ติดตามสถานะการณ์

Setiawan

#แผ่นดินไหว ขนาด 5.0 jijel, แอลจีเรีย , ความลึก 10 กม.

 

John Traczyk

เมื่อวานนี้ Alba Iulia, โรมาเนีย วันที่ 11 กรกฎาคม ภาพถ่ายโดย Andreiemil Andrey ผ่าน Prognoze Weather - สภาพอากาศโรมาเนีย ขอบคุณ Petre Voinea สำหรับรายงาน!

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jul 13) สกัดเงินร้อน'ชะงักชั่วคราว' แบงก์ชี้นักลงทุนตกใจ'มาตรการธปท.' ฉุดบาทอ่อน-หุ้นดิ่ง : เงินบาทร่วงหนัก หลัง "แบงก์ชาติ" งัด 2 มาตรการสกัดเงินร้อนเก็งกำไร ค่าเงิน โดยสั่งลดยอดคงค้างบัญชีเงินฝาก สกุลเงินบาทของต่างชาติเหลือ 200 ล้านต่อราย พร้อมยกระดับรายงานผู้ถือครองบอนด์ไทย โดยดูลึกถึงผู้รับผลประโยชน์แท้จริง ขณะ "นักวิเคราะห์" ฟันธงได้ผลแค่ชั่วคราว และลดดอกเบี้ยตรงประเด็นสุด

การเคลื่อนไหวของเงินบาทไทยวานนี้ (12 ก.ค.) อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนไหว ผันผวน หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศใช้มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงิน ซึ่งภายหลัง ธปท. ประกาศข่าวดังกล่าวออกมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทันทีมาอยู่ที่ระดับ 30.91 บาทต่อดอลลาร์ เป็นระดับการอ่อนค่าสุดของวัน ก่อนที่จะรีบาวด์ ขึ้นมา และมาปิดตลาดที่ระดับ 30.88 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบ จากมาตรการดังกล่าวด้วย ทำให้ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ปิดตลาดที่ 1,731.59 จุด ลดลง 8.86 จุด คิดเป็นการลดลง 0.51% มูลค่า การซื้อขายรวม 70,717 ล้านบาท โดยนักลงทุน ต่างชาติซื้อสุทธิจำนวน 457 ล้านบาท ส่วนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ (บอนด์) ไทย พบว่า นักลงทุนต่างชาติเทขาย สุทธิ 912 ล้านบาท

โดยช่วงเช้าวานนี้ ธปท. ได้ออกมาตรการเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น ซึ่งนับเป็นมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินที่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วและไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศที่เริ่มชะลอลง

ธปท.งัด2มาตรการสกัดบาทแข็ง

มาตรการที่ ธปท. นำมาใช้แบ่งเป็น 2 มาตรการ โดยมาตรการแรก คือ ดูแลบัญชี เงินฝากสกุลเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-resident หรือ NR) ซึ่ง ธปท. ได้ปรับลดเกณฑ์ยอดคงค้าง ณ สิ้นวันของบัญชี เงินฝากสกุลเงินบาทของ NR ลงมาอยู่ที่ 200 ล้านบาทต่อราย จากเดิม 300 ล้านบาทต่อราย

ทั้งบัญชี NRBS (non-resident bath account for securities) ซึ่งเป็นบัญชีเงินบาท เพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่นๆ และ NRBA (non-resident bath account) ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดไว้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น การชำระค่าสินค้าและบริการ

ทั้งนี้ ธปท. ระบุว่า บัญชีเงินบาทข้างต้น บางครั้งถูกใช้เป็นช่องทางพักเงินระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะช่วงที่เงินบาทแข็งค่า ดังนั้นเพื่อลดช่องทางดังกล่าว ธปท. จึงได้ปรับเกณฑ์ยอดคงค้างลง โดยเริ่มใช้วันที่ 22 ก.ค.นี้ กรณีบัญชีที่มียอดคงค้างเกินกว่า 200 ล้านบาท ให้สถาบันการเงินดำเนินการให้ NR เจ้าของบัญชีปรับลดยอดคงค้างภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

ส่วน NR ซึ่งไม่ใช่สถาบันการเงินและไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ที่มีการค้าการลงทุนกับคู่ค้าในประเทศไทยและมีการชำระหรือรับชำระกับคู่ค้าเป็นสกุลบาท สามารถยื่นขออนุญาต ธปท. เพื่อขอผ่อนผันยอดคงค้างในบัญชี NRBA ได้เป็นรายกรณี โดย ธปท. จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม

สำหรับมาตรการที่สอง ธปท. ได้ยกระดับความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการรายงานลึกขึ้นถึงระดับชื่อผู้ที่ได้รับผลประโยชน์แท้จริง โดยหมายถึง NR ที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงและหรือผู้ที่มีอำนาจทั้งในทางตรงและทางอ้อมในการตัดสินใจทำธุรกรรมเพื่อถือครอง หรือลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกในไทย ซึ่งเริ่มงวดการรายงานข้อมูลเดือนก.ค.นี้

ลั่นพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติม

นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปท.ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลกับค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่าขึ้นเร็วและแข็งค่าค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินภูมิภาค จนอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ธปท. จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท เพื่อลดทอนช่องทางในการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยธปท. จะติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและพร้อมดำเนินมาตรการที่เตรียมไว้เพิ่มเติม หากยังพบพฤติกรรมการเก็งกำไร

ยอดเงินฝากสกุลบาทต่างชาติพุ่ง

นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี กล่าวว่า สาเหตุที่ ธปท. ต้องออกมาตรการดังกล่าว เชื่อว่าเป็นเพราะยอดเงินฝากสกุลเงินบาทในบัญชี NR ช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเดือนพ.ค. ยอดคงค้างดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 4.82 แสนล้านบาท เทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาที่อยู่ระดับ4.53 แสนล้านบาท

"หากดูเงินฝากที่ผ่านมา ก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมธปท. จึงคุมเข้มตรงนี้ และเชื่อว่ามาตรการนี้อาจคุมได้พอสมควรทำ ชะลอการแข็งค่าได้ แต่คงจะทำให้เงินบาทอ่อนลง ระยะยาวยาก คาดว่าระยะถัดไป อาจเห็นบัญชี NR ของต่างชาติปรับลดลงได้ในระยะข้างหน้า หลังจากธปท.ออกมาตรการนี้”

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากมาตรการนี้ไม่เอาไม่อยู่ มาตรการที่อาจหยุดการแข็งค่าของ ค่าเงินบาทได้ คือ เก็บภาษีบอนด์ต่างชาติ บนคูปองและกำไรเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้ หยุดเงินไหลเข้าต่างชาติได้แน่นอน

เชื่อได้ผลระยะสั้นแนะลดดบ.แทน

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เงินบาทอ่อนค่าลงทันทีหลัง ธปท. ประกาศมาตรการดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะตลาดตกใจ และอยู่ในช่วงปรับตัว อย่างไรก็ตามเชื่อว่ามาตรการนี้อาจไม่ได้ช่วยสกัดเงินทุนไหลเข้าได้มากนัก เพราะอดีต ธปท. ก็เคยใช้มาตรการนี้ โดยการลดวงเงินการถือครองจาก 600 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท แต่พบว่า ลดการแข็งค่าของเงินบาทได้เพียงระยะสั้น สุดท้ายเงินบาทก็กลับมาแข็งค่าใหม่

"การแข็งค่าของค่าเงินบาทในปัจจุบัน ไม่ได้แข็งค่าจากการที่ฝรั่งเข้ามาซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเพียงอย่างเดียว แต่การเข้ามาลงทุนในไทย พบว่ามาจากการที่ธนาคารสหรัฐ ส่งสัญญาณในการลดดอกเบี้ยลง ทำให้เห็นเม็ดเงิน เข้ามาในหลายตลาด ทั้งบอนด์ และตลาดหุ้น จึงเชื่อว่ามาตรการธปท. อาจไม่ได้ลดแรง กดดันการเข้ามาลงทุนของต่างชาติได้”

นายจิติพล กล่าวว่า มาตรการที่เชื่อว่า จะได้ผล และตรงไปตรงมามากที่สุด คือการลดดอกเบี้ย เพราะขณะนี้ ดอกเบี้ยทั่วโลกมีทิศทางลดลง ดังนั้นเชื่อว่าหากธปท.ลดดอกเบี้ย จะเป็นแรงกดดดันสำคัญ ที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าทันที

"พาวเวล"ส่งสัญญาณลดดบ.เดือนนี้

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี (11 ก.ค.) โดยยังคงส่งสัญญาณการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยในเดือนนี้ เช่นเดียวกับการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ (10 ก.ค.)

นายพาวเวล กล่าวว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยลบหลายประการ เช่น ความตึงเครียดทางการค้า และความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กำลังถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจ

นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์มากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. หลังจากที่นายพาวเวลส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้


Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ไฟป่ากินพื้นที่ 40 เฮคเตอร์ในโมร็อกโก ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและพยายามควบคุมไฟ # 12 กรกฎาคม

 

Severe Weather Europe

พายุลูกเห็บรุนแรงใน Alexandrouplis, NE กรีซเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม น่าเสียดายที่พายุรุนแรงครั้งนี้ก่อให้เกิดมีผู้เสียชีวิต 7 ราย รายงาน: XanthiNea.gr

 

Severe Weather Europe

ยังมีหิมะอยู่บ้างที่ Balea Lac (2000 ม.), Transfagarasan, โรมาเนีย เมื่อวานนี้, วันที่ 12 กรกฎาคม รายงาน: @meteoplus

 

Severe Weather Europe

ฟ้าผ่าที่งดงามเหนือ rimini, emilia magliana, อิตาลีในวันที่ 3 กรกฎาคม ขอบคุณ stiv gentili สำหรับรายงาน!

 

Severe Weather Europe

บางอย่างสำหรับคนรักฤดูหนาวที่ตายยาก หิมะที่ Bucegi, Vf Omu (2505 m), โรมาเนีย เมื่อวาน, 12 กรกฎาคม รายงาน: @Meteoplus

 

Severe Weather Europe

เมฆกันชนบนพายุเหนือพาเทียลา, ปัญจาบ, ประเทศอินเดีย เช้านี้วันที่ 13 กรกฎาคม วิดีโอ: Parvinder SinGh Dhundewal

 

Severe Weather Europe

พายุลูกเห็บที่รุนแรงเข้าโจมตี San Bellino (RO) ทางตอนเหนือของอิตาลีเมื่อเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม REport: Valentina Maghini ผ่าน Maycol Checchinato

 

Severe Weather Europe

ลมพัดรุนแรงมากจากพายุฝนฟ้าคะนองในเมซีมีรี, ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม วิดีโอ: Miglena Mincheva / Meteo Balkans

 

Severe Weather Europe

กองลูกเห็บใน Altenseelbach, Nordrhein-Westfalen, ประเทศเยอรมนี เมื่อวาน, วันที่ 12 กรกฎาคม รายงาน: Jutta Gaumann

 

Severe Weather Europe

Spectacular (!!) ใกล้เข้ามาในพายุ Sremska Mitrovica ประเทศเซอร์เบียเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม! รายงาน: Sremska Televizija ผ่าน Marko Nikolic - ขอบคุณ!

 

Severe Weather Europe

น้ำท่วมใน Ptuj, สโลวีเนีย (อีกครั้ง) เมื่อวานนี้วันที่ 12 กรกฎาคม รายงาน: Sandra Fajfarič / Neurje.si

 

Severe Weather Europe

ลมทำลายล้าง ระหว่างเกิดพายุรุนแรงที่Çorumประเทศตุรกีเมื่อวานนี้วันที่ 11 กรกฎาคม ขอบคุณ Kemal Yurduseven สำหรับการรายงาน!

 

Severe Weather Europe

ลูกเห็บจำนวนมาก ใน Vas country, ฮังการีวันนี้ 12 กรกฎาคม รายงาน: Met Hir

 

Severe Weather Europe

พายุลูกเห็บ ใน Gudensberg ประเทศเยอรมนีวันนี้วันที่ 12 กรกฎาคม! รายงาน: Lara Oelschlaeger

 

อาราม มหากรุณาโพธิยาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์

ศิษย์เอกของ พระถังซำจั๋ง


พระถังซำจั๋งเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริง ไปอัญเชิญพระไตรปิฎมาจากชมพูทวีปจริงในสมัยราชวงศ์ถัง แต่ถูกนักเขียนนิยายสมัยราชวงศ์หมิง หยิบยืมชื่อกับการเดินทางของท่าน มาแต่งนิยายเรื่องไซอิ๋ว


เรื่องของพระถังซำจั๋งจึงมีทั้งเรื่องจริงและนิยาย ต่างก็ใช้ชื่อว่า "ไซอิ๋วกี่" หรือบันทึกการเดินทางสู่ประเทศตะวันตก หมายถึง ซินเจียง เอเชียกลาง และอินเดีย


ในนิยายไซอิ๋ว พระถังซำจั๋งมีศิษย์เอกร่วมเดินทาง ๓ ตน คือ ซุนอู้คง (ซุนหงอคง), จูปาเจี้ย (ตือโป๊ยก่าย) และซาอู้จิ้ง (ซัวเจ๋ง) ทั้ง ๓ ตน นี้เป็นอมนุษย์ ไม่มีตัวตนจริงๆ แต่ผู้แต่งนิยายได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลจริง มาแต่งแต้มสีสันจนพิสดาร


มีหลายทฤษฎีที่วิเคราะห์ที่มาถึงศิษ์เอกทั้ง ๓ เช่น หลู่ซวิ่นมักวิเคราะห์ว่าตัวละครทั้ง ๓ ได้อิทธิพลมาจากอมนุษย์ในตำนานจีนโบราณ แต่นักวิจารณ์วรรณคดีท่านอื่นเชื่อว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติของชาวพุทธจีนชาวสมัยโบราณ


หงอคง

ซุนหงอคง มาจากชื่อพระอู้คง พระภิกษุที่มีชื่อเสียงสมัยราชวงศ์ถัง มีช่วงชีวิตระหว่างปี ค.ศ. ๗๓๑ - ๘๑๒ เดิมชื่อว่า เชอเฟิ่งเฉา เป็นทหารชั้นผู้น้อย


ต่อมาติดตามคณะทูตสมัย พระเจ้าถังเสวียนจงไปยังประเทศไซอิ๋วเมื่อปี ๗๕๓ แต่ล้มป่วยลงที่ประเทศคันธาระในปี ๗๕๗ จึงบนบานว่าหากหายป่วย จะบวชเป็นพระ เมื่อหายจึงออกบวชตามคำอธิษฐาน


ท่านได้ศึกษาพระธรรมและภาษาสันสกฤต เป็นศิษย์พระตรีปิฏกาจารย์แห่งคันธาระ (อัฟกานิสถาน) เดินทางไปเทียนจู๋ (อินเดีย) อาศัยอยู่ในดินแดนตะวันตกนานหลายปี จนกระทั่งขอลาอาจารย์กลับบ้านเกิดเมืองนอน พร้อมกับอัญเชิญพระคัมภีร์ และพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าไปด้วย ออกจาริกฝ่าอภันตรายผ่านภูเขา ทะเลทราย กระทั่งถึงฉางอันในปี ๗๙๐.


ท่านอู้คงจากแผ่นดินจีนไปถึง ๔๐ ปี บัดนี้อายุได้ ๖๐ ปี แล้วบิดามารดา ญาติกาทั้งสิ้นล้วนตายจากไปในกบฎอันลู่ซาน นับเป็นการกลับบ้านเกิดที่น่ารันทดใจ แต่การกลับบ้านเกิดได้สร้างคุณูปการใหญ่หลวง เพราะท่านเชิญพระคัมภีร์สำคัญกลับมาด้วย เช่น

"ทศภูมิกศาสตร์" ชื่อเสียงของท่านจึงเกริกไกร ได้รับฉายาว่า พระคณานาจารย์อู้คง (悟空禅师) หรือพระอาจารย์เซ็นอู้คง เดี๋ยวนี้พระเจดีย์ประดิษฐานอัฐิของท่านก็ยังอยู่


พระอาจารย์อู้คง ท่านเป็นคนต่างสมัยกับพระเสวียนจั้ง หรือพระถังซำจั๋งตัวจริง พระถังนั้นเป็นคนต้นราชวงศ์ถัง ส่วนพระอู้คงเป็นคนปลายสมัยราชวงศ์ถัง แต่ต่างก็เดินทางไปชมพูทวีป ต้องระหกระเหินในดินแดนตะวันตกนานหลายปี และอัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมาเหมือนกัน


ตือโป๊ยก่าย

เชื่อกันว่าตือโป๊ยก่วย หรือ จูปาเจี้ย ได้รับแรงบันดาลใจมากจากพระภิกษุในพุทธศาสนาองค์แรกของจีน คือท่าน จูปาเจี้ย ท่านเป็นพระสมัยสามก๊ก เป็นชาววุ่ยก๊ก มีชีวิตระหว่างปีค.ศ. ๒๐๓ - ๒๘๒ ท่านผู้นี้เดิมชื่อว่าจูซื่อสิง ในปี ๒๕๐ ท่านเดินทางไปลั่วหยาง คราวนั้นพระธรรมกาลชาวอินเดียเดินทางมายังวัดม้าขาว เพื่อเผยแพร่พระคัมภีร์ ท่านจูซื่อสิงจึงขอบวช แล้วก็ได้เป็นคนจีนคนแรกๆ ที่ได้บวชเป็นพระ ได้รับฉายาทางธรรมว่า ปาเจี้ย หรือ โป๊ยก่าย แปลว่า ศีล ๘ หลังจากนั้นมีคุณูปการณ์ต่อพุทธศาสนาในจีนเป็นอันมาก


ผู้แต่งนิยายไซอิ๋วนำชื่อของท่าน จูปาเจี้ย (朱八戒) มาล้อเป็นคำพ้องเสียงกับชื่อ จูปาเจี้ย (猪八戒) ในนิยายอย่างมีชั้นเชิง ตัวจริงนั้นท่านแซ่จู (朱) แต่ตัวละครในนิยายเป็นหมู ซึ่งในภาษาจีนคือ จู หรือตือ (猪)


ซัวเจ๋ง

ซัวเจ๋งอาจเรียกได้ว่ามีตัวตนจริงในนิมิต แต่ไม่ใช่มนุษย์ เชื่อกันว่าผู้เขียนนิยายได้แรงบันดาลใจมาจากบันทึกการเดินทางของพระถังซำจั๋งตัวจริง คือบันทึกประวัติพระตรีปิฎกธรรมาจารย์แห่งวัดต้าฉือเอิน (大慈恩寺三藏法师传) เป็นบันทึกการเดินทางของพระเสวียนจั้งอีกฉบับหนึ่ง เล่าว่า


ตอนที่ท่านเดินทางไปถึงเมืองตุนหวง ท่านต้องฝ่าทะเลทราย "มีธารน้ำม่อเหอเหยียนยาวแปดร้อยกว่าลี้ เดิมเรียกธารทราย เบื้องบนไม่มีนก เบื้องล่างไม่มีสัตว์จตุบาท ทั่วผืนดินไร้น้ำและหญ้า"


ธารน้ำม่อเหอเหยียนเรียกเป็นธารน้ำ แต่แท้จริงแล้วเรียกอย่างเสียดสี เพราะคือทะเลทรายดีๆ นี่เอง


พระเสวียนจั้ง หรือพระถังซำจั๋งท่านมุ่งมั่นที่จะฝ่าทะเลทรายไปให้ได้ แต่ท่านเผลอทำถุงน้ำหกลงรดผืนทรายจนเกือบหมดน้ำ แต่ท่านตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่หันหลังกลับแม้แต่ก้าวเดียว จึงต้องฝ่าทะเลทรายอันร้อนระอุนานถึง 4 คืน 5 วัน จนเกือบจะสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว ท่านจึงอธิษฐานถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมให้ช่วยเหลือโดยบอกว่าท่านเดินทางไปอัญเชิญพระธรรมวินัย มิได้หวังชื่อเสียงลาภยศเลย ในตอนเที่ยงคืนที่ 5 เกิดสายลมเย็นชุ่มฉ่ำ กระทบร่างท่านแล้วเกิดเรี่ยวแรงขึ้นมา จึงนอนพักผ่อนสักพัก


ระหว่างที่กำลังนอนพักท่านเกิดนิมิตไปว่ามีเทวดาองค์หนึ่งร่างสูงหลายศอก ในมือถือดาบ แสดงอาการโกรธเกรี้ยว บอกว่า "ทำไมเอาแต่หลับ ไม่มุ่งหน้าเดินทางต่อ?" พระถังซำจั๋งจึงตกใจตื่นขึ้นมา แล้วรวบรวมกำลังกายเดินต่อไป จู่ๆ ม้าที่พาไปด้วยไม่ยอมไปตามทาง จะไปอีกเส้นหนึ่งอยู่ท่าเดียว ท่านรั้งไว้ก็ไม่อยู่ จึงต้องตามมันไป ปรากฎว่ามันพาไปพบแหล่งน้ำในที่สุด


เทพยดาตนนี้ สถิตอยู่ในธารทราย อาจเรียกได้ว่าซาเสิน (沙神) หรือเทพทราย คล้อยกับชื่อ ซาเซิง (沙僧) หรือซัวเจ๋ง ที่แปลว่า ภิกษุทราย แต่ชื่อจริงๆ ของตัวละครนี้คือ ซาอู้จิ้ง (沙悟浄) หรือ หงอเจ้ง


ชื่อของศิษย์ร่วมทางพระถังนี้มีนัยทางธรรม โป๊ยก่ายแปลว่าศีลแปด หงอเจ้งแปลว่ารู้แจ้งในแดนบริสุทธิ์ หงอคงแปลว่ารู้แจ้งในความว่าง


ในทางมหายานแล้ว โป๊ยก่ายสะท้อนนิกายวินัย (รักษาศีลนำการปฏิบัติ) หงอเจ้งคือนิกายสุขาวดี (ภาวนามุ่งสู่แดนบริสุทธิ์) และหงอคง คือนิกายเซน (ปฏิบัติให้ถึงความว่าง)


ภาพประกอบ พระถังซำจั๋งพร้อมศิษญ์อุปัฏฐาก ศิลปะญี่ปุ่น สมัยคามาคุระ ศตวรรษที่ 14 อยู่ที่ The Metropolitan Museum of Art.


ขอบคุณข้อมูล : Kornkit Disthan.

กรกิจ ดิษฐาน - Post Today.


มหากรุณาพุทธาลัย

 

อาราม มหากรุณาโพธิยาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์

ประทีปแห่งรัตนตรัย

โอม เตยาถา เบญจาจียา อาวาโมฆะนา เยโซฮา

ตะเกียงแห่งปณิธานจงสว่างไสวขึ้น

ทั่วทั้งตรีสหัสมหาสหัสโลกธาตุ

ไส้ตะเกียงประดุจเขาสุเมรุราช

น้ำมันตะเกียง ดุจน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔


แสงแห่งประทีป บูชาต่อหน้าพระตถาคตทั้งหลาย

ไฟแห่งโพธิมรรคจึงเผาผลาญซึ่งอกุศล

จากกาย วาจา และใจ แม้นรกมืดในหัวใจ

ก็สามารถส่องสว่างเพื่อขจัดความมืดมน

บูชาพุทธโพธิสัตว์ที่ประทับในพุทธเกษตรทั่วทั้งทศทิศ


โอม อโลเก อา โฮง ( ๓ ครั้ง )


แสงประทีปอันโรจนานี้ ถวายบูชาต่อพระบรมศาสดา ๑,๐๐๐ พระองค์ และพระพุทธมารดาอีก ๑,๐๐๐ พระองค์

เป็นความศรัทธา และเคารพที่ออกจากก้นบึ้งของหัวใจ

บูชาพระพุทธ และบรรดาฑากิณีทั้งหลาย


บูชาคุณบุพการีแห่งสรรพสัตว์ผู้มีพระคุณ

ผู้เคยเป็นบิดามารดา ในวัฏฏะอันมิรู้สิ้น

ในสังสารวัฏการเกิดมาเพื่อพบพระสัทธรรม

เป็นเรื่องยากที่สุด


บัดนี้ขอให้เพลิงแห่งพระรัตนตรัย

จงเผาผลาญกิเลสในใจ ดวงจิตที่ถูกชำระบริสุทธิ์

จงได้ไปอุบัติในพุทธเกษตรในทศทิศ

บัดนี้เราได้พบแสงสว่างอันบริสุทธิ์ไร้มลทิน

ขอให้พวกเราจงสืบทอดและส่งต่อไปในใจผู้คน


เตยาถา เบญจาจียา อาวาพุทธา นาเยโซฮา.


จาก : โศลกของเพลง ที่พระอาจารย์กรรมาปะ

ถวายประทีปที่พุทธคยา.

ขอบคุณข้อมูล : ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง.


มหากรุณาพุทธาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์ แคเเถว นครปฐม 。 佛統三王阿隆大佛禪寺。大悲佛殿

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ลาวยืนยันเนื้อหมูในตลาดเวียงจันทน์ปลอดภัย แนะปรุงสุกก่อนทาน

.

สปป.ลาว 13 ก.ค. - ทางการลาวได้ออกมายืนยันว่าเนื้อหมูที่ขายในตลาดทั่วนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศ ปลอดภัยที่จะซื้อหาไปรับประทาน เนื่องจากมีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ หลังมีรายงานการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สื่อท้องถิ่นของลาวรายงานวานนี้ (12)

.

เจ้าหน้าที่ลาวรายงานว่า มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในเวียงจันทน์ ที่มีหมูตายประมาณ 100 ตัว และนับจนถึงปัจจุบัน มีหมูตายด้วยโรคนี้ไปกว่า 2,500 ตัวทั่วประเทศ

.

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ยืนยันว่า ปลอดภัยที่จะบริโภคเนื้อหมู แต่ควรปรุงให้สุก แม้โรคติดต่อนี้จะมีอันตรายร้ายแรงต่อหมู แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างคำกล่าวของนายบุนกว้าง คำบุนเฮือง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและป่าไม้ ที่กล่าวถึงความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากแขวงสาละวัน ที่อยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ราว 670 กิโลเมตร

.

กระทรวงเกษตรและป่าไม้ของลาวได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในแขวงสาละวัน และแขวงต่างๆ เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองเพื่อต่อสู้กับโรคอหิวาต์แอฟริกา

.

“เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและป่าไม้ และกระทรวงสาธารณสุขกำลังทำงานร่วมกันกับกรมอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์เนื้อหมูในตลาดเวียงจันทน์เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค” นายบุนกว้าง คำบุนเฮือง กล่าว

.

การตรวจสอบมีวัตถุประสงค์ที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และรับประกันว่า จะมีเนื้อหมูเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ นอกจากนี้ สำนักงานการเกษตรและป่าไม้ประจำแขวงเวียงจันทน์ ยังเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบการขนส่งหมูเข้าสู่ตัวเมือง นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่แขวงสาละวันยืนยันการระบาดของโรคในเดือน มิ.ย.