






https://mgronline.com/around/detail/9620000013276

 

รมว.คลังสหรัฐฯเชื่อบรรลุข้อตกลงการค้าจีนทันเส้นตายวันที่1มีนาคม
เผยแพร่: 7 ก.พ. 2562 01:04 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - คณะผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายในโต๊ะเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน "ให้สัญญาครั้งสำคัญ" ว่าจะบรรลุข้อตกลงกันให้ทันเส้นตายวันที่ 1 มีนาคมนี้ จากการเปิดเผยของ สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังอเมริกาในวันพุธ(6ก.พ.)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เห็นพ้องพักรบในสงครามการค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน แต่มาตการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของอเมริกา 200,000 ล้านดอลลาร์ จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 25% หากว่าสองฝ่ายไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ

มนูชินบอกกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนกำลังทำงาน "24ชั่วโมง" แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ และเขาย้ำว่าข้อตกลงใดๆนั้นต้องบังคับใช้ได้จริง

"หากเราไม่สามารถทำได้ตามเส้นตาย นั่นไม่ได้เพราะว่าเราไม่ได้ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน" มนูชินกล่าว "ผมคิดว่ามีคำสัญญาที่ใหญ่หลวงจากทั้งสองฝ่ายในความพยายามให้ทันเส้นตายนี้"

เขามีกำหนดเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อร่วมประชุมรอบ 3 ซึ่งมีเป้าหมายคลี่คลายข้อพิพาท ซึ่งต่างฝ่ายต่างรีดภาษีตอบโต้กันไปมาในการค้า 2 ทาง คิดเป็นมูลค่าแล้วกว่า 360,000 ล้านดอลลาร์ และมันกำลังส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม มนูชิน ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งมากและไม่มีสัญญาณการชะลอตัว "เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีผลงานดียิ่ง ท่ามกลางสัญญาณการชะลอตัวในยุโรปและส่วนอื่นๆของโลก" เขากล่าว

เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวอย่างรุนแรงและผลกระทบสามารถสัมผัสได้ในสหรัฐฯเช่นกัน จนประมาณการกันว่าเศรษฐกิจอเมริกาอาจเติบโตชะลอตัวในปีนี้

มนูชิน ยังบอกด้วยวาเขาเชื่อมั่นอย่างมากกว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งอัพเดทจากความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ 1994

พวกผู้นำทั้ง 3 ชาติเห็นพ้องในข้อตกลงฉบับปรับปรุงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน แต่มันจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเพื่อเข้าสู่การบังคับใช้

https://mgronline.com/around/detail/9620000013230