ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชลประทานขอนแก่นเตือนแล้งจัด! เขื่อนอุบลรัตน์ หยุดส่งน้ำเข้านา หลังเหลือแค่ 26% 07 ต.ค. 62 (17:05 น.)
    Add @Sanook.com
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU4My83OTE3MDAyL3Vib2xyYXRhbmFkYW0tZHJvdWdodC5qcGc=.jpg
    reporter_sanook.png
    สนับสนุนเนื้อหา

    โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ออกประกาศฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะนี้น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เหลือน้ำกว่าปกติมาก เพียงแค่ 631.61 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 26.18% ของความจุที่ระดับเก็บกัก เท่านั้น

    เหตุนี้ทำให้มีน้ำเพียงพอเฉพาะอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ แต่ไม่มีพอสำหรับการทำเกษตรในฤดูฝนปีนี้ ไม่ใช่แค่นั้น ขณะนี้เข้าสู่ปลายฤดูฝน ที่ฝนจะค่อยๆ ลดลง จึงต้องหยุดส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ ยังเตือนให้เกษตรกรพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูกในช่วงที่เหลือของปีนี้ และสำรองน้ำไว้ในสระเก็บน้ำและหนองน้ำให้มากที่สุด เพื่อให้ผ่านช่วงฤดูแล้วที่กำลังจะมาถึงให้ได้

    โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ยังเรียกร้องไปยังประชาชนทั่วไปให้ใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย

    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU4My83OTE3MDAyL25vbmd3YWktd2FybmluZy5qcGc=.jpg


    ขอขอบคุณ

    ภาพ :Facebook/กฟผ. เขื่อนอุบลรัตน์


    https://www.sanook.com/news/7917002...fff-B5LXYN1foWoA4kep9J7juzXfb9HHM9qrIFJ_yBPzI
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เศรษฐกิจปี 63 ถึงขั้นสาหัส
    เผยแพร่: 2 ต.ค. 2562 17:03 โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา
    562000009805401.jpg

    ในแวดวงพ่อค้าและนักธุรกิจ กำลังพูดกันมากถึงภาวะเศรษฐกิจปีหน้า และส่วนใหญ่ประเมินในทิศทางเดียวกันว่า ปี 2563 เศรษฐกิจจะซบเซาขนาดหนักจนถึงขั้นวิกฤต เพราะข้อมูลแทบทุกด้านกำลังบ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายลง

    การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา แม้ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.5% ต่อปี แต่ได้ปรับลดประมาณการอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในปีนี้ลง จากเดิม 3.3% เหลือ 2.8%

    ผลกระทบจากสงครามการค้า การส่งออกที่ลดลง การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า การบริโภคมีแนวโน้มชะลอตัว รายได้และการจ้างงานลดลง โดยเฉพาะภาคการผลิตเพื่อการส่งออก และยังมีแรงกดดันจากหนี้ภาคครัวเรือนระดับสูง ทำให้จีดีพีโตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้

    เมื่อต้นปี มีการคาดการณ์ว่า จีดีพีปีนี้จะขยายตัว 4% แต่ปัจจุบันทุกสำนักวิจัยเศรษฐกิจหั่นประมาณการลงหมด และส่วนใหญ่คาดหมายว่า จีดีพีจะโตต่ำกว่า 3%

    สิ่งที่ กนง.ติดตามคือ พฤติกรรมการก่อหนี้และความสามารถในการชำระหนี้ภาคครัวเรือนและเอสเอ็มอี รวมทั้งการก่อหนี้กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ หรือกลุ่มธุรกิจของบรรดาเจ้าสัวที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร

    ยอดส่งออก 8 เดือนแรกปีนี้ติดลบ 2.19% แต่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าว่า การส่งออกปีนี้จะเติบโตศูนย์เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สำนักวิจัยเศรษฐกิจโดยทั่วไปคาดหมายว่า ยอดส่งออกจะติดลบ

    การส่งออกที่ตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อเนื่องจากธุรกิจการผลิตเพื่อการส่งออก โดยการเลิกจ้างพนักงานเริ่มปะทุขึ้น และเชื่อว่า จะไม่เกิดขึ้นเฉพาะธุรกิจส่งออกเท่านั้น แต่ธุรกิจโดยทั่วไปจะเกิดการเลิกจ้างพนักงานมากขึ้น จำนวนคนว่างงานจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

    กำลังซื้อภายในประเทศที่หดตัว รายได้ของประชาชนที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้ภาคการค้าและภาคบริการซบเซา กิจการต่างๆ ทยอยปิดตัว

    ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นประมาณ 20% ในช่วง 3 ปี จนกลายเป็นประเทศที่ค่าเงินแข็งที่สุดอันดับต้นของโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งขันด้านการส่งออก เพราะสินค้าของไทยแพงขึ้น และยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการท่องเที่ยว

    เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

    ในด้านการลงทุนภาคเอกชน แทบจะหยุดนิ่ง เพราะคนที่คิดจะลงทุน มักได้รับคำแนะนำให้ชะลอไว้ก่อน และกำเงินสดไว้ให้แน่น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ กำลังซื้อตกต่ำสุดขีด การลงทุนทุกด้านเต็มไปด้วยความเสี่ยง

    ตลาดหุ้นตกอยู่สภาพผันผวน ไร้ทิศทาง จนนักวิเคราะห์ต้องปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้ลงหลายรอบ โดยตัวเลขที่ประเมินกันไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 1,700 จุด และคงจะต้องปรับลดประมาณการลงอีก เช่นเดียวกับผลกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งต้นปีประเมินกันที่ 110 บาทต่อหุ้น แต่ปรับลดลงมาเหลือ 99 บาทต่อหุ้น

    ปี 2561 นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นตลอดทั้งปี มียอดขายสุทธิสะสมตลอดปีรวมกว่า 2.8 แสนล้านบาท แต่ปีนี้ยังไม่กลับมาลงทุน และทยอยขายหุ้นต่อจากปีก่อน โดยมียอดขายหุ้นสุทธิสะสมสิ้นสุดวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา จำนวน6,715 ล้านบาท โดย 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ ไม่มีสัญญาณว่า ต่างชาติจะขนเงินกลับตลาดหุ้น

    สิ่งที่น่ากังวลอีกด้านคือ ปัญหาหนี้เสีย

    หนี้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนี้ภาคครัวเรือน หนี้ธุรกิจเอสเอ็มอี หรือแม้แต่หนี้ของกลุ่มเจ้าสัวล้วนน่ากลัวหมด

    หนี้ภาคครัวเรือน เมื่อสิ้นไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 12.8 ล้านบาท หรือสัดส่วน 78.7% ของจีดีพีสูงติดอันดับที่ 11 ของโลก

    หนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่ง มีสัดส่วนประมาณ 50%ยอดสินเชื่อทั้งหมดของแต่ละธนาคาร

    หนี้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความเปราะบาง เพราะรายได้ผู้บริโภคลดลง กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ แม้การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงินจะพิจารณากลั่นกรองความสามารถในการชำระหนี้อย่างรอบคอบแล้วก็ตาม และกำลังซื้อที่ตกต่ำ จะส่งผลกระทบต่อการขายโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

    ส่วนหนี้กลุ่มธุรกิจเจ้าสัว วงเงินกู้ของกลุ่มเจ้าสัวแทบจะเต็มเพดานแล้ว และสถาบันการเงินเริ่มระวังการปล่อยสินเชื่อธุรกิจกลุ่มเจ้าสัว โดยพิจารณาคำขอสินเชื่ออย่างเข้มงวดขึ้น จนต้องหันไปออกหุ้นกู้ระดมทุน และโยนความเสี่ยงไปให้ประชาชนผู้ลงทุนในหุ้นกู้

    สถาบันการเงินทั้งระบบเคยมีประสบการณ์ความล่มสลาย จากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 แล้ว จึงระวังตัว กลัวปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล แต่เศรษฐกิจที่กำลังหัวทิ่มดิ่งลงเหวเต็มตัว สถาบันการเงินก็ตกอยู่ในความเสี่ยงเหมือนกัน

    ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปีนี้มีสภาพเหี่ยวเฉา สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนกังวลในผลประกอบการกลุ่มธนาคารเหมือนกัน

    แนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า จีดีพีปีหน้าถูกคาดหมายภายใต้ความเกรงใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยทุกสำนักวิจัยทำนายว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่ดีขึ้นกว่าปีนี้ จีดีพีจะโตใกล้เคียงกับปีนี้หรือต่ำกว่า

    รัฐบาลกำลังทุ่มสุดตัว อัดฉีดเงินลงไปในระบบผ่านโครงการประชานิยมในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปีหน้า รัฐบาลอาจต้องเตรียมสำรองเงินไว้ล่วงหน้า เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่

    และเป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ใหญ่และร้ายแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะการล่มสลายจะเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า

    https://mgronline.com/daily/detail/...heT6o_69lndJZKv3lm4_DDlVDieRVnzPfxRHDWjsTPu2Q
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thon Thamrongnawasawat

    ภาพสดๆ จากทะเลไทยภาพนี้ คงเป็นเหตุผลดีๆ ที่ตอบว่า ทำไมห้างร้านควรจะเลิกแจกถุงก๊อบแก๊บในปีหน้า #ก็เพราะมันท่วมทะเลแล้วครับ

    ฝรั่งบอกว่าในปี 2050 หากเราไม่ทำอะไร ในมหาสมุทรจะมีขยะพลาสติกมากกว่าปลา

    ทว่า...ถ้าดูทะเลไทย ผมคิดว่าเราใกล้จะถึงวันนั้นแล้ว

    หรืออาจถึงแล้วก็เป็นได้

    สงสัยเหมือนกันว่า น้องพะยูน น้องเต่า และสรรพสัตว์ในทะเลจะอยู่กันได้อย่างไร

    สงสัยว่าจะมีไมโครพลาสติกอีกกี่ล้านล้านล้านที่แตกตัวออกมาทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที...

    ภาพนี้ถ่ายวูบเดียวที่เรือวิ่งผ่าน ผมนับสองรอบ ได้ 45 ถุง

    45 ถุงที่เห็นจากผิวน้ำ กลางน้ำมีอีกเท่าไหร่ ก้นทะเลกองรวมกันอีกเท่าไหร่ ?

    ภาพวูบเดียว เรือวิ่งอีกไกล ถุงลอยเคว้งคว้างเต็มทะเล

    นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมีหน้าที่นำสิ่งที่เกิดในทะเลมาบอกให้คนอื่นให้ทราบ จากการศึกษา การวิจัย ฯลฯ

    แต่หนนี้ ผมบอกด้วยภาพง่ายๆ ใช้นิ้วนับถุงได้ ไม่ต้องใช้วิชาสถิติประยุกต์

    นับเสร็จแล้วฟังผมบอกต่อ บอกว่าเรากำลังแย่แล้วครับ ไม่ต้องรอปีหน้าหรือปีไหน เอาปีนี้ตอนนี้แหละ

    ทะเลไทยกำลังมีถุงพลาสติกมากกว่าแมงกะพรุน

    จึงสนับสนุนท่านรมต.และกระทรวงทรัพยากรฯ แบบสุดใจขาดดิ้น ในการแบนถุงพลาสติกหูหิ้วจากห้างร้านในปีหน้า

    และแบนให้หมดประเทศในปี 64

    เพราะทะเลที่ถูกขยะพลาสติกทำร้าย มันไม่ใช่แค่ติดมุมโดนระดมต่อย

    เธอลงไปนอนหมอบกับพื้นแล้ว กำลังโดนตื้บๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก

    จึงสนับสนุนเพื่อนธรณ์สุดใจขาดดิ้นว่าเราเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอปีใหม่ ถือถุงผ้าไปห้างไปร้านสะดวกซื้อ แล้วลองดูว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ได้ไหม

    ถือถุงผ้า ใบหน้าอมยิ้ม ชั้นลดความสะดวกลงนิดเดียว แต่ได้ความสุขความสบายใจคืนมามหาศาล

    เพราะวันนี้ฉันเลิกทำร้ายทะเลแล้วจ้ะ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนแจงคลิปนักโทษมุสลิมอุยกูร์ ปิดตา-มัดมือ ส่งเข้า “ค่ายกักกัน” เป็นเรื่องปกติ

    19387950-7545499-image-a-33_1570441513062.jpg

    ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดออนไลน์
    เผยแพร่ วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2562
    เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม 2562) เดลีเมล รายงานความคืบหน้าประเด็นสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในจีนจากคลิปวิดีโอนักโทษชาวจีนมุสลิมหลายร้อยคนซึ่งถูกใส่กุญแจมือและปิดตาก่อนจะถูกขนย้ายไปศูนย์การศึกษาใหม่ ล่าสุด ทางการจีนออกมาอ้างว่า “เป็นเรื่องปกติตามกระบวนการยุติธรรม”

    คลิปวิดีโอบันทึกจากโดรนและเผยแพร่ทางยูทูบแชนแนล Fear on War เมื่อเดือนที่แล้ว เผยนักโทษจำนวนมากซึ่งถูกนำตัวออกจากรถไฟและนั่งเป็นแถวบนพื้นชานชาลาสถานีรถไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) หลายสิบนายคอยเฝ้า

    ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกโกนศีรษะ มีผ้าปิดตา และใส่กุญแจมือ อีกทั้ง สวมเสื้อกั๊กสีม่วง ด้านหลังเสื้อมีข้อความ “ศูนย์กักกันคัชการ์” และคาดว่านักโทษหลายคนเป็นชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์

    ข้อความใต้คลิปวิดีโออธิบายด้วยว่า บันทึกมาจากเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยมองโกลปายิงกัวเหลิง ทางใต้ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน แม้ว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าเป็นของจริง

    ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองตะวันตกนายหนึ่งระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริง โดยสามารถตรวจสอบการขนย้ายนักโทษ 500 คน จากเมืองคัชการ์ไปเมืองคอร์ลาได้ก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน และทั้งสองเมืองอยู่ในเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยมองโกลปายิงกัว


    ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ สกายนิวส์ จากแหล่งข่าวความมั่นคงยุโรปที่อ้างว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริงเช่นกัน ซึ่งปรากฏนักโทษมุสลิมอุยกูร์ถึง 600 คน ถูกขนย้ายก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน เป็นวิธีปกติที่ทางการจีนขนย้ายนักโทษประเภทนี้

    ด้าน นาธาน รูเซอร์ นักวิจัยจากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย ให้ความเห็นส่วนตัวทางทวิตเตอร์ว่า จากการวิเคราะห์ คลิปดังกล่าวน่าจะถ่ายจากสถานีรถไฟคอร์ลาตะวันตกในเมืองคอร์ลาเอง

    ขณะที่ฮิวแมนไรต์สวอตซ์ของสหรัฐระบุว่า คลิปดังกล่าวแสดงการละเมิดสิทธิมนุษยชนขนานใหญ่ต่อชาวอุยกูร์จากรัฐบาลจีน พร้อมเรียกร้องการสอบสวนการอย่างอิสระต่อการที่จีนปฏิบัติต่อชาวมุสลิมในประเทศ

    อย่างไรก็ตาม ทางการเขตซินเจียงอุยกูร์ชี้แจงในแถลงการณ์ผ่านซีเอ็นเอ็นว่า การขนย้ายนักโทษโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทำตามกระบวนการยุติธรรมปกติ การปราบปรามอาชญากรรมตามกฎหมายเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ และเสริมว่า การปราบปรามอาชญากรรมของเขตซินเจียงอุยกูร์ไม่เคยเชื่อมโยงกับชาติพันธุ์หรือศาสนา

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประณามรัฐบาลจีนต่อการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ และก่อนหน้านี้เคยเรียกการปฏิบัติชนกลุ่มน้อยชายอุยกูร์ใน “คราบเลวร้ายที่สุดในโลก” แต่ นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตอบโต้คำพูดของนายพอมเพโอว่า “โกหก”


    https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_235872
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวฮ่องกงหวั่นสถานการณ์บานปลาย แห่ตุนอาหารจนเกลี้ยงชั้น กดเงินหมดตู้เอทีเอ็ม เผยแพร่: 8 ต.ค. 2562 10:46 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009977401.jpg

    ชาวฮ่องกงบางส่วนรีบไปซื้อสินค้าตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด แต่ก็ยังต้องต่อแถวชำระเงินนานกว่า 45 นาที (แฟ้มภาพเอเอฟพี - ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา)

    กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (7 ต.ค.) ชาวฮ่องกงแห่ซื้อเสบียงอาหารกักตุนจนสินค้าหมดชั้น นอกจากนี้ ยังพากันต่อแถวยาวเหยียดเพื่อถอนเงินจากเอทีเอ็ม หลังสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกงมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

    รายงานระบุว่า ชาวฮ่องกงบางส่วนรีบไปซื้อสินค้าตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด แต่ก็ยังต้องต่อแถวชำระเงินนานกว่า 45 นาที ส่วนผู้ที่มาช่วงสายต้องพบกับชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่า โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร และขนมต่าง ๆ

    แม่บ้านแซ่หม่าระบุว่า เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต บรรยากาศดูเหมือนอยู่ในภาวะสงคราม เธอเห็นผู้คนกักตุนสินค้าแม้แต่กระทั่งกระดาษชำระ

    องค์กรการเงินฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority) ระบุว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายในฮ่องกงทำให้ตู้เอทีเอ็มร้อยละ 10 ในพื้นที่ฮ่องกงไม่สามารถใช้บริการได้

    นอกจากนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวนมากยังปิดให้บริการ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตวอลมาร์ทในย่านว่านฉาย ทำให้ประชาชนจำนวนมาก้องเดินทางเวียนหาซูเปอร์มาร์เก็ตที่ให้บริการ

    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวฮ่องกงที่ได้รับความเดือนร้อนตำหนิผู้ชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อน และเรียกร้องให้กลับไปชุมนุมอย่างสงบสันติ

    https://mgronline.com/china/detail/...402VAIvKWrRf6yW82cg9uussDDKU-0GaR3sJqdkiRnVuE
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประท้วงฮ่องกง : รัฐบาลอาจตัดอินเทอร์เน็ต หลัง กม.ห้ามสวมหน้ากากไม่เป็นผล เผยแพร่: 8 ต.ค. 2562 10:48 ปรับปรุง: 8 ต.ค. 2562 11:12 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009988701.jpg

    ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลได้จุดไฟในวันชัยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม หลังจากการชุมนุมเพื่อต่อต้านกฎหมายต่อต้านหน้ากากที่ออกโดยรัฐบาลเมื่อวันก่อน (ภาพเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์/แซมซาง)
    เอเอฟพี รายงาน (8 ต.ค.) - รัฐบาลฮ่องกงอาจควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อควบคุมความวุ่นวายจากการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นักการเมืองมืออาชีพอาวุโสของปักกิ่งกล่าวเมื่อวานนี้หลังจากที่กฎหมายฉุกเฉินห้ามผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ไม่สามารถจัดการกับความไม่สงบ

    รายงานข่าวกล่าวว่า การประท้วงทวีความรุนแรงหลังจากการประกาศของรัฐบาลฮ่องกง ห้ามผู้ประท้วงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการนำกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินยุคอาณานิคมซึ่งไม่ได้ใช้มานานกว่า 50 ปี

    อิป กว็อก-ฮิม สมาชิกสภาบริหารของรัฐบาลกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ของการสั่งห้ามทางอินเทอร์เน็ต”

    อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ประท้วงที่ไม่มีผู้นำสาธารณะ แต่ใช้ฟอรัมออนไลน์และแอปส่งข้อความที่เข้ารหัสเพื่อระดมพล

    อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่ารัฐบาลยอมรับว่าการปิดระบบออนไลน์ใดๆ อาจส่งผลกระทบในทางที่เสียหาย

    เมื่อคืนที่ผ่านมาการประท้วงยังคงมีขนาดย่อมๆ หลังนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้มีการประท้วงทั่วฮ่องกงอีกครั้งเมื่อคืนตั้งแต่เวลา 20.00 น.

    ตำรวจปราบจลาจลอยู่ในพื้นที่เตรียมพร้อมแม้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเสื้อเชิ้ตสีดำจำนวนมากทั่วบริเวณรวมถึงย่านชอปปิ้งคอสเวย์ เบย์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของความรุนแรงที่ร้านค้าบางแห่งได้ปิดบานประตูหน้าต่างไว้ก่อน

    MTR Corp จำกัดการให้บริการรถไฟเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์และสิ้นสุดเวลา 18.00 น. ยกเว้นรถไฟด่วนไปยังสนามบินเพื่อซ่อมสถานีที่ถูกทำลายเสียหาย

    RTHK รายงานว่า เมื่อวานนี้ สำนักการศึกษาฮ่องกงกระตุ้นให้นักเรียนหลีกเลี่ยง “กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย” และแนะนำให้พวกเขาตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนที่จะไปโรงเรียนวันนี้

    สำนักฯ ยังขอให้ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมรายงานก่อน 11.00 น.วันนี้ กรณีนักเรียนสวมหน้ากาก คว่ำบาตรหรือขาดเรียนด้วยเหตุผลอื่น

    นายอีริค เฉิง อาจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า “มีแรงต่อต้านตำรวจ และความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ”

    ก่อนหน้านี้ มีคนกลุ่มเล็กๆ รวมตัวกันอยู่นอกศาลผู้พิพากษาตะวันออกซึ่งมีผู้ประท้วงสองคนคือชายอายุ 18 ปี และหญิงอายุ 38 ปีถูกคุมขัง และถูกตั้งข้อหาด้วยการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เดินทางมาขึ้นศาลฟังการพิจารณา

    พวกเขาได้รับการปล่อยตัวด้วยการประกันตัวและจำกัดข้อปฏิบัติ รวมถึงการเดินทางออกจากฮ่องกง

    https://mgronline.com/china/detail/9620000096810
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประท้วงฮ่องกง: ผู้ประท้วงต่อยหน้าพนักงาน JPMorgan ไล่กลับแผ่นดินใหญ่ เผยแพร่: 7 ต.ค. 2562 09:53 ปรับปรุง: 7 ต.ค. 2562 10:33 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009944301.jpg

    พนักงานของเจพีมอร์แกนเชส (ไม่ได้ระบุนาม) ได้บอกกับผู้ที่ตะโกนใส่เขาเพื่อกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ว่า “พวกเราทุกคนเป็นคนจีน” (ภาพ : SCMP)
    เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ (5 ต.ค. 2019) - พนักงาน JPMorgan ในฮ่องกง พูดภาษาจีนกลาง ถูกต่อยหน้าโดยผู้ประท้วงนอกสำนักงานใหญ่ของบริษัทในฮ่องกงเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

    วิดีโอแสดงให้เห็นว่าพนักงานของ JPMorgan Chase ที่พูดภาษาจีนถูกต่อยหน้าโดยผู้ประท้วงนอกสำนักงานหลักของบริษัทในฮ่องกง ทำให้เกิดความโกรธเคืองในจีนแผ่นดินใหญ่

    ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ แสดงให้เห็นว่า พนักงาน JPMorgan Chase คนหนึ่งถูกล้อมรอบด้วยสื่อ ขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนไล่เขา “กลับไปที่แผ่นดินใหญ่!”

    พนักงานฯ ตอบว่า“ พวกเราทุกคนเป็นคนจีน” ในขณะที่เขาพยายามเดินกลับเข้าไปในอาคารสำนักงาน แต่สื่อมวลชนคนหนึ่งปิดประตู ผู้ประท้วงคนหนึ่งเข้ามาทางด้านหลังต่อยเขาที่ใบหน้าหลายครั้ง จนแว่นตาของเขากระเด็น จากวิดีโอยังไม่พบเหตุอื่นที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเกี่ยวกับบริษัทฯ

    รายงานข่าวกล่าวว่า พนักงาน JPMorgan Chase ขอให้ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสวมเสื้อสื่อมวลชน เพื่อแสดงบัตรสื่อของเขา

    ชายคนนั้นตอบว่า“ ทำไมต้องแสดงบัตรสื่อมวลชนให้คุณดูด้วย”

    ทั้งนี้ จากวิดีโอของเหตุการณ์ก่อให้เกิดปฏิกิริยาโกรธเคืองของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงมีผู้วิจารณ์ว่าพฤติกรรมแบบนี้ต่อต้านกับการเรียกร้องเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยในเมือง




    (คลิป) พนักงานของเจพีมอร์แกนเชส (ไม่ได้ระบุนาม) ได้บอกกับผู้ที่ตะโกนไล่เขากลับไปยังแผ่นดินใหญ่ว่า “พวกเราทุกคนเป็นคนจีน”

    https://mgronline.com/china/detail/9620000096406
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวจีนหวั่นพิษเศรษฐกิจ งดเที่ยวต่างประเทศ นอนกอดเงินอยู่บ้านในวันหยุดยาววันชาติ เผยแพร่: 4 ต.ค. 2562 17:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000009884201.jpg

    ชาวจีนร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันชาติ (แฟ้มภาพเอเอฟพี)

    กลุ่มสื่อจีนรายงาน (4 ต.ค.) ชาวจีนงดใช้จ่ายสิ้นเปลือง/เที่ยวต่างประเทศ และเลือกที่จะพักอยู่บ้านในวันหยุดยาวเฉลิมฉลองวันชาติจีนปีนี้

    รายงานระบุว่า ทั่วไปแล้ว วันหยุดยาวเฉลิมฉลองวันชาติจีนประจำปีเป็นเทศกาลท่องเที่ยวของชาวจีน ที่พากันออกไปจับจ่ายใช้สอบ ทานอาหารในภัตตาคารและท่องเที่ยวต่างประเทศ

    อย่างไรก็ดี ในปีนี้ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐส่งผลให้ชาวจีนระมัดระวังการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น และเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากกว่าการท่องเที่ยวในต่างประเทศ

    “Ctrip.com” เว็บไซต์บริการท่องเที่ยวชั้นนำของจีน เปิดเผยว่า การจองทริปท่องเที่ยวในปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แม้ว่าตั๋วเครื่องบินจะราคาถูกลงก็ตาม โดยเงินหยวนที่อ่อนค่าลงและสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงทำให้ชาวจีนไปฮ่องกงและไต้หวันน้อยลง

    ทั้งนี้ วันชาติจีนซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี รัฐบาลจีนได้จัดให้มีกิจกรรมเฉลิมฉลองทั่วประเทศ ทั้งยังกำหนดให้ช่วงเวลานี้เป็นวันหยุดยาว ที่เรียกว่า "สัปดาห์ทอง(黄金周)" เพื่อให้ชาวจีนเดินทางออกไปจับจ่ายใช้สอย ท่องเที่ยวพักผ่อน ส่งผลให้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

    https://mgronline.com/china/detail/9620000095792
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    Alicante ยังไม่สามารถฟื้นตัว หลังจาก 20 วันจากสถานการณ์น้ำท่วมที่มาถึง # 6 ตุลาคม


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุทรายในซาอุดิอาระเบีย #8 ต. ค.

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุทอร์นาโดใน cúcuta #7 ตค.


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ

    #พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเภทที่ 5 มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น
    โดย Rodrigo Contreras Lopez -8 ตุลาคม 2019.
    ไต้ฝุ่นฮากิบิสพัฒนาอย่างรวดเร็วในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเสริมกำลังจากพายุโซนร้อนไปจนถึงพายุไต้ฝุ่นระดับซุปเปอร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

    นี่เองที่ทำให้ฮากิบิสเป็นพายุที่ยี่สิบในภูมิภาคในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุหมุนเขตร้อนที่ระเบิดได้เร็วที่สุด

    ระหว่างเวลา 12.00 น. GMT ในวันอาทิตย์และเวลาเดียวกันในวันจันทร์ลมของระบบได้เปลี่ยนจาก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 250 กม. / ชม. เนื่องจากศูนย์กลางอยู่ใกล้เกาะ Anatahan ทางตอนเหนือของ Mariana

    การเริ่มต้น บรรยากาศ
    บรรยากาศ
    พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเภทที่ 5 มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น
    โดย Rodrigo Contreras Lopez -8 ตุลาคม 2019

    Hagibis เป็นหนึ่งในพายุที่ระเบิดได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ไต้ฝุ่นฮากิบิสพัฒนาอย่างรวดเร็วในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเสริมกำลังจากพายุโซนร้อนไปจนถึงพายุไต้ฝุ่นระดับซุปเปอร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

    นี่เองที่ทำให้ฮากิบิสเป็นพายุที่ยี่สิบในภูมิภาคในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุหมุนเขตร้อนที่ระเบิดได้เร็วที่สุด

    ระหว่างเวลา 12.00 น. GMT ในวันอาทิตย์และเวลาเดียวกันในวันจันทร์ลมของระบบได้เปลี่ยนจาก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 250 กม. / ชม. เนื่องจากศูนย์กลางอยู่ใกล้เกาะ Anatahan ทางตอนเหนือของ Mariana

    เป็นที่ทราบกันดีว่าพายุเฮอริเคน Patricia (ตุลาคม 2558) และ Wilma (2005) นั้นแข็งแกร่งขึ้นเร็วขึ้น


    ตอนนี้ไต้ฝุ่นฮากิบิสอยู่ห่างจากกวมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 380 กม. มีลมแรง 250 กม. / ชม. และลมกระโชกแรงเกือบ 305 กม. / ชม. มันเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนแอตแลนติกระดับ 5 ที่แข็งแกร่งและคาดว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าโดยมีลมที่สัมผัส 260 กม.

    คาดว่าพายุนี้จะพัดไปทางเหนือก่อนที่จะเบี่ยงเบนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่จะเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดในการได้รับผลกระทบโดยตรงจากฮากิบิส อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร

    ฮากิบิสจะอ่อนตัวลงเมื่อเข้าใกล้ญี่ปุ่นเนื่องจากลมระดับสูงที่ไม่เอื้ออำนวยมากขึ้น ที่กล่าวว่ามันควรจะยังคงเป็นพายุไต้ฝุ่นที่แข็งแกร่งและอันตราย ฮอนชูน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด การคาดการณ์ล่าสุดจับตาพายุที่โตเกียวเมื่อเวลาประมาณ 18:00 น. GMT ในวันเสาร์ซึ่งดูเหมือนจะเป็นวันที่เลวร้ายสำหรับฮอนชูส่วนใหญ่
    พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเป็นหนึ่งในพายุที่ระเบิดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเภทที่ 5 มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น
    โดย Rodrigo Contreras Lopez -8 ตุลาคม 2019
    Hagibis เป็นหนึ่งในพายุที่ระเบิดได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ไต้ฝุ่นฮากิบิสพัฒนาอย่างรวดเร็วในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเสริมกำลังจากพายุโซนร้อนไปจนถึงพายุไต้ฝุ่นระดับซุปเปอร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

    นี่เองที่ทำให้ฮากิบิสเป็นพายุที่ยี่สิบในภูมิภาคในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุหมุนเขตร้อนที่ระเบิดได้เร็วที่สุด

    ระหว่างเวลา 12.00 น. GMT ในวันอาทิตย์และเวลาเดียวกันในวันจันทร์ลมของระบบได้เปลี่ยนจาก 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 250 กม. / ชม. เนื่องจากศูนย์กลางอยู่ใกล้เกาะ Anatahan ทางตอนเหนือของ Mariana

    เป็นที่ทราบกันดีว่าพายุเฮอริเคน Patricia (ตุลาคม 2558) และ Wilma (2005) นั้นแข็งแกร่งขึ้นเร็วขึ้น
    *ตอนนี้ไต้ฝุ่นฮากิบิสอยู่ห่างจากกวมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 380 กม. มีลมแรง 250 กม. / ชม. และลมกระโชกแรงเกือบ 305 กม. / ชม. มันเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนแอตแลนติกระดับ 5 ที่แข็งแกร่งและคาดว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าโดยมีลมที่สัมผัส 260 กม.

    คาดว่าพายุนี้จะพัดไปทางเหนือก่อนที่จะเบี่ยงเบนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่จะเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดในการได้รับผลกระทบโดยตรงจากฮากิบิส อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร

    ฮากิบิสจะอ่อนตัวลงเมื่อเข้าใกล้ญี่ปุ่นเนื่องจากลมระดับสูงที่ไม่เอื้ออำนวยมากขึ้น ที่กล่าวว่ามันควรจะยังคงเป็นพายุไต้ฝุ่นที่แข็งแกร่งและอันตราย ฮอนชูน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด การคาดการณ์ล่าสุดจับตาพายุที่โตเกียวเมื่อเวลาประมาณ 18:00 น. GMT ในวันเสาร์ซึ่งดูเหมือนจะเป็นวันที่เลวร้ายสำหรับฮอนชูส่วนใหญ่

    พายุอาจเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับที่ 2 จากนั้นมีลมประมาณ 160 กม. / ชม. โดยมีลมกระโชกแรงมากถึง 200 กม. / ชม. ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ Hagibis จะส่งผลต่อรักบี้ฟุตบอลโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมสองเกมที่เกิดขึ้นในโยโกฮาม่าในช่วงสุดสัปดาห์ มีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกหนักในหลายวันและอาจมีฝนตกประมาณ 200 ถึง 300 มม. ในช่วงสุดสัปดาห์ สถานที่หนึ่งหรือสองแห่งสามารถมองเห็นได้มากขึ้น
    นอกเหนือจากลมที่สร้างความเสียหายและฝนตกชุกแล้วคลื่นขนาดใหญ่และกระแสน้ำที่มีพายุก็น่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมที่คุกคามชีวิตและอาจโคลนถล่มที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง.

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    8 ตุลาคม 2019

    ความหนาแน่นของโปรตอนเพิ่มขึ้น เป็น 121.53 ในวันนี้ ..

    ยังคงสูงขึ้นและลง

    เฉลี่ย ความหนาแน่นคือ 0.1-10 โปรตอน

    คลื่นอิเล็กตรอนในแถบรังสี FOK

    พวกเขายังคงตัดข้อมูล 4 ชั่วโมงทุก 4-11 ชั่วโมงในช่วงคลื่นพลังงานขาเข้า / ขาออก

    คลื่นยังคงเข้ามา

    KP เสถียร

    ฉันแค่ทำเอกสารทั้งหมด (โปรตอน) นี้

    มันไม่ได้มาจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้อีกอย่างเท่านั้น

    ไม่ปกติ, ปกติ แต่ไม่มีอะไร บ้าไปแล้ว

    IMG_4563.JPG IMG_4564.JPG IMG_4565.JPG IMG_4566.JPG IMG_4567.JPG IMG_4568.JPG IMG_4569.JPG IMG_4570.JPG IMG_4571.JPG

    October 8, 2019.

    Proton density spike of 121.53 today..

    still spiking up high and down,

    Avg. Density is 0.1-10 protons.

    Electron surge in the FOK Radiation Belt.

    They're still cutting out 4 hours of data every 4-11 hours during certain waves of energy incoming/outgoing.

    Waves still coming in.

    KP stable

    I'm just documenting all of this.

    It's not coming from the Sun, so that leaves only another possibility.

    Not normal, normal. But, nothing too crazy.


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชะตากรรมรถเมล์..กำลังจะถูกเผา!
    คิวต่อไปม็อบน่าจะไล่ล่าประชาธิปไตยบนรถเมล์ เพราะรถไฟใต้ดินถูกปิดไปแทบทุกสถานีประชาชนคนฮ่องกงต้องเข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียดเพื่อขึ้นรถเมล์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าว ซินหัวของจีนรายงานว่า (8 ต.ค.) แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน (HKSAR) เรียกร้องให้นักการเมืองต่างชาติมองสถานการณ์ปัจจุบันในฮ่องกงอย่างเป็นกลาง และยุติการสนับสนุนผู้ที่ก่อความรุนแรง
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการตอบโต้ต่อกรณีคริส แพทเทิร์น อดีตผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงชาวอังกฤษได้กล่าวถึงกฎหมายห้ามปกปิดใบหน้า โดยแลมระบุว่า “ฉันหวังว่าก่อนที่นักการเมืองต่างชาติคนใดจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นฮ่องกง เขาคนนั้นจะมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลาง และตระหนักถึงแก่นแท้ของเรื่องต่างๆ”
    แลมย้ำว่าแก่นแท้ของสิ่งที่เรียกว่า “การประท้วงอย่างสันติเพื่อเสรีภาพในการแสดงออก” แท้จริงแล้วคือ “ความรุนแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”
    “ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงเวลา 1-2 เดือนมานี้ เราได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่ไม่เคยเจอมาก่อน ฉันเชื่อว่าหากพวกเขาได้มาเห็นสถานการณ์จริงในฮ่องกงในปัจจุบัน ย่อมไม่มีรัฐบาลต่างประเทศใดๆ ที่จะเห็นด้วยว่าแก่นแท้ของการประท้วงครั้งนี้เป็นเรื่องของเสรีภาพในการแสดงออก”
    แลมกล่าวระหว่างการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (8 ต.ค.) ก่อนเข้าร่วมการประชุมประจำสัปดาห์ของคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR)
    แลมย้ำว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจภายใต้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกระเบียบว่าด้วยการห้ามปกปิดใบหน้า อันเป็นการตัดสินใจที่มุ่งลดความรุนแรง และคืนความสงบเรียบร้อยสู่สังคม
    แลมกล่าวว่า กฎหมายต่อต้านหน้ากากมีความสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล เนื่องจากมีการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับที่คล้ายคลึงกันในประเทศตะวันตก อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา รวมถึงบางรัฐในสหรัฐฯ
    แลมเรียกร้องให้รัฐบาลและนักการเมืองต่างประเทศเห็นใจในสถานการณ์ของฮ่องกง “หากเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะนี้ เกิดขึ้นในประเทศของพวกเขา พวกเขาอาจใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งกว่านี้” เธอกล่าว
    แลมปฏิเสธคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบของนักการเมืองต่างประเทศที่มีต่อประเด็นฮ่องกง พร้อมเรียกร้องให้พวกเขาหยุดยั้งการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเจตนาร้ายต่อความพยายามควบคุมความรุนแรงของฮ่องกง รวมถึงการให้ท้ายผู้ที่กระทำความผิดว่าเป็น “ผู้ประท้วงอย่างสันติเพื่อเสรีภาพในการแสดงออก”
    ก่อนหน้านี้ นายคริส แพทเทิร์น อดีตผู้ว่าการเกาะฮ่องกง เรียกร้องให้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับข้อเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงที่กำลังเผชิญกับการประท้วงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่จีนกลับมาปกครองต่อจากอังกฤษเมื่อ 17 ปีก่อน
    นายแพทเทิร์น ซึ่งเป็นผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนสุดท้ายก่อนที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีนเมื่อปี 2540 เปิดเผยกับสถานีวิทยุบีบีซีของอังกฤษว่า เขาคิดว่าหลายฝ่ายอยากเห็นการพูดคุยมากกว่าการใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย พร้อมทั้งเสริมว่า เพื่อเป็นการรักษาหน้าของรัฐบาลจีนและคณะผู้บริหารฮ่องกง สิ่งที่ควรทำในเวลานี้คือการเปิดการพูดคุยรอบใหม่อย่างจริงจัง เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่ไม่มีแนวคิดสุดโต่งในฝ่ายผู้ประท้วง
    ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ผู้ประท้วงหลายพันคนต่างมาชุมนุมกันตามท้องถนนสายต่างๆ ทั่วฮ่องกง เพื่อคัดค้านความต้องการของรัฐบาลจีนในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าผู้บริหารฮ่องกงคนต่อไปในปี 2560
    การประท้วงครั้งนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุดในฮ่องกง นับตั้งแต่จีนกลับมาปกครองฮ่องกงต่อจากอังกฤษ และยังเป็นความท้าทายทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐบาลจีน นับตั้งแต่การปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2532
    นายแพทเทิร์น กล่าวด้วยว่า ในกฎหมายพื้นฐานและคำสัญญาที่ชาวฮ่องกงได้รับ ชัดเจนว่าการทำให้ฮ่องกงมีประชาธิปไตยเต็มใบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคณะผู้บริหารฮ่องกง และคงเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลที่การตัดสินใจทุกเรื่องมาจากรัฐบาลจีน
    นอกจากนี้ นายแพทเทิร์นยังกล่าวว่า เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าผู้นำจีนจะบ้าบิ่นพอที่จะจัดการกับกลุ่มผู้ท้วงในฮ่องกงอย่างโหดเหี้ยมและผิดศีลธรรมเหมือนกับเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน รวมถึงส่งกองทัพไปสลายกรชุมนุม เพราะจีนกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์และภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาของทั่วโลก
    ----------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.xinhuathai.com/china/แล...kK-KjWPtKIpbnsR5hcSKbcQBAdc81CaLDD2TkXHhfLylo
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/608598
    ---------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    มีอย่างน้อย 13 ประเทศที่มีการประท้วงครั้งใหญ่ในขณะนี้


    ฮ่องกง

    อินโดนีเซีย

    ประเทศเนเธอร์แลนด์

    ฝรั่งเศส

    รัสเซีย

    เปรู

    ไฮติ

    อียิปต์

    เลบานอน

    ซีเรีย

    อิรัก

    เยรูซาเล็ม


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    จุดไฟเผาธนาคารในฮ่องกง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    สะพานถล่มใน gujarat ประเทศอินเดีย #8 ต. ค.


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    #ชิลี
    ฤดูหนาวที่แห้งแล้งที่สุดในภาคใต้ในช่วงหกทศวรรษที่ผ่านมาทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง: 6 จาก 16 ภูมิภาคของชิลีประสบปัญหาการขาดน้ำฝน 77% ใน Valparaíso และ Santiago รายงาน โดย Telemetro


    ตามที่กระทรวงเกษตรประมาณการ เกษตรกร 37,000 ราย มีความเสี่ยง นอกจากนี้สัตว์ประมาณ 106,000 ตัวในภูมิภาคระหว่างอาตาคาม่า (เหนือ) และเมาอี (ใต้) เสียชีวิตเนื่องจากขาดน้ำและอาหาร


    ชิลีมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ความเปราะบางส่วนใหญ่ 9 ข้อที่จัดตั้งขึ้นโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรวมถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและทะเลทราย


    จากข้อมูลของทางการระบุว่าหิมะที่สะสมในเทือกเขากลางชิลีนั้น 65% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต ตามที่นักวิทยาศาสตร์ ในกว่าทศวรรษที่ผ่านมาการลดลงจะเป็น 5 ถึง 10% ในเกือบทั้งหมด


     

แชร์หน้านี้

Loading...