อาจารย์ใหญ่ในวิชาการพรหมศาสตร์อ.ทองแถม ผานไถรวยผลิกแผ่นดิน

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744095675953.jpg
    showimage (12).jpeg showimage (13).jpeg


    หลวงพ่อ พระครูฉอ้อน เตชธโร วัดแหลมหิน จังหวัดปราจีนบุรี
    สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคม สุดยอดพระเกจิ ผู้ได้รับสมญานามสายเหนียวแห่งปราจีนบุรีเจ้าของตำนานการจัดสร้างเหรียญหลังปืนดันโด่งดัง หลวงพ่อฉอ้อนท่านเป็นพระอาจารย์รูปสำคัญของหลวงพ่อช่วงแห่งวัดประดู่ตลิ่งชันตำนานสายเหนียวแห่งตลิ่งชัน หลวงพ่อฉอ้อนท่านเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันกับ หลวงพ่อสิงห์ทอง จิตฺตกโร แห่งวัดเบญจภาศ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ปัจจุบัน
    จำพรรษาที่วัดศรีพัฒนารามจังหวัดร้อยเอ็ดท่าน
    รู้จักกับหลวงพ่อฉอ้อนที่ถ้ำมรณะ ซึ่งหลวงพ่อฉอ้อนท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่ออัคคิง สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้สื่บวิชามาในสายของหลวงปู่พิบูลย์สืบวิชาสายครูธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์ ที่ฝั่งกัมพูชาหลวงพ่อฉอ้อนท่านถือเป็นครูบาอาจารย์ตำนานสายเหนียวของเมืองปราจีนบุรี อันจะเห็นได้จากเหล่าทหารค่ายจักรพงษ์ก่อนออกรบแทบทุกครั้งจะต้องขนอาวุธปื นสงครามอาวุธปื.นที่ใช้ป้องกันตัวมาเต็มคันรถเพื่อมาให้หลวงพ่อฉะอ้อนท่านเจิมให้ทุกครั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    สายเหนียวสายบู๊ เมืองปราจีนบุรี ปัจจุบันมรณภาพแล้ว อายุ ๑๐๐ ปี
    พระผงรูปเหมือนฝังพลอยหลังพระพุทธชินราช ปี ๒๕๔๕
    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250408_134406.jpg IMG_20250408_134427.jpg IMG_20250408_134339.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744102014600.jpg

    เหรียญของท่านมีประสบการณ์มามายทุกรุ่นประวัติและอภินิหารของหลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร วัดเทพสิงหาร กิตติคุณในฐานะพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งที่มีอายุยืนนานถึง ๖ แผ่นดิน
    เเละอาจารย์ของท่านมายรวดเป็นพระเกจิอารย์ดังในยุคนั้นอาธิเช่น
    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    หลวงปู่สมเด็จลุน ประเทศลาว
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    หลวงปู่เสาร์ กนตสีโล
    พระครูเเก้ว ประเทศลาว
    เเละท่านยังมีสหธรรมิกของท่านมากมายอาธิเช่น
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
    หลวงปู่เเหวน สุจิณโณ
    หลวงปู่คำมี พุทธสาโร
    หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา
    หลวงปู่เครื่องเมื่อท่านได้อุปสมบท.ที่วัดศรีษะเกษ ประเทศลาว มีพระครูแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ท่านจำพรรษาที่วัดศรีษะเกษ ๓ พรรษา ระหว่างจำพรรษาอยู่นี้ได้ ศึกษาธรรมปฏิบัติด้วยจนพระครูแก้วหมดความรู้ที่จะสอน หลวงปู่จึงกราบลาพระครูแก้ว เสาะแสวงหาพระอาจารย์ที่เก่งกล้าสามารถต่อไป โดยเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ยึดป่าถ้ำเป็นที่บำเพ็ญความเพียร จนกว่าจะพบพระอาจารย์ที่เก่งกล้าและเชี่ยวชาญไสยเวท รวมทั้งสมถวิปัสสนากรรมฐานเเละท่านยังมีเพื่อนสหธรรมิกของท่าน
    อาธิเช่น
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
    หลวงปู่เเหวน สุจิณฺโณ
    หลวงปู่คำมี พุทธสาโร
    หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกาเป็นต้น
    เเละสมัยนั้นเมืองไทยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งมีกิตติศัพท์โด่งดังมาก ชื่อเสียงลือกระฉ่อนทั่วทั้งประเทศไทยและลาว สามารถแสดงปาฏิหาริย์เสกคนให้เป็นจระเข้ เสกช้างให้เหลือเท่าแมลงวัน เนรมิตวัตถุในอากาศได้ แม้แต่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕ ยังมอบกายถวายตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์รูปนี้คือ
    หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท หลวงปู่ท่านทราบข่าวจึงตั้งใจแรงกล้าที่จะขอมอบตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชาอาคมและฝึกสมถวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงปู่ศุขผู้เป็นหนึ่งในยุคนั้นเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เเละได้เรียนวิชากับ หลวงปู่ศุขเป็นเวลานาน ถึง ๙ ปี ถึงได้กราบลาหลวงปู่ศุข มุ่งหน้าสู่บ้านเกิดแดนอีสานต่อไป โดยการเดินธุดงค์เร่ร่อนสู่ป่าและถ้ำเป็นที่พักพิง จนกระทั่งถึงบ้านนายูงหลังจากพำนักที่ถิ่นกำเนิดแล้ว หลวงปู่ก็ธุดงค์มุ่งหน้าสู่ราชอาณาจักรลาว ขณะหลวงปู่เครื่องธุดงค์อยู่นั้น ได้ข่าวเกี่ยวกับ สมเด็จลุนซึ่งมีชื่อเสียงทางไสยศาสตร์ เป็นที่เคารพนับถือแก่ชาวฝั่งลาวเป็นอย่างมาก หลวงปู่จึงเข้ามอบตัวเป็นศิษย์กับ หลวงปู่สมเด็จลุน เเละเรียนวิชากับ หลวงปู่สมเด็จลุนเป็นเวลา3ปี ชาวบ้านนายูงจึงพากันไปนิมนต์หลวงปู่กลับบ้านเดิม ต่อมา พระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ ปรมาจารย์ทางสมถวิปัสสนากรรมฐาน ได้เดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานีมาพำนักที่สำนักสงฆ์บ้านนายูงเพื่อเจริญภาวนา หลวงปู่เครื่องจึงพบกับ #พระอาจารย์มั่น มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ต่างแลกเปลี่ยนความรู้ทางธรรมซึ่งกันและกัน และได้ชักชวนญาติโยมบูรณปฏิสังขรณ์สำนักสงฆ์บ้านนายูง เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ปรากฏว่าชาวบ้านต่างให้ความร่วมมือเต็มที่ และชักชวนกันมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก โดยมีหลวงปู่เครื่องและพระอาจารย์มั่นคอยแนะนำ ส่วนสำนักสงฆ์บ้านนายูงมีความเจริญจนกลายมาเป็นวัดเทพสิงหารทุกวันนี้เเละหลวงปู่มั่นจึงได้เเต่งตั้งหลวงปู่เครื่องขึ้นเป็นเจ้าอาวาสเป็นรูปเเรก เเละหลวงปู่ท่านยังเคยพาหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ ไปหาสมเด็จลุนที่ประเทศลาว เเละเหรียญของท่านมีประสบการณ์ทุกรุ่น แคล้วคลาดปลอดภัย
    ๏ ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ๏
    หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร วัดเทพสิงหาร อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี อริยะสงฆ์ ๖ แผ่นดิน ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ไทยองค์หนึ่งที่มีอายุยืนนานร้อย กว่าปีขึ้นไป
    หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๔๑๐ ปีเถาะ ณ บ้านนายูง อ.น้ำโสม แขวงมณฑลอุดรธานี
    หลวงศักดา ธรรมเรื่อง (หัวหน้าหมู่บ้าน) เป็นบิดาของท่าน มารดาชื่อ นางพัน ธรรมเรื่อง อาชีพทํานาและล่าสัตว์ป่า เป็นอาหาร ทั้งยังได้นําเนื้อเค็ม อันเป็นสัตว์ป่ามาค้าขายในเมือง อีกด้วย
    อายุ ๒๑ ปี ท่านได้ออกบวช เป็นพระภิกษุสงฆ์ ๑ พรรษา แล้วลาสึก หลังจากนั้นท่านได้แต่งงานมีครอบครัว ทั้งยังได้บุตรชาย หนึ่ง หญิงหนึ่ง
    กาลต่อมาบุตรชายและบุตรหญิงเกิดล้มป่วยและเสียชีวิตลง ทําให้ท่านเศร้าโศกเสียใจมากอีกไม่นานภรรยาคือ นาง นาค ได้ล้มป่วยด้วยความเสียใจ เมื่อบุตรเสียชีวิตลงพร้อมกัน ทําให้นางไม่สามารถระงับจิตใจได้จึง ต้องจากท่านไปอีกเป็นสอง
    ครานี้ความเสียใจท่วมท้น หัวใจสุดระงับ สุดจะต้านทานกับเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ได้ หลังเผา ศพภรรยาแล้ว ท่านได้หนีออกจากหมู่บ้านนายูง บุกป่าฝ่าดงไปเหมือนคนเสียสติ
    แต่ความจริงท่านมีความคิดพิจารณาไปตลอดทางว่า “การสูญเสียชีวิตลูกและเมีย อันเป็นที่รักนั้น ก็ด้วยวิบากกรรม ที่ท่านเป็นนายพรานล่าสัตว์ เอา ชีวิตเขามาแลกกับความสุขสบายของตน” ท่านคิดได้เลิกละด้วยการออกบวชอุทิศตนในพระพุทธศาสนา ตลอดชีวิต
    หลวงปู่เครื่อง ท่านบวชพระ เป็นครั้งที่สอง ณ พัทธสีมาวัดศรีสะเกษ แขวงนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ตอนนั้นอายุ ๒๘ ปี
    เมื่อบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านก็ตั้งหน้าศึกษาวิชาธรรมต่าง ๆ โดยแยกประเภทดังนี้
    ทางสมถะท่านได้ศึกษาวิชา กับ สําเร็จลุน แห่งนครจําปาศักดิ์ เป็นวิชาโลกียะ สามารถแสดงฤทธิ์เดชได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ เช่น เหาะเหินเดินอากาศ บนน้ำ หายตัว อยู่ยงคงกระพันชาตรี หรือจะเพ่งกสิณให้เกิดเป็น น้ำ เป็นไฟ เป็นลม เป็นดินได้ทุกรูปแบบ
    ทางแห่งวิปัสสนา ท่านได้มาศึกษาภาคการปฏิบัติอยู่กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นเวลานานถึง ๔ ปี (เป็นยุคแรก ๆ ที่หลวงปู่มั่นยังไม่ค่อยจะมีลูกศิษย์นัก หลวงปู่มั่น อาวุโสพรรษากว่า ๗ ปี แต่อายุน้อยกว่า ๓ ปี)
    หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านมักพูดให้ศิษย์ฟังอยู่เสมอ ๆ ว่า “พระอาจารย์มั่น เป็นพระผู้มีแนวทางเป็นพระผู้บริสุทธิ์ พบกันก็ได้รู้ความจริงต่อกันมาก จุดมุ่งหมายปลายทางของท่านและนักปฏิบัติทุกท่าน เอาพระนิพพานเป็นจุดสุดท้าย
    จิตมนุษย์มีพลังมหาศาล จะทําอะไรก็มักสําเร็จ ก็เพราะมีดวงจิตที่เป็นกําลังสําคัญ จิตดวง เดียวสาคัญที่สุด
    จิตมันบอกลักษณะไม่ได้ แต่มันก็มีความรู้สึกอยู่ภายใน เว้นแต่ว่า มนุษย์เกิดมาแล้ว จะเอาดีหรือเอาชั่วเท่านั้น มันเป็นขั้นตอนอยู่ตรงนี้ ถ้าเอาดีก็ต้องได้ของดีมาประดับตัวแน่นอน”
    ชีวิตของพระธุดงค์สมัยหนึ่ง หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านเดินธุดงค์อยู่ฝั่งประเทศลาว ได้พบกับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และเมื่อได้พบกันครั้งหลัง ท่านก็สามารถจดจํากันได้ดี แม้ท่านทั้งสองจะมีอายุยืนยาวชราภาพด้วยสังขาร แต่สติสัมปชัญญะนั้นเลิศประเสริฐแท้ สมกับอริยบุคคลผู้มีความถึงพร้อม ด้วยอรรถธรรม
    หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร ท่านเป็นพระที่ไม่ติดถิ่น ท่านมุ่งออกเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ จนอายุ ได้ ๗๓ ปี ท่านจึงได้ย้อนกลับถิ่น คือ วัดเทพสิงหาร ต.นายูง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี
    การกลับมาครั้งนี้ เป็นที่ปีติใจของชาวบ้านทุกคนที่จะได้มีครูบาอาจารย์สอนธรรม และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ผิดหวังเลยที่ได้ตั้งใจไว้ ” หลวงปู่เครื่อง ท่านมีอายุยืนยาวนานถึง ๑๑๓ ปี เป็นพระเถระอาวุโสพรรษา ท่านแสดงเคล็ดลับไว้ว่า
    “มนุษย์ควรเจริญด้วยธรรม ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่ผู้มีปกติในข้อ วัตรปฏิบัติธรรม คือความดีมีศีลธรรมนั้นเองจะช่วยได้”
    "...จิตมนุษย์มีพลังมหาศาล จะทำอะไรก็มักสำเร็จ ก็เพราะมีดวงจิตที่เป็นกำลังสำคัญ จิตดวงเดียวสำคัญที่สุด
    จิตมันบอกลักษณะไม่ได้ แต่มันก็มีความรู้สึกอยู่ภายใน เว้นแต่ว่ามนุษย์เกิดมาแล้ว จะเอาดีหรือเอาชั่วเท่านั้น มันเป็นขั้นตอนอยู่ตรงนี้ ถ้าเอาดีก็ต้องได้ของดีมาประดับตัวแน่นอน
    ความเจริญด้วยธรรม ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่ผู้มีปกติในข้อวัตรปฏิบัติธรรม คือ ความดีมีศีลธรรมนั้นเองจะช่วยได้..."
    คำสอน หลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร วัดเทพสิงหาร ตำบลนายูง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลทุกๆที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงปู่เครื่อง ออกที่
    วิทยาลัยสงฆ์วัดศรีสะเกษจังหวัดหนองคาย
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250408_134517.jpg IMG_20250408_134532.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    วันนี้จัดส่ง

    1744109373996.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744123072343.jpg

    พระผงเตารีด รุ่นแรก
    หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก ( บ้านปง )
    พิมพ์เล็ก
    ประวัติการสร้าง
    พระผงพิมพ์เตารีดของหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
    วัดอรัญญวิเวก(บ้านปง) ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พระผงรุ่นนี้ ลูกศิษย์ท่าน คือ หลวงพ่อถาวร ฐานวโร วัดป่าเหวไฮ จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ดำริสร้างถวายมวลสารที่สร้าง หลัก ๆ คือไม้แป้งจากพม่า ว่านต่างๆมากกว่า ๑๕๐ ชนิด อัฐิธาตุ เกศา และมวลสารจาก ๗ พระอรหันต์ คือ
    ๑.หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
    ๒.หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
    ๓.หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม
    ๔.หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ
    ๕.หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
    ๖.หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก ฯลฯ
    ข้าวสารดำศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองราด เพชรบูรณ์ เกศาหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป และของทนสิทธิ์ อีกหลายอย่าง พระรุ่นนี้พระและสามเณรได้ช่วยกันสร้างกดพิมพ์ กันเองที่วัดป่าเหวไฮ ในปี 2542 โดยมวลสารรุ่นนี้รวบรวมจากทั่วประเทศทั้งจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อถาวร และหลวงปู่เปลี่ยน นำมาถวาย รวมไปถึงมวลสารของหลวงปู่เปลี่ยนเองด้วย และก่อนที่จะได้เอาไปพิมพ์พระนั้น มวลสารได้ถูกอธิฐานจิตโดยพระสงฆ์ และสามเณรในจังหวัดอุดรธานี ร่วมร้อยรูปอีก 1 คืนเต็ม แล้วจึงเอาไปพิมพ์เป็นองค์พระ หลังจากนั้น ได้ถวายหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เพื่ออธิฐานจิตนานถึง 1 ไตรมาส โดยมี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เตารีดใหญ่ และ เตารีดเล็ก ทั้งหมด 4 สี คือสีเขียว สีดำ สีเหลือง และสีแดง สร้าง 80,000 กว่าอื่นโดยประมาน แต่สีเขียว และสีดำ สร้างน้อยมากๆครับประมาณ 1,000-2,000 กว่าองค์
    (เมตตารายละเอียดข้อมูลจากพ่อแม่ครูอาจารย์ครับ)
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250408_213140.jpg IMG_20250408_213204.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744172239888.jpg Pusri.jpg
    ผ้ายันต์หนุนดวงหลวงปู่โง่น-หลวงพ่อสมศรี วัดหน้าพระลาน จ.สระบุรี ปี2538 ขนาดประมาณ ๑๑.๕ ×๑๑.๕ นิ้ว
    สีขาว-เหลือง สมัยนั้นลงเผยเเพร่ในนิตยสารลานโพธิ์
    ใครต้องการร่ำรวยให้ท่องบ่อยๆเงินทองจะไหลมาเทมา คาถาบูชาดวงชะตา "หลวงปู่โง่น โสรโย"คาถามหาลาภ ผู้ใดท่องด้วยความเลื่อมใส มักเห็นผลทันตา..
    คาถาบูชาดวงชะตา (หลวงปู่โง่น โสรโย)
    นะโม เม สัพพะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง
    สุริยัญจะ ปะมุญจะถะ สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง
    วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว สุกะโร จะ มะหาลาภัง
    โสโร ราหูเกตุ จะ มะหาลาภัง สัพพะ ภะยัง วินาสสันติ
    สัพพะทุกขัง วินาสสันติ สัพพะโรคัง วินาสสันติ
    ลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สัพเพเทวา มัง ปาละยันตุๆ
    สัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เม ฯ
    พุทธัง พะหุชะนานัง เอหิจิตตัง เอหิมะนุสสานัง
    เอหิลาภัง เอหิเมตตา ชมภูทีเป มนุสสานัง
    อิตถิโย ปุริโส จิตตัง พันธังเอหิ มะนะ
    นี่เป็นคาถามหาลาภ ใครต้องการร่ำรวย ให้ท่องบ่อยเงินทองจะไหลมาเทมา
    พระคาถานี้ถือว่าศักดิ์สิทธิ์นัก ถ้าใครได้ภาวนาด้วยความเชื่อมั่นเลื่อมใส ได้บ่อยๆ จะมีอานิสงส์ได้รับผลทันตาหลายประการดังนี้
    หนึ่ง จะได้รับชัยชนะต่อศัตรูคู่อริทุกอย่าง
    สอง ทวยเทพเทวาซึ่งเป็นใหญ่ในจักรวาล จะช่วยบันดาลความสุขให้และปกป้องผองภัยสารพัดทุกอย่าง และจะเป็นผู้มั่งมีด้วยลาภผล พระคาถานี้ใช้ได้ทุกอย่างจงภาวนาไว้เถิด
    หลวงปู่โง่น โสรโย สถิต ณ วัดพระพุทธบาทเขารวก ต.วังหลุม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    เหลือ อีก ๑ ผืนครับ
    IMG_20250409_111650.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2025 at 13:19
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    คาถาพระแม่ธรณี
    ตั้งนะโม ๓ จบ
    "ตัสสา เกสีสะโต ยะถาคังคา โสตัง ปะวัตตันติ มาเรเสนา อาสักโกนโต ปะลายิงสู ปะระมิตานุภาเวนะ มาระเสนา ปะราชิตา ทิโส ทิสัง ปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต"
    ใช้ได้ตามอธิษฐาน ทำน้ำมนต์แก้คุณเสนียดได้ผลดียิ่ง หากมีศัตรูให้เขียนชื่อนำแม่ธรณีทับไว้ อธิษฐานให้อภัยต่อกัน สวดคาถานี้ทำครบ 7 วัน ฝ่ายตรงข้ามจะแพ้ภัยตัวเองไป แต่อย่าจองเวรเขา จึงจะมีผล เวลามีเหตุให้นึกถึงแม่พระธรณีแล้วภาวนาว่า คาถาพระแม่ธรณี
    คาถาของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    คาถามนต์เรียกพระแม่ธรณี
    ของ (หลวงพ่อกวย ชุตินธโร)
    “โพ อะ วะ นิ ตะ ละ”
    ของ หลวงพ่อกวย
    คาถาหัวใจพระแม่ธรณี
    ท่องนะโม 3 จบ แล้วว่า "เม กะ มะ อุ" ซึ่งถอดออกมาจาก พรหมวิหาร 4 "เม" คือ เมตตา "กะ" คือ กรุณา "มะ" คือ มุทิตา และ "อุ" คือ อุเบกขา ซึ่งเชื่อกันว่าใช้ได้สารพัดอย่าง โดยเฉพาะด้านเมตตา จะใช้เสกสีผึ้งทาปากก็ได้ เสกแป้งผัดหน้าก็ได้ หรือโดยทั่วไปให้ภาวนา 3, 9 หรือ 21 (ตามกำลังวัน)

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ


    เหรียญที่ระลึกงานสร้างพระแม่ธรณีการประปาส่วนภูมิภาค ๒๕๒๙

    ให้บูชา 5 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    (ปิดรายการ)
    IMG_20250409_133259.jpg IMG_20250409_133331.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2025 at 15:33
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    เหรียญพระพุทธชินราชหลังพระปรกโพธิ์ชนะมาร เสาร์๕ ปี ๒๓
    เหรียญ มีชัย เสาร์ ๕ หลังพระนเรศวรประกาศอิสระภาพ วัดศรีโสภณ จ.พิษณุโลก รุ่น ๑ ปี ๒๕๒๓
    ๒ เหรียญ
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250407_064243.jpg IMG_20250407_064308.jpg IMG_20250407_064328.jpg IMG_20250407_064409.jpg IMG_20250407_064428.jpg IMG_20250407_064447.jpg
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    วันนี้จัดส่ง
    1744195591821.jpg
    ขอบคุณครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744138047573.jpg

    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง
    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
    คนเก่าในเมืองระยองแทบสิ้น คึกเมื่อสิ้นหลวงปู่ทิม หลายคนพยายามมองหาพระเก่งเพื่อเพิ่มความคึก เล็งแลกันอยู่นานศิษย์รุ่นเก่าแก่ของหลวงปู่ทิมก็กระซิบกับผมว่า มีพระเก่งอยู่รูปหนึ่งนิสัยใจคอคล้ายกับหลวงปู่ทิม ความเก่งความชำนาญชาญเชี่ยวในเชิง ‘ฤทธิ์’ ก็ไม่น้อยไปกว่าหลวงปู่ทิมเท่าใดนัก
    ผมรีบกระซิบคืน “ใครครับ” ท่านว่า “หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา”
    เมื่อผมไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่ ต.ซำฆ้อ ใน อ.แกลง ก็ได้ยินมารดาของสาวเจ้าเล่าความขลังของเกจิรูปหนึ่งให้ฟังว่า...
    มี ครอบครัวคนทำสวนยางใกล้บ้านครอบครัวหนึ่ง มีลูกเป็นเด็กทารกอายุไม่กี่เดือนอยู่ด้วย แต่ก่อนร่อนชะไรเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากที่พ่อไปทำสวนยางใหม่กลับมาลูกน้อยก็ร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็กลุ้มจนนอนไม่หลับ
    แต่ ‘โชคดี’ ยังให้ความเอ็นดูผู้เป็นพ่ออยู่บ้าง
    วัน หนึ่งของทำสวนยาง ผู้พ่อก็พบผ้ายันต์สีขาวผืนหนึ่งตกอยู่ในสวนของตน ไม่ทราบที่ไปและไม่ทราบที่มา แต่เมื่อเป็นรูปพระในฐานะที่เป็นคนพุทธก็ต้องให้ความเคารพไว้ก่อน ด้วยความไม่รู้จักมักจี่กับเจ้าของยันต์ก็เลยเอายันต์นั้นแปะไว้ที่หน้าบ้าน ตน
    ‘โชคดี’ ยังเป็นของเขาอยู่อีก
    เพราะ นับจากวันที่ยันต์ปริศนามาอยู่ร่วมชายคา หนูน้อยเสียงดีก็เป็นอันหยุดร้องสนิทราวกับปิดสวิทซ์เครื่องเทป ยังความปลาบปลื้มยินดีให้พ่อแม่เป็นอันมาก
    แต่ ‘โชคร้าย’ ก็ใช่ว่าจะหนีไปไกล
    เมื่อ วันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้แม่ก็ล้มพับลงไปท่ามกลางป่ายาง ครั้นใครหลายคนจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหล่อนก็กลับลุกพรวดพราดทำตาขวาง พลางลุกขึ้นกรีดร้องเผ่นโผนออกจากสวนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หมู่พวกจึงพากันทิ้งงานกวดตามหลังอย่างตระหนกตกใจ
    พอ เจ้าหล่อนห้อตะบึงมาถึงบ้านก็ทำท่าจะวิ่งตรงเข้าประตูไป และก่อนที่จะเป็นดังนั้น ความอัศจรรย์ก็พลันเกิด เมื่อเธอหยุดกึก พลางจับจ้องไปที่ผ้าผืนน้อยสีขาวหน้าบ้านชนิดตาไม่กระพริบ แล้วทรุดฮวบลงกับพื้นพลางร้องไห้คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจ
    หมู่ พวกที่ตามมาถึงก็พากันระส่ำระสายจะเข้าช่วยก็ไม่กล้า เพราะดูท่าแล้วมันไม่ใช่เรื่อง ‘ธรรมดา’ พอผู้เป็นสามีเข้าไปจับเนื้อต้องตัวเพื่อสอบถามเรื่องราว เจ้าหล่อนกลับสวนมาว่า
    “ฉันไม่ใช่เมียแก”
    เอาละสิ อยู่กันจนมีลูก จู่ ๆ มาบอกไม่ใช่เมีย ถึงตอนนี้ชาวบ้านชาวช่องก็พากันมารุมล้อมประสา ‘ไทยมุง’ คนเฒ่าคนแก่พากันซุบซิบให้ความเห็น
    “ผีเข้าแหง ๆ”
    หลาย คนแสดงตนเป็นผู้รู้ คอยปลอบประโลมจนคนผีเข้าคลายทุกข์โศกลงบ้าง คนผีสิงก็ปริปากว่าตนชื่อ ลำดวน (นามสมมุติ) ถูกฆ่าตายแล้วฝังเอาไว้ในป่ายาง ทุกข์ทรมานมากทั้งมืดทั้งหนาว คิดถึงลูกมากแต่ไปหาไม่ได้ เพราะตนถูกผู้ฆ่าเอากระโหลกไปให้คนมีวิชาทำพิธีสะกดวิญญาณ แล้วไปฝังในสวนยางจึงไปไหนไม่ได้ พอได้ยินเสียงเด็กเลยคิดถึงลูก จึงมาที่บ้านทุกวันเพื่อมาเล่นด้วย แต่ตอนนี้รักเด็กคนนี้มากจึงอยากเอาไปอยู่ด้วย
    ได้ยินอย่างนี้ผู้เป็นพ่อก็สะดุ้งตากลับ
    แล้วก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่อเมียรักชี้ไปที่ผ้าสีขาวแล้วเอ่ยว่า แต่ตอนนี้เข้าไปหาเด็กไม่ได้แล้วเพราะกลัวผ้ายันต์นี้มาก คนทำเก่ง ร้อนมาก สู้ไม่ได้ พอเห็นแม่เด็กเดินมาใกล้ ๆ จึงเข้าทับเพื่อมาหาเด็กเข้าใจว่าจะเข้าบ้านได้ แต่ก็เข้าไม่ได้อีก คิดถึงลูกเหลือเกิน
    จาก นั้นคนผีเข้าก็ร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอีก เป็นที่เวทนานัก ชาวบ้านจึงถามชื่อแซ่ เธอก็บอกเล่าให้ฟังหมด ถามถึงฆาตกรเธอก็เล่าด้วยความแค้นเคืองได้ความว่า คนฆ่าคือสามีของตัวเองที่เกิดไปมีเมียน้อยแต่ไม่รู้จะหนีไปอย่างไร จึงเอาจอบตีเมียตอนทำครัวจนสลบ ผัวเข้าใจว่าตายแล้วจึงเอายางรถยนต์เก่ามาซ้อน จับตนขึ้นนั่งแล้วเผาทั้งเป็นที่หลังบ้านของตัวเอง
    แล้วผัวตัวแสบก็ ไปแจ้งความทำทีว่าถูกโจรปล้นแล้วฆาตกรรมภรรยา ปรากฏว่าแผนสำเร็จด้วยดีสามีใจโหดเลยรอดตัว ได้ขายสวนยางและบ้านช่องให้คนอื่น ก่อนที่จะหอบผ้าผ่อนไปอยู่กับเมียที่ต่างตำบล
    ทุกคนได้ฟังก็ต่าง สงสาร รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกทางจนวิญญาณแค้นพอใจแล้วออก จากร่างไป สิ่งที่ตามมาคือการทำบุญงานใหญ่อุทิศให้ผี และการตามสืบเรื่องผ้ายันต์จนได้ความว่าเป็นของ
    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา
    ทุกบ้านเลยเป็นอันมีผ้าขาวผืนน้อยติดกันพรึ่บไปหมด ผ้ายันต์เต็มองค์สีเหลือง ปี 2538 (มี 3 สี ขาว, แดง, เหลือง)

    ผ้ายันต์ครึ่งองค์สีขาว ปี 2538 (มี 3 สี ขาว, แดง, เหลือง)
    ผมเห็นว่าเรื่องนี้แปลกดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ผมเองก็ได้ไปดูใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ พบว่าเปล่าเปลี่ยววังเวกดีพิลึก ก็น่าหรอกที่ผีจะดุ
    ใช่ว่าหลวงปู่จะเก่งกล้าสามารถในเรื่องผีอย่าง เดียวเมื่อไร ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า ก็ประจักษ์กันมามากต่อมาก ขนาดฟันกันฉับ ๆ หน้าศาลาวัดบ้านนาก็มี แต่ไม่มีใครได้เลือดใคร เพราะมีพระหลวงปู่กันทุกคน
    พูดถึงความสันโดษอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวง ปู่นั้น ผมขอยกนิ้วให้เลย ท่านสันโดษจริง ๆ ไปไหนมาไหนไม่ต้องประคองทั้งที่มีอายุถึง 93 ปีแล้ว ผมพบท่านครั้งแรกท่านก็ลุกหนีเลย สาเหตุเพราะผมมาผิดเวลา บอกกันก่อนเลยว่าท่านจะรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยง ขณะรอท่านถ้าเป็นเวลาฉันห้ามชวนคุย เวลาลุกอย่าเข้าไปประคอง เพื่อนผมเคยหวังดีตั้งท่าเข้าไปหา ท่านว่า
    “ไม่ต้องก็ได้มั้ง”
    เพื่อนผมเลยจ๋อยไป ท่านไม่ใคร่ให้ความสนิทใคร ไม่เอาใจใคร เป็นตัวของตัวเองที่สุด
    หลัง เที่ยงท่านจะเข้ากุฏิเงียบ หรือไม่ก็เอนหลังลงแถว ๆ หน้ากุฏิท่าน แต่อย่าเข้าไปคุยเชียวหนา นอกจากท่านจะเป็นฝ่ายทักก่อน หรือรอจนกว่าจะ 4 โมงเย็นอันเป็นเวลารับแขกไปเรื่อยสิ้นสุดที่ 5 โมงเย็น หากพรวดพราดเข้าไปพูดคุยอาจเป็นเหตุให้มี ‘ฟ้าผ่า’ แบบไม่มี ‘เค้าฝน’ ก็เป็นได้ ด้วยท่านถือเรื่อง กาละ และ เทศะ
    ท่าน ชอบทดสอบคนโดยให้เหตุผลว่า ถ้าเขาต้องการพบเราจริง เขาต้องรอได้ แต่เราเองกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เราก็ต้องใช้ความอดทน ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้จะไปทำอะไร
    บางคน ท่านเดินผ่านหน้าไป-ผ่านหน้ามาถึงครึ่งชั่วโมง ท่านก็ยังไม่ทัก แต่คนนั้นมาบ่อยรู้แกวท่านจึงนั่งเฉย ๆไม่ทักท่านก่อน สักพักท่านก็นั่งลงแล้วเอื้อนเอ่ย “มีธุระอะไรหรือ” แต่ถ้าใครคนนั้นหมดความอดทนถามท่านก่อนที่ท่านจะเป็นฝ่ายถาม การสนทนาวันนั้นเป็นอันจบ
    นี่คือพระที่ไม่ประจบโยม
    ครั้ง หนึ่งที่ท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับหลัง ผมจึงเอาน้ำมันเลียงผาไปถวายท่านกับคุณสุมิทธิ์ ติสโส ขณะที่ท่านนอนตะแคงซ้ายคุยกับผมอยู่นั้น คุณสุมิทธิ์ก็เกิดความสงสารท่านจับใจคิดขึ้นมาว่า “เออหนอ...หลวงปู่ตั้ง 90 กว่ายังต้องมาเจ็บมาทรมาน ถ้าผมแบ่งความเจ็บมาจากหลวงปู่ได้บ้างสักครึ่ง ผมก็จะทำ” เมื่อจบห้วงความคิดนั้น หลวงปู่ก็พูดลอย ๆ ขึ้นว่า
    “ความเจ็บป่วยเป็นของเฉพาะตัว ใครจะมาช่วยแบ่งเบาก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากเจ้าของจะช่วยเหลือตัวเอง”
    คน งงคือผม เพราะผมกำลังคุยกับท่านเรื่องถนนไปบางแสน จู่ ๆ ท่านก็ปรารภเรื่องอะไรไม่รู้ งง!! แต่คนที่ปีติคือคุณสุมิทธิ์ เพราะเขาได้ประจักษ์ชัดว่า ท่านเก่งจริง
    หรือใครว่าการรู้ความคิดคนอื่นเป็นของธรรมดา!
    วัตถุมงคลที่เหลืออยู่เป็นรุ่นที่ 5 ในชีวิตท่าน เรียกว่ารุ่น ‘ซ่อมอุโบสถ’ ด้วยแต่เดิมทางวัดหมายใจจะซ่อมโบสถ์ที่ชำรุดทรุดโทรม ทว่า ความโทรมของโบสถ์มีมากเกินกว่าจะซ่อม จึงตัดสินใจเปลี่ยนโบสถ์เก่าเป็นวิหารไปเสีย แล้วสร้างโบสถ์ใหม่เสียเลย รุ่น ‘ซ่อม’ เลยกลายเป็นรุ่น ‘สร้าง’ โดยฉะนี้แล
    ใคร เช่าพระรุ่นนี้โชคดีนัก เพราะพระสร้างมาแต่ปี 2537 เมื่อเข้าพรรษาปี 37 ท่านอธิษฐานพระชุดนี้ให้ตลอด 3 เดือน เมื่อล่วงมาถึงปี 2538 ปรากฏว่าพระจำหน่ายไม่หมด หลวงปู่ก็เอาเข้ากุฏิเสกอีกตลอดพรรษาปี 38
    บัด นี้ล่วงเข้าพรรษาปี 2539 พระเครื่องทั้งหลายจะไม่มีจำหน่ายบนศาลาเลย ใครคิดไปเช่าช่วงนี้ขอให้ล้มคิดนั้นเสีย เพราะพระอยู่ในกุฏิท่านทั้งหมด ท่าน ‘ซ้ำ’ ให้อีก 3 เดือนตลอดพรรษาปี 39
    พิถีพิถันดีไหม? พระกริ่งบุญอุปถัมภ์ รุ่น 2 เนื้อนวโลหะ ปี 2537
    เหรียญรุ่น 3 เนื้อทองเหลือง ปี 2537
    เหรียญรุ่น 5 'ซ่อมอุโบสถ' เนื้อเงินลงยา ปี 2537
    ออกพรรษาปี 39 ค่อยไปเช่าละกัน เสกมาแล้วตั้ง 9 เดือน เรียกว่ายอดที่สุด ผมเช่าจนเกือบไม่มีตังค์กินหนมแล้ว กระซิบก่อนว่า พระกริ่งรุ่น 2, เหรียญเงินลงยา, พระสมเด็จดำ (พิมพ์ปรกโพธิ์) แน่นอนนัก
    อย่า ลืมแวะเวียนไปวัดหนองจระเข้ด้วยนะครับ ที่นั่นเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ท่านอยู่ที่นั่นมาก่อนจะไปอยู่วัดบ้านนา วัตถุมงคลที่นั่นมากมายตาลายเลยแหละ สวย ๆทั้งนั้น ขลังมากด้วย เพราะท่าน ‘เต็มใจ’ ทำมาก ถ้ามีโอกาสจะเขียนให้ทราบอีกทีว่า ‘ขลัง’ อย่างไร...
    ขอความสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านครับ
    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง
    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ นิตยสารศักดิ์สิทธิ์
    และคุณ รณธรรม ธาราพันธุ์

    ยกชุด ๓ องค์
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250410_012602.jpg IMG_20250410_012621.jpg IMG_20250410_012639.jpg IMG_20250410_012659.jpg IMG_20250410_012731.jpg IMG_20250410_012758.jpg IMG_20250410_012819.jpg IMG_20250410_012843.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    สมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร)ปรารภว่า พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นของวิเศษนับว่าเป็นแก้วรัตนมงคลของโลก เมื่อประพฤติตามแล้วก็สามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างเป็นระเบียบและมีความสุข เมื่อถึงขั้นอริยมรรค เขาทั้งหลายก็จะพ้นจากทุกข์ถึงซึ่งพระนิพพานในที่สุด หลวงพ่อประสงค์ให้พระพุทธศาสนานี้มีความยั่งยืนให้ยาวนานที่สุด มิใช่เพียงพัน ๆ ปี แต่ขอให้เป็นแสน ล้านปี การสร้างพระพุทธรูปที่เป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เป็นรูปธรรมแต่ก็มีความสำคัญเพราะเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า จึงเป็นสื่อที่จะนำบุคคลผู้มีความเชื่อ ความเลื่อมใสให้เข้าไปถึงนามธรรม พระพุทธรูปจะต้องมีค่าสูงและน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพื่อจะเป็นศูนย์รวมของคนทั่วโลกต่อไปในอนาคต โดยคิดถึงวัตถุที่มีความคงทนและมีค่าสูงให้สมกับพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นของดีของวิเศษ นับว่าเป็นแก้วรัตนมงคลของโลก วัตถุเช่นทองเหลือง ทองแดง อิฐ ปูน ทราย วัตถุเหล่านี้จะเสื่อมสลายไปตามอายุของมันในเวลาอันไม่นานนัก ท่านจึงมีความคิดว่า หยกเขียว เป็นวัตถุอันหนึ่งที่มีอายุยิ่งยืนนานเท่าไหร่ยิ่งมีค่าสูงและวัตถุนั้นมีอายุนานนับแสนนับล้าน ๆ ปีไม่มีการเสื่อมสภาพ เพื่อให้เป็นสิ่งที่สูงค่ายิ่งขึ้นก็ต้องเป็นหยกเขียวบริสุทธิ์ที่มีก้อนใหญ่ที่สุดในโลก
    หลวงพ่อได้ใช้ความพยายามแสวงหาหินหยกอย่างเต็มที่ มาในภายหลังหลวงพ่อได้ทราบข่าวว่าที่ประเทศแคนนาดามีบริษัททำเหมืองหยก ท่านจึงได้เดินทางไปยังประเทศแคนาดาในปี พ.ศ. 2530 เพื่อไปสืบหาหยกเขียวมาแกะสลักให้ได้ แต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้วก็ยังไม่พบหยกตามต้องการ ท่านจึงเข้าพบเจ้าของบริษัททำเหมืองหยก ขอสั่งจองก้อนหยกขนาดใหญ่ไว้ หากขุดได้ท่านจะซื้อกลับมาเมืองไทย เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ก็ยังไม่มีข่าวดีสักทีเพราะแม้ทางเหมืองจะขุดพบหยกเขียว และนำขึ้นมาได้ก็ยังไม่ได้ขนาดตามที่หลวงพ่อต้องการ
    กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี ในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ช่วงเวลา 03.00 น. ในขณะที่หลวงพ่อนั่งสมาธิก็ปรากฏเป็นนิมิตเห็นหยกสีเขียวบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากท่านได้นิมิตแล้วก็เกิดความเชื่อมั่นว่าก้อนหยกที่ต้องการนั้นใกล้จะเป็นจริงแล้ว ท่านจึงเดินทางไปยังประเทศแคนาดาอีกครั้ง
    เมื่อครั้งสร้างพระพุทธรูปหยกองค์ใหญ่
    ที่วัดธรรมมงคล เพื่อไม่เป็นการสูญเปล่า
    ทางวัดจึงนำผงที่ได้จากการขัดกลึง
    แต่งองค์พระพุทธรูปหยกองค์ใหญ่
    มาเป็นส่วนผสม
    ในการสร้างพระผงหยกรุ่นนี้
    โดยได้มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่
    วันที่ ๔ มิถุนายน ปี ๒๕๓๖
    นอกจากหลวงพ่อวิริยังค์
    ท่านได้อธิษฐานจิตแล้ว
    ยังมีคณาจารย์สายพระป่า
    ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    มากมายหลายรูป
    ได้มาเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย
    อาทิเช่น
    หลวงปู่หลอด วัดสิริกมลาวาส
    ( วัดใหม่เสนา ) กรุงเทพฯ
    หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    หลวงปู่ชอบ วัดป่าโคกมน จ.เลย
    หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย เป็นต้น
    โดยคุณสมบัติของหินอัญมณี
    ในศาสตร์ทางจีน
    หยกจะให้พลังงานทางเย็น
    ส่งผลดีต่อหัวใจแก่ผู้สวมใส่
    ประกอบกับพุทธคุณ
    ที่พระคณาจารย์ทั้งหลาย
    ได้อธิษฐานจิตลงสู่องค์พระหยก
    พระผงหยกพิมพ์พระพุทธรูปและหลวงพ่อวิริยังค์และ รัชกาลที่๕ ๓ องค์
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250410_015549.jpg IMG_20250410_015610.jpg IMG_20250410_015627.jpg IMG_20250410_015647.jpg IMG_20250410_015719.jpg IMG_20250410_015744.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744281550307.jpg FB_IMG_1744281547456.jpg
    ผานไถ รุ่นรวยพลิกแผ่นดิน พิมพ์ใหญ่
    หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย จ.ปทุมธานี ปี ๒๕๕๑
    เนื้อโลหะ หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ ร่วมปลุกเสก
    “ผานไถ” ถือเป็นเครื่องรางของขลังอีกชิ้นหนึ่งที่มีการสร้างขึ้นมาแต่ครั้งโบราณกาล มีอิทธิคุณเด่นมากมายยิ่งนัก ในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์ แม้กระทั่งผานไถที่มีการใช้งานจริง เมื่อมีการปลดระวาง ชาวบ้านต่างนำมาเก็บไว้บูชาเพื่อให้มีโชคลาภวาสนา โดยในปัจจุบันมีผู้สร้าง “ผานไถ” แล้วมีประสบการณ์ มีชื่อเสียงจนเป็นที่เลื่องลือกันอย่างกว้างขวางมีเพียง 2 รูป นั่นก็คือ หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ และหลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย นั่นเอง
    เหรียญผานไถรุ่นนี้หลวงพ่อทองกลึงท่านสร้างขึ้นโดยรวบรวมมวลสารผานไถเก่าจำนวนมาก แผ่นยันต์เกจิคณาจารย์ต่างๆ ที่เน้นเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์มากมาย รวมถึงมีพระคณาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตผานไถรุ่นนี้นับร้อยรูป พิธีเททองและอธิษฐานจิต มีพระเกจิคณาจารย์ 2 รูป เป็นประธาน ซึ่งนั่นก็คือ หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ และหลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย ซึ่งทั้งสองรูปนี้ต่างก็เชี่ยวชาญในวิชา และการสร้างผานไถ
    ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ผานไถรุ่นนี้จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก นอกจากนี้ยังใช้ทำน้ำมนต์ไล่ภูติผีปีศาจ ไล่ของออกจากผู้ที่ถูกแฝงได้ชะงัดยิ่งนัก จัดเป็นของดีราคาไม่แพง ผู้สนใจรีบเก็บสะสมกันก่อนที่จะหายากในอนาคต
    เหรียญผานไถรุ่นนี้หลวงพ่อทองกลึงท่านสร้างขึ้นโดยรวบรวมมวลสารผานไถเก่าจำนวนมาก แผ่นยันต์เกจิคณาจารย์ต่างๆ ที่เน้นเรื่องโชคลาภ โภคทรัพย์ มากมาย รวมถึงมีพระคณาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตผานไถรุ่นนี้นับร้อยรูป
    พิธีเททองและอธิษฐานจิตผานไถ มีพระเกจิคณาจารย์ 2 รูปเป็นประธานอธิษฐานจิต ซึ่งนั่นก็คือ "หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ "และ "หลวงพ่อทองกลึง วัดเจดีย์หอย" ซึ่งทั้งสองรูปนี้ต่างก็เชี่ยวชาญในวิชาและการสร้างผานไถ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ผานไถรุ่นนี้จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
    โดยหลวงพ่อทองกลึง ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม, หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราชวรวิหาร, หลวงปู่บุตร วัดบางเดื่อ, หลวงปู่รอด วัดเกริน, หลวงพ่อสาลี่ วัดสองพี่น้อง, หลวงปู่เส็ง วัดบางนา เป็นต้น
    วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างน่าบูชาเป็นอย่างมาก
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ..ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250410_173732.jpg IMG_20250410_173811.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    1370962-17f2a.jpg FB_IMG_1740940489811.jpg

    *** เราเป็นอาจารย์ แต่ช่วยตัวเองให้รวยไม่ได้ แล้วเราจะไปช่วยใครเขา ให้เขารวยได้ ***
    อาจารย์ใหญ่ในวิชาการ พรหมศาสตร์
    อ.ทองแถม ศาสตระรุจิ เจ้าตำหรับวิชาพรหมศาสตร์
    ในบรรดาวิชาไสยศาสตร์ เมื่อเรียนกันไปมากๆแล้ว ก็จะต้องไปสื่อกับครูบาอาจารย์ และมหาเทพและเทพยดาทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ในอดีต ที่มีเรื่องเกี่ยวกับเทวดา เช่น อ.ชุม ไชยคีรี พ่อพราหมณ์สุทโธ ก็มีประวัติเกี่ยวข้องกับเทวดาเบื้องบน
    อ.ทองแถม ศาสตระรุจิ ว่ากันว่า วิชาพรหมศาสตร์ของท่าน ได้มาจาก องค์สมเด็จปรมาจารย์ฝ่ายพรหมศาสตร์ หลังจากนั้นไม่นาน ท่านสามารถสร้างตัว เป็นมหาเศรษฐีได้ จนทำให้ผู้ไปพบท่านที่ที่บ้าน เกิดความเคลือบแคลงไม่ได้ ว่าท่านเป็นของจริงหรือเปล่า เพราะเฉพาะเสาบ้าน ขนาดสองคนโอบ แต่เมื่อได้ฟังคำอ.ทองแถม กับทำให้เกิดศรัทธายิ่งขึ้นอีก เพราะท่านพูดว่า เราเป็นอาจารย์ แต่ช่วยตัวเองให้รวยไม่ได้ แล้วเราจะไปช่วยใครเขา ให้เขารวยได้
    พอดีแอดมินไปอ่านเจอเกร็ดประวัติอ.ทองแถม จึงได้คัดลอกให้แฟนเพจได้ทัศนา
    เนื่องในพิธีพรหมาภิเศก “องค์พรหมเทพปฏิมา” เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2506 นี้นั้น พิธีได้กระทำขึ้น ณ เทวสถานโบสท์พราหมณ์ เสาชิงช้า พระนคร เมื่อวันที่ 18 – 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีหลายฝ่ายด้วยกัน อาทิ ฝ่ายสงฆ์มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ฝ่ายวิปัสสนาธุระมีท่านเจ้าคุณราชสิทธิ์ วัดมหาธาตุฯ เป็นประธาน ฝ่ายพราหมณ์มีพระราชครูวามเทพมุนี เป็นประธาน และฝ่ายพรหมศาสตร์มีอาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิ เป็นประธาน ซึ่งผู้เข้าร่วมพิธีทุกฝ่ายต่างก็ประกอบพิธีกรรมตามลัทธิของตน เพื่อความขลัง และศักดิ์สิทธิ์ของ "องค์พรหมเทพปฏิมา" เป็นสำคัญ ...
    ปรากฏว่าในระหว่างพิธีกรรมตลอดเวลา 3 วัน 3 คืนนั้น ผู้เข้าร่วมพิธีแต่ละฝ่ายต่างได้คัดตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษมาทำการปลุกเสกทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายสงฆ์นั้นได้นิมนต์พระอาจารย์ชื่อดังจากวัดต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักรมาร่วมปลุกเสกโดยพร้อมเพรียง นอกจากนั้นยังนิมนต์พระเถระผู้ใหญ่ซึ่งวุฒิเปรียญ 9 ประโยคอีก 9 รูป มาเจริญพระพุทธชัยมงคลคาถาตลอดเวลา...
    พิธีพรหมาภิเศก "องค์พรหมเทพปฏิมา" ครั้งนี้เป็นพิธีที่ใหญ่ยิ่งพิธีหนึ่งในยุคปัจจุบัน ซึ่งบรรดาผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านต่างได้กล่าวยืนยันว่า นอกจากพระอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของฝ่ายต่าง ๆ จะมาเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว ยังมีวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระภิกษุผู้สำเร็จซึ่งมรณภาพไปแล้วกับเทพเจ้าและองค์พรหมบนสวรรค์เสด็จมาเป็นประธานในพิธีนี้ด้วยจำนวนมาก ...
    เพื่อที่จะได้ทราบรายละเอียดว่าในพิธีพรหมาภิเศก "องค์พรหมเทพปฏิมา" ดังกล่าวนี้ได้มีวิญญาณของภิกษุรูปใดเทพเจ้าองค์ใด และพระพรหมองค์ใดเสด็จมาร่วมพิธีบ้างนั้น จึงได้นัดพบกับพ.อ. สมาน วีระไวทยะ (ยศในขณะนั้น) วศบ. ทบ. หัวหน้ากองนโยบายและแผน กรมส่งกำลังบำรุงทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นเจ้าตำรับ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” ที่ชาวไทยและต่างประเทศรู้จักดี กับเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนั่งตรวจทางใน เพื่อนำเหตุการณ์ในวันประกอบพิธีพรหมาภิเศกมาเสนอ ดังนี้ ...
    พ.อ. สมาน วีระไวทยะ เล่าว่า ความจริงท่านไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับพิธีพรหมาภิเศกในครั้งนี้เลย แต่ในระหว่างพิธีวันที่ 19 พ.ย. นั้น ท่านได้รับคำขอร้องจากอาจารย์ชาญไชย ถาวรธารนายช่างพิเศษกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นท่านหนึ่งที่ไปร่วมพิธีในทางด้านฝ่ายพรหมศาสตร์ ขอให้ช่วยนั่งทางในตรวจดูว่ามีวิญญาณของผู้ใดรวมทั้งเทพเจ้าและพระพรหมองค์ใดมาเข้าพิธีบ้าง ท่านจึงได้ไปนั่งตรวจให้ข้าง ๆ พิธีในบริเวณเทวสถานแห่งนั้น ...
    พ.อ. สมาน เล่าว่า เมื่อท่านได้เริ่มนั่งทางในตรวจดูนั้นเป็นเวลาประมาณ 00.30 น. การประกอบพิธีพรหมาภิเษกของเกจิอาจารย์ฝ่ายต่าง ๆ กำลังดำเนินอยู่และในการนั่งตรวจครั้งแรกนั้นพ.อ.สมานได้ตรวจถึงวิญญาณของพระอาจารย์ต่าง ๆ ที่มรณภาพไปแล้วว่าจะมีรูปใดมาในพิธีบ้าง ...
    เมื่อนั่งหลับตาเข้าสมาธิแล้วสักครูก็เห็นว่าภาพในบริเวณเทวสถานมืดสนิทลงแล้วค่อย ๆ มีแสงสว่างจ้าเป็นประกายขึ้นโดยรอบ ทันใดนั้นก็เห็นภาพของพระอาจารย์ต่าง ๆ ปรากฏขึ้นทีละองค์ อาทิ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม หลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด หลวงพ่อลี วัดอโศการาม และพระอาจารย์สำคัญองค์อื่น ๆ รวม 15 องค์ด้วยกัน และแต่ละองค์ได้บอกให้นายพันเอกแห่งกองทัพบกทราบว่าท่านจะได้มาร่วมในพิธีนี้ทุก ๆ วันจนเสร็จสิ้นพิธี
    ภายหลังจากได้ตรวจดูพระอาจารย์ต่าง ๆ จนทั่วถึงแล้ว พ.อ. สมานจึงได้เปลี่ยนเป็นตรวจดูเทพเจ้าที่มาในพิธีบ้าง หลังจากนั่งสมาธิก็ได้เห็นภายในบริเวณเทวสถานกลับมืดสนิทลงเหมือนครั้งที่แล้ว ชั่วครู่ต่อมาก็ปรากฏเป็นแสงสีเขียวรุ่งโรจน์ขึ้น แต่ไม่ปรากฏร่างของเทพเจ้าองค์ใดให้เห็น แต่จากแสงสีเขียวนี้ พ.อ.สมานทราบว่า เป็นแสงประจำองค์เทพเจ้าชั้นสูงหลายองค์ อาทิ
    ... พระนารายณ์ พระพิฆเณศวร์ และสมเด็จพระอัมรินทราธิราช ...
    ดังนั้นเพื่อจะขอทราบว่าเทพเจ้าองค์ใดในสามองค์นี้จะเป็นผู้เสด็จมา นายพันเอกจึงตั้งอธิษฐานขอให้ท่านเจ้าของแสงปรากฏพระองค์ให้เห็นด้วย ครั้นอธิษฐานเสร็จก็ค่อย ๆ ปรากฏร่างของเทพเจ้าองค์หนึ่งขึ้นราง ๆ และค่อย ๆ เด่นชัดขึ้นจนเห็นได้ถนัด เทพเจ้าองค์นี้มีทั้งหมด 4 กร จึงทราบได้ว่าเจ้าของแสงสีเขียวรุ่งโรจน์ที่เสด็จมานั้นคือ "องค์พระนารายณ์" หรือ "พระวิษณุเทพ" นั่นเอง พร้อมกันนั้นองค์พระนารายณ์ก็ได้ตรัสให้ พ.อ. สมานทราบเช่นเดียวกับพระอาจารย์องค์อื่น ๆ ...
    ในการตรวจทางในขั้นสุดท้าย พ.อ.สมาน ได้ตรวจว่าเทพเจ้าขั้นพรหมนั้นจะมีองค์ใดเสด็จมาบ้าง ครั้นได้ทำสมาธิและปรากฏความมืดสนิทขึ้นมาแล้ว ก็ปรากฏแสงสีขาวนวลคล้ายสีของไข่มุกเป็นประกายรุ่งโรจน์ และพร้อมกับแสงสีที่ปรากฏขึ้นนั้น นายพันเอกแห่งกองทัพบกก็ได้เห็นภาพของพระพรหมองค์สมเด็จปรมาจารย์ฝ่ายพรหมศาสตร์เสด็จมาเอง...
    เมื่อได้นั่งทางในตรวจเห็นบรรดาพระอาจารย์ต่าง ๆ รวมทั้งเทพเจ้าและพระพรหมองค์ใดที่เสด็จมาในพิธีแล้ว พ.อ.สมานจึงได้เขียนบันทึกมอบให้อาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิ ประธานฝ่ายพรหมศาสตร์เก็บไว้เป็นหลักฐาน
    ทั้งหมดนี้คือบันทึกที่มีขึ้นในปี พ.ศ. 2506 เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่การเห็นการรู้ของหลาย ๆ ท่านตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งท่าน พลโท สมาน วีระไวทยะ และอาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิแม้แต่การสร้างพระมหาเทพทั้งสามของวัดโกรกแก้ววงพระจันทร์ ซึ่งหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เป็นผู้ปลุกเสก พระผงรูปพระนารายณ์ก็ยังใช้ "ผงสีเขียว" ในการสร้าง ซึ่งตรงกับสีรัศมีกายของพระองค์พอดี นับว่าผู้จัดทำมีความรอบคอบยิ่งนัก ...
    แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้น ไม่ได้แปลว่าไม่มี และบางสิ่งที่เราไม่เชื่อ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอยู่จริงเช่นกัน ...
    ขอขอบคุณ ท่านเจ้าเรื่องและภาพ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญพระพรหมอาจารย์ทองแถม กะไหล่ทองลงยาสีแดง ปี ๒๕๒๙

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250410_193211.jpg IMG_20250410_193238.jpg
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744282963269.jpg FB_IMG_1744306775054.jpg FB_IMG_1744306777725.jpg FB_IMG_1744306780293.jpg

    พระผงนาคปรก พระธาตุพนม ที่ระลึกสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ วัดพระธาตุพนม อ.เมือง จ.นครพนม ปี 2518 รวมเกจิสายอีสาน ร่วมปลุกเสก โดยเฉพาะอาจารย์ฝั้น อาจาโร ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์จากทั่วประเทศ และ สายอีสานพระอาจารย์มั่น รวมจำนวนกว่า 100 รูป พิธียิ่งใหญ่มาก งานนี้พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม, หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก และคณาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายรูป ปัจจุบันหายากแล้วนะครับ สายอีสานไม่ควรพลาด สภาพเดิมๆจากวัด พระพุทธคุณสูง พิธีดี พระรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นในปี 2518 ในการฉลองการบูรณะพระธาตุพนม ซึ่งมวลสารที่ใช้ก็มีทั้งปูนพระธาตุ ว่านมงคล ผงวิเศษ แร่มงคล ปลุกเสกโดยเกจิสายกรรมฐานหลายสิบรูป ร่วมทำการปลุกเสกด้วย นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาโดยแท้ องค์นี้พระสวยมาก ไม่เคยใช้เลย เก็บก็ดี บูชาก็เยี่ยม
    พระผง พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม ปี2518 ที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ วันที่ 26 ธันวาคม 2518 รวมเกจิสายอีสาน ร่วมปลุกเสก โดยเฉพาะอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ เกจิสายอาจารย์มั่น ร่วมปลุกเสก "พระธาตุพนม" ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของชาวพุทธสองฝั่งโขง ประดิษฐานอยู่ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นใน พ.ศ. 8 มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุสิ่งของมีค่ามากกว่า 2,500 ชิ้น และบรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า) และพระบรมสารีริกธาตุอีกหลายองค์ ตลอดระยะที่ผ่านมามีการบูรณปฏิสังขรณ์รวม 5 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 องค์พระธาตุพนม ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครพนม ได้ล้มครืนพังทลายลง ได้สร้างความเศร้าสลดให้กับพุทธศาสนิกชนไทยทั้งประเทศ พระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก) พระพุทธเจ้าและพระบรมสารีริกธาตุอีกหลายองค์ภายหลังพบพระอุรังคธาตุได้ 2 เดือน 26 วัน ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุอื่นๆ อีก 115 องค์ อัญเชิญประดิษฐานในพลับพลาพิธี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่รวม 7 วัน 7 คืน ในระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2518 - 1 ม.ค. 2519 ถือเป็นงานสมโภชระดับชาติ ที่มีพิธีทางพระพุทธศาสนาและพิธีทางบ้านเมืองไปพร้อมกันวันที่ 26 ธันวาคม 2518 ประมุขฝ่ายสงฆ์ นำโดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ 17 รูป เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯทรงสรงพระกรัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรซากปรักหักพังขององค์พระธาตุพนม ก่อนเริ่มพระราชพิธี 3 วัน จังหวัดนครพนม โดยนายพิศาล มูลศาสตรสาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก "สมโภชพระธาตุพนม" นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่ลานต้นศรีมหาโพธิภายในวัด ปลุกเสกโดยคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจากสำนักต่างๆ จำนวน 9 รูป หนึ่งในนั้นมีพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระเกจิชื่อดังร่วมในพิธีแผ่เมตตาจิต วัตถุประสงค์ตั้งใจ เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะองค์พระธาตุพนม รุ่นนี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีประสบการณ์สูง ด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นที่นิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ ตชด. และ นปข.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิ เป็นวัตถุมงคลที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและมีพุทธานุภาพสูง วัตถุมงคล พระธาตุพนม ที่ระลึกในงานสมโภชพระบรมสารีริกธาตุปี 2518 เกจิดังสายกรรมฐานปลุกเสกหลายองค์ จัดสร้างเป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2518 ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์จากทั่วประเทศ และสายอีสานพระอาจารย์มั่น รวมจำนวนกว่า 100 รูป พิธียิ่งใหญ่มาก งานนี้พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพฯ นครพนม, หลวงปู่คําพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญญวิเวก และคณาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายรูป ได้ร่วมในพิธีด้วย เนื่องจากเป็นพิธีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินในคราวนี้ด้วย พระรุ่นนี้ออกให้ประชาชนเช่าบูชาพร้อมกับเหรียญพระธาตุพนม เพื่อนำปัจจัยมาทำการบูรณะพระธาตุพนม ซึ่งได้ สร้างเสร็จเมื่อปี 2522 วัตถุมงคลรุ่นนี้มีประสบการณ์ดีมาก ทางด้านแคล้วคาด คงกะพันชาตรี เป็นนิยมในหมู่ทหาร ตำรวจ และ นปข. (หน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง) พระธาตุพนมเป็นพระธาตุที่บรรจุพระอุรังคธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครที่ไปสักการะถือเป็นมงคลต่อชีวิตอย่างยิ่ง พระธาตุพนมนั้นประดิษฐานพระอุรังคธาตุของสมเด็จพระบรมศาสดาเอาไว้ และมีพญานาคจากนครพิภพพลัดกันเข้าเวรอารักษ์ขาพระธาตุ ดังนั้นปรกพระธาตุพนมจึงแทนองค์พระธาตุพนมและพญานาค ผู้ใดมีไว้ติดตัวเรื่องแคล้วคลาดดีนัก
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250410_232649.jpg IMG_20250410_232715.jpg
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,079
    ค่าพลัง:
    +21,378
    FB_IMG_1744320487531.jpg

    พระปิดตา หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ ปี2537 เนื้อผงใบลาน เจ้าตำรับ 5ม.(น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก
    หลวงพ่อเมี้ยน หรือพระครูพุทธสิริวัฒน์ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ฯลฯ
    หลวงปู่เมี้ยน พุทธสิริ หรือท่านพระครูพุทธสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ (กบเจา) ตำบลกบเจา อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระที่สมควรเคารพกราบไหว้องค์หนึ่ง…หลวงปู่บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ลาสึกเมื่ออายุ ๒๐ ปีเพื่อสมัครเข้ารับราชการทหาร..แต่เพราะเป็นคนรูปร่างเล็ก จึงไม่ได้เข้ารับราชการ ท่านจึงได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุและได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ ปฏิบัติกรรมฐานในป่าดงดิบมาโดยตลอด
    จนมีอายุมากขึ้นจึงได้หยุดเดินธุดงค์ และด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีความเชี่ยวชาญในด้านคาถาอาคม ส่งผลให้ท่านก้าวขึ้นเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ให้กับลูกศิษย์และญาติโยมได้ทุกเรื่อง..
    “ฉันมีความรู้สึกว่า เราเป็นพระใครก็ว่าพระเป็นแต่ผู้รับของจากญาติโยมอย่างเดียว ไม่ได้ให้อะไรตอบแทนเป็นชิ้นเป็นอันที่เป็นรูปธรรมเลย....
    ให้แต่ศีล ให้แต่ธรรม เป็นนามธรรมทั้งนั้น ฉันจึงต้องแสวงหาวิชาเพื่อตอบแทนญาติโยม อย่างเช่นการรักษาโรค การรักษาพวกขาหัก....”
    “พวกที่เข้าเฝือกปูนมาจากโรงพยาบาล ถ้าให้ฉันรักษา ต้องตัดเฝือกปูนออก..
    เพราะการเข้าเฝือกปูนจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ที่ร้ายแรงคือแผลเน่าข้างใน ทำให้บางคนกลายเป็นเนื้อร้าย อาจถึงกับต้องตัดขาก็มี..
    ฉันต้องตัดเฝือกปูนออกแล้วใช้เฝือกไม้ไผ่ยึดกระดูกแทน มันก็แน่นดีไม่แพ้เฝือกปูนแต่รักษาง่ายกว่า เอาน้ำมันหยอดชโลมได้ แผลก็แห้งเร็ว ไม่อบ ไม่ร้อน จะคันตรงไหน ก็เกาพอให้บรรเทาได้...”
    วัตถุมงคลสุดยอดแต่คนทั่วไปกลับมองข้าม
    มีท่านใดที่สะสมพระสมเด็จหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจาบ้างครับ มีใครรู้จักบ้างมั้ยเอ่ย?หากเอ่ยชื่อ 3 ทหารเสือในแห่งยุค มีเกจิอาจารย์ท่านบอกมานั่นก็คือ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย (พี่ใหญ่) หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา (พี่รอง ) และหลวงปู่ทิม วัดพระขาว (น้องเล็ก) แต่แปลกนะครับ พระเครื่องท่านไม่ค่อยโด่งดัง ทำให้หลายคนมองข้ามพระเครื่องของท่านไปอย่างน่าเสียดาย ประวัติของท่านไม่ธรรมดาครับ ท่านเป็นพระสุปฏิปัณโณ ทีมีลูกศิษย์มากมายยิ่งนัก ท่านเป็นพระรักษาโรค ชอบช่วยเหลือบุคคลทั่วไป ปฏิปทาของท่านจะคล้ายๆกับหลวงพ่อปาน คือชอบช่วยเหลือคน รักษาโรค
    หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจาท่านเก่งมากครับ ท่านเป็นพระที่คงแก่เรียนมากครับ เพราะเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โถ (ศิษย์หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล) หลวงพ่อเลียบ วัดเลา หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงส์ นครสวรรค์ และหลวงพ่อ วัดโบสถ์ เสนาฯ มอบตำราของวัดประดู่ทรงธรรมให้กับท่าน
    ครั้งหนึ่งมีงานพุทธาภิเษก ที่วัดบางนมโค ประมาณปี 2536-37 มีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศมาร่วมพิธีมากมาย วันนั้นมีหลวงพ่อจากประจวบคีรีขันธ์ ผู้เด่นดังทางด้านปลัดขิกที่สุดในช่วงนั้นก็ร่วมพิธีด้วย และมาถึงตอนใกล้จะถึงเวลาฤกษ์เสกพอดี ท่านพูดออกมาว่า " วันนี้ขอลองวิชากับพระอยุธยาหน่อย" ปรากฎว่าหลวงพ่อองค์นั้นท่านใช้กสิณไฟในช่วงที่นั่งปลุกในโบสถ์ ทำให้บริเวณพิธีอากาศร้อนมากๆ ทำให้เวลาผ่านไปพระเกจิอาจารย์ที่เข้ามาร่วมพิธีเหงื่อแตกเกือบทุกองค์ บางองค์เริ่มทนอากาศร้อนไม่ไหวก็เริ่มทยอยออกจากโบสถ์ จนกระทั่งเวลผ่านไปประมาณชั่วโมงเหลือพระเกจิอยุธยาไม่กี่องค์ กับหลวงพ่อจากประจวบคีรีขันธ์ และเมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ทำให้บางองค์ต้องลุกออกจากโบสถ์เหลือหลวงพ่อเมี้ยน กับหลวงพ่อจากประจวบคีรีขันธ์ เพียง 2 องค์จนกระทั่งปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อจากประจวบคีรีขันธ์ ยกมือไหว้หลวงพ่อเมี้ยนและกล่าวว่าผมยอมหลวงพ่อแล้วครับ มีศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า ไม่รู้จักเมี้ยนซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ (เข้าใจว่าหลวงพ่อจงท่านเก่งอาโปกสิณมาก ขนาดพ่อท่านคล้ายยังยอมรับท่านเลยครับ) พระเครื่องของหลวงพ่อเมี้ยนนั้นแทบทุกรุ่นล้วนต่างมีประสบการณ์จริงครับ ของท่านตัวจริง ของจริง เสียงจริง ครับ หาตัวบุคคลมายืนยันได้จริงครับ ไม่มีอุปโหลกขึ้นมาแต่อย่างใด
    ขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    หากเอ่ยชื่อ 3 ทหารเสือเกจิแห่งยุค หลวงพ่อเมี้ยน คือหนึ่งในนั้น โดยประกอบด้วย หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย (พี่ใหญ่) หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา (พี่รอง) และหลวงปู่ทิม วัดพระขาว (น้องเล็ก)
    ประวัติ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา
    #ชีวประวัติ
    หลวงพ่อเมี้ยน พุทฺธสิริ หรือ พระครูพุทธสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาส วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ท่านมีนามเดิมว่า เมี้ยน นามสกุล เกิดโภคทรัพย์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะเส็ง (ตรงกับปี พ.ศ. 2460) ที่บ้านหาดทราย หมู่ 9 ต.กบเจา อ.บางบาล จ.อยุธยา เป็นบุตรของ นายแก้ว และ นางทองม้วน เกิดโภคทรัพย์ มีพี่น้องร่วมอุทร 8 คน
    หลวงพ่อท่าน เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนมาตั้งแต่เด็ก (ปล. เรียกว่า เป็นคนแก่เรียนเอามากๆเลยครับ) หลวงพ่อท่านจะชอบศึกษา ค้นคว้า อยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง เนื่องจากบิดาของท่านเป็นหมอยากลางบ้าน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ยาแผนโบราณต่างๆ ทำให้หลวงพ่อท่าน ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ด้านสมุนไพร และ ตัวยาแผนโบราณต่างๆ เพียงอายุยังน้อย เพราะท่านจะออกตาม บิดาท่าน ไปรักษา ผู้คนอยู่บ่อยๆ ไม่เพียงแต่ ด้านการแพทย์ ที่ท่านใฝ่ศึกษา และเรียนรู้ แต่ท่านยังชอบศึกษาหลักพระธรรม อีกด้วย (ปล. คงเป็นเพราะ ด้วยนิสัยส่วนตัว ของท่านเป็นคนใจดี มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว) ภายหลัง ท่านมีโอกาสได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยได้รับการศึกษาภาษาบาลี ที่วัดดาวดึงษาราม ธนบุรี สอบได้ชั้นมูล 2 และสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาท่านได้สึกออกมา เพื่อช่วยงานที่บ้านอยู่พักนึง จนกระทั่งพออายุครบบวช ท่านจึงได้ทำการอุปสมบท ที่วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ในปี พ.ศ. 2481 โดยมี พระครูปุ้ย วัดธรรมโชติการาม (วัดขวิด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการหลิ่ว วัดพิกุลโสคันธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูหลิ่ม วัดโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า ” พุทฺธสิริ ”
    เมื่อบวชเป็นพระแล้ว หลวงพ่อท่านก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย และปฏิบัติในทางพระกรรมฐาน จนมีจิตใจมั่นคงต่อ พระพุทธศาสนา หลังการบวชได้ 7 พรรษา หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กบเจา แทนเจ้าอาวาสองค์ก่อน ที่มรณภาพลง หลวงพ่อท่าน ได้ทำหน้าที่ของท่าน เป็นอย่างดี โดย ท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจ ที่ยึดมั่น และที่พึ่งของชาวบ้าน เรื่อยมา
    จวบจน กาลเวลาที่ชาวบ้านได้สูญเสีย ร่มโพธิ์ ร่มไทร ที่พวกเค้า เชิดชู เคารพ รัก และศรัธทายิ่ง ของพวกเค้าไป ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2541 หลวงพ่อได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 81 ปี 60 พรรษา
    #การศึกษาพุทธคม
    นี่คือตำนานบทสำคัญ ของ อมตะเถระแห่งเมืองกรุงเก่า ผู้เป็นเจ้าตำรับ 5 ม. (น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก) อันโด่งดัง เนื่องด้วยท่านเป็น พระคงแก่เรียน อยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงทำให้ หลวงพ่อท่าน มักจะศึกษา หาข้อมูล ความรู้ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพวิชา อาคมต่างๆ ที่ได้เล่าได้เรียนมาจาก สุดยอดคณาจารย์ที่โด่งดังตลอดกาลอย่าง “พระทองคำ” หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ, หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท, หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ จนเป็นที่ยอมรับ และกล่าวขาน เรื่อยมา
    ในส่วนของ ยันต์ ” นะฉัพพรรณรังษี ” ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์ ยันต์ตัวเก่งของหลวงพ่อนั้น การได้มาก็ไม่ธรรมดา ตามประวัติขณะที่ท่านกำลังเจริญกรรมฐานนั้น ได้ปรากฎ ” ภิกษุชรา ” รูปหนึ่ง มาบอกวิธีการเขียนยันต์ ” นะฉัพพรรณรังษี ” ตัวนี้ พร้อมทั้งวิธีการเรียก การเสก ครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งต่อมาท่านจึงได้ทราบว่า พระภิกษุชรารูปนั้น ก็คือ ” หลวงพ่อรอด (เสือ) แห่งวัดประดู่ทรงธรรม ” นั้นเอง หลังจากนั้น ท่านจึงได้ใช้ยันต์ ” นะฉัพพรรณรังษี ” ในการปลุกเสกวัตถุมงคลมาโดยตลอด
    #วัตถุมงคล
    ในส่วนของวัตถุมงคล ของหลวงพ่อท่าน แต่ละรุ่น แต่ละยุคสมัย มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีจุดเด่นในเรื่องของพุทธศิลป์ ความสวยงาม และ เข้มขลัง ด้วยพิธีการโบราณ ดั่งเดิม
    ช่วงเวลาการสร้างวัตถุมงคล ของหลวงพ่อท่าน แบ่งได้ โดยสังเขป ดังนี้
    1. ปี พ.ศ. 2490-2505 (พระผงยุคแรก พระขุนเผ่น,พระผงพุทธรักษา)
    2. ปี พ.ศ. 2510 (เหรียญปั้มพุทธรักษารุ่นแรก)
    3. ปี พ.ศ. 2520-2524 (เหรียญรุ่นแรก, เหรียญกตัญูญ, เหรียญทรงเต่าหลังยันต์เกราะเพชร)
    4. ปี พ.ศ. 2530 (เหรียญ 70 ปี โพธิ์รอบ ทั้ง กลม-ไข่, พระรูปหล่อรุ่นแรก)
    5. ปี พ.ศ. 2534 (เหรียญนะโม, เหรียญหล่อหน้าใหญ่, เหรียญพระกริ่งพุทธรักษา ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย)
    6. ปี พ.ศ. 2535 (พระกริ่งช่อฟ้า, เหรียญหล่อช่อฟ้าเต็มองค์, มีดหมอรุ่นแรก ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย)
    7. ปี พ.ศ. 2536 (ชุดพระกริ่ง-พระชัย และรูปหล่อ มโหสถ, ชุดพิธีเสาร์5 พญาวัน เหรียญเศรษฐี เหรียญเมตา พระกริ่ง-พระชัย พ่อครูนั่งยอง ปรกตัวหนอน พระรูปหล่อ ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย) (ชุดเหรียญไตรมาส 36 ออกวัดโพธิ์ฯ)
    8. ปี พ.ศ. 2537 (พระชุดสิริวัฒน์ พระกริ่งอะระหัง เหรียญหล่อยันต์กลับ เหรียญหล่อเกลียวเชือด เหรียญหล่อพัดยศ เหรียญหล่อพ่อครู เหรียญหล่อพระราหู เหรียญนั่งพาน ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย) (พระนาคปรกใบมะขามรุ่นแรก, เหรียญหล่อปลอดโรค-ปลอดภัย ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย)
    9. ปี พ.ศ. 2539 ( พระกริ่ง 79, พระชุด “บุญนิธิ” ที่ตอกโค๊ด “บุญนิธิ” ทั้งหมด ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย)
    10. ปี พ.ศ. 2540 (ท้าวเวสสุวรรณ, เหรียญแจกทาน ศิษย์สายวัดสุทัศน์ฯสร้างถวาย) (เหรียญชุด 80 ปี ออกวัดโพธิ์ฯ)
    —ในส่วนของพุทธคุณ และประสบการณ์ จะเห็นเด่นชัด ในรื่องของ โชคลาภ เมตตา ค้าขาย และ เรื่องคงกระพัน ชาตรี มหาอุตม์ หยุดลูกกระสุน (ปล. อันนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ สำหรับคนในพื้นที่ ที่แขวนพระของหลวงพ่อ)—
    ประวัติของท่านไม่ธรรมดา ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โถ, หลวงพ่อเลียบ วัดเลา, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ, หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงส์ ฯลฯ
    พระเครื่องของหลวงพ่อเมี้ยนจัดได้ว่าเป็นตัวจริงเสียงจริง โดยมีจำนวนไม่มากรุ่น แต่แทบทุกรุ่นล้วนต่างมีประสบการณ์มากมาย แม้แต่หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ก็ยังแนะนำลูกศิษย์ให้ไปกราบสักการะท่าน หลังจากหลวงพ่อเมี้ยนท่านละสังขารแล้วไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันทางวัดบรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ


    ** หมึกปั๊มใต้ฐานพระ จางลงมากครับ ต้องดูใกล้ๆจะเห็นสีแดงจางๆ **
    พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่

    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250411_041704.jpg IMG_20250411_041732.jpg IMG_20250411_041805.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...